แม่ปวดหัวหนัก ลูก 3 ขวบ งอแง ลูก 2 ขวบ ก้าวร้าว เอาแต่ใจ ปราบยังไงดีให้อยู่หมัด!

ลูก 2 ขวบ งอแงและก้าวร้าว ลูก 3 ขวบ เอาแต่ใจ ดื้อหนักมาก จนแม่ปวดหัว ปราบพยศเจ้าตัวดียังไงดี แบบไม่มีดราม่า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ปัญหาน่ากลุ้มใจของแม่ ๆ ลูกวัยเตาะแตะ บางคนต้องเผชิญกับปัญหา วัยทอง 2 ขวบ ลูกก้าวร้าว เอาแต่ใจ ลุกลามไปยัง ลูก 3 ขวบ งอแง เลี้ยงยาก แล้วแม่จะทำยังไง วิธีเลี้ยงลูกวัยเตาะแตะ ต้องทำยังไง

ปัญหาน่ากลุ้มใจของแม่

Terrible Twos และปัญหา ลูก 3 ขวบ งอแง ดื้อ เอาแต่ใจ 

7 เทคนิครับมือความดื้อของลูกน้อยวัยเตาะแตะ

คุณพ่อ คุณแม่หลายท่านคงจะได้พบกับ ปัญหาลูกน้อยที่เริ่มเข้าสู่วัย 2-3 ขวบ มักจะเริ่มดื้อ และเอาแต่ใจตัวเองมาก ที่เรียกกันว่า “terrible twos” ซึ่งอันที่จริงแล้วเป็นพัฒนาการที่ปกติของลูกวัยนี้ ซึ่งได้ก้าวข้ามผ่านวัยทารก และเริ่มมีความคิดเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น จึงไม่ชอบให้ใครบังคับ และต่อต้านสิ่งที่ผู้ใหญ่เสนอ บางครั้งอาจแสดงความเอาแต่ใจตัวเองมากจนกรีดร้อง หรือนอนดิ้นบนพื้น เนื่องจากในวัยนี้อาจยังไม่มีพัฒนาการทางด้านภาษาที่ดี พอจะบอกถึงความต้องการ หรือความรู้สึกทุกอย่างได้

คุณพ่อ คุณแม่บางท่านอาจจะคิดว่าเมื่อลูกเข้าสู่วัย 3 ขวบไปแล้วพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้จะดีขึ้น แต่แท้ที่จริงแล้ว เด็กบางคนอาจมีอาการมากขึ้นด้วยซ้ำ เนื่องจากสามารถพูดได้ชัดเจนมากขึ้น จึงสามารถโต้เถียง อีกทั้งมีพละกำลังที่มากขึ้น อยากจะทำอะไรด้วยตนเองมากขึ้น จึงแสดงอาการขัดขืนผู้ใหญ่ได้มากขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้ เด็กแต่ละคนอาจจะมีความรุนแรงของพฤติกรรมเหล่านี้มาก หรือน้อย แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย ได้แก่

  1. พื้นฐานทางอารมณ์ของลูก
  2. การเลี้ยงดูของครอบครัว

ปัญหาน่ากลุ้มใจของแม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

น่ากลุ้มใจ! เมื่อลูกเลี้ยงยาก

พื้นฐานอารมณ์ของลูกนั้น เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด สำหรับเด็กที่เลี้ยงง่าย ๆ มักจะไม่ค่อยมีปัญหาพฤติกรรมเหล่านี้มากนัก แต่เด็กที่เลี้ยงยาก หรือปรับตัวได้ยากจะพบพฤติกรรมเหล่านี้ได้บ่อยมาก ๆ สิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่ สามารถจัดการได้คือ “การเลี้ยงดูของครอบครัว” ที่จะช่วยอบรม และลดพฤติกรรมเหล่านี้โดยใช้วิธีต่าง ๆ

ลูกน้อยในวัย 2-3 ขวบปีนี้เป็นวัยลูกเล็ก จึงควรจะใช้กระบวนการแก้ไขปัญหา และปรับพฤติกรรมโดยมีครอบครัวเป็นหลัก คุณพ่อ คุณแม่ และสมาชิกทุกคนในบ้านที่ร่วมกันดูแลเด็กควรรับรู้ เข้าใจ และร่วมมือกัน แก้ไขปัญหาด้วยเทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้ ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ด้วยเทคนิคต่าง ๆ ดังนี้

วิธีเลี้ยงลูกวัยเตาะแตะ

1. เป็นแบบอย่างที่ดีของลูก

คุณพ่อคุณแม่ และผู้ใหญ่ทุกคนในบ้านควรเป็นแบบอย่างที่ดีของลูก โดยการไม่แสดงอารมณ์ และพฤติกรรมก้าวร้าว กริ้วโกรธใส่กัน หรือใช้ความรุนแรงในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกันเองระหว่างผู้ใหญ่ หรือพูดคุยกับลูกก็ตาม

2. การให้เหตุผล

คุณพ่อ คุณแม่สามารถอธิบายเหตุผลที่ลูกไม่ควรแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อย่างตรงไปตรงมาโดยใช้คำพูดที่ง่ายและสั้น ไม่ยืดยาว เพราะลูกในวัยนี้อาจจะฟังไม่เข้าใจ หากพูดยาวเกินไป เช่น การห้ามลูกไม่ให้ปีนบันไดเล่น ควรบอกเหตุผลว่า หากพลาดพลั้งไปจะตกลงมา และเจ็บตัวได้ ไม่ใช่เพียงตะโกนห้ามลูกอย่างเดียว

3. การใช้ท่าทีที่หนักแน่นและจริงจัง

การห้ามไม่ให้ลูกแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะไม่ควรนั้น ควรจะใช้ทั้งท่าทาง และน้ำเสียงของคุณพ่อ คุณแม่ ที่หนักแน่นจริงจัง แต่ไม่จำเป็นต้องแสดงความก้าวร้าว โดยสามารถพูดเสียงดังกว่าปกติได้ เพื่อให้ลูกรับรู้ว่าคุณพ่อ คุณแม่ตักเตือนมิได้พูดเล่น ๆ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

4. การใช้สิ่งทดแทน

เมื่อห้ามลูกไม่ให้ทำสิ่งใด ก็ควรบอกลูกว่าสามารถทำสิ่งใดเพื่อทดแทนสิ่งนั้นได้ เช่น หากลูกเขียนฝาผนังบ้านเล่น ก็ควรห้าม และนำกระดาษมาให้ลูกเขียนเล่นแทน

5. การเพิกเฉยหรือไม่ให้ความสนใจ เมื่อลูกแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

หากลูกแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีคุณพ่อ คุณแม่ สามารถที่จะเพิกเฉย ไม่ใส่ใจในพฤติกรรมนั้นเพื่อให้ลูกรู้สึกตัว และเลิกทำพฤติกรรมนั้นในที่สุด เช่น เมื่อลูกแสดงอาการก้าวร้าวก็ไม่ใส่ใจในพฤติกรรมนั้น เมื่อเป็นลูกดีสุภาพอ่อนโยนก็ให้ความสนใจ และรีบกล่าวคำชมเชยเพื่อให้แสดงพฤติกรรมที่ดีออกมาอีก

6. การชมเชยหรือให้รางวัลเมื่อลูกแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสม

คุณพ่อ คุณแม่สามารถพูดจาชมเชยลูกทุกครั้งที่มีพฤติกรรมที่ดี เพื่อให้พฤติกรรมเหล่านี้คงอยู่ได้นาน และอาจพิจารณาให้รางวัลในบางครั้ง ตามที่ตกลงกัน เมื่อลูกแสดงพฤติกรรมที่ดี ทั้งนี้ ไม่ควรใช้วิธีการให้รางวัลเป็นวัตถุสิ่งของบ่อยจนเกินไป

7. การเปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงความคิดเห็นและความรู้สึก

ในบางครั้งที่ลูกแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม จนดูเหมือนจะดื้อและก้าวร้าวนั้น อาจจะเป็นเพราะเขามีความรู้สึกและเหตุผลบางอย่าง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจไม่ทราบ การได้เปิดโอกาสให้ลูกได้พูดความรู้สึกออกมาจึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้ แม้ลูกในวัยนี้จะพูดไม่เก่งนัก แต่หากให้โอกาสแก่ลูก คุณพ่อคุณแม่อาจจะประหลาดใจว่าบางครั้งเขาก็สามารถเล่าถึงความรู้สึกนึกคิดได้พอสมควร และเข้าใจลูกมากขึ้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สาเหตุการก้าวร้าวของลูก

สาเหตุของปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็ก ขึ้นกับปัจจัยหลัก 3 ประการ คือ ปัจจัยทางชีวภาพ จิตใจ และสิ่งแวดล้อม ปัจจัยทางชีวภาพ ได้แก่ โครงสร้างทางสมอง และระดับของสารเคมีที่ทำหน้าที่นำสัญญาณประสาทในสมอง ซึ่งจะมีผลต่อพื้นอารมณ์ของเด็กแต่ละคนทำให้เป็นคนใจร้อน หรือใจเย็น ส่วนปัจจัยทางด้านจิตใจ ได้แก่ ลักษณะบุคลิกภาพของเด็กที่เกิดจากการเลี้ยงดู ทำให้เกิดมีความมั่นคงทางด้านอารมณ์สูง หรือต่ำ มีความอดทนรอคอยได้มากหรือน้อย หรือเด็กที่ถูกเลี้ยงดูโดยการตามใจเอาแต่ใจตัวเองมักมีปัญหาในด้านนี้ ส่วนปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ตัวอย่างพฤติกรรมก้าวร้าวในครอบครัว ตัวอย่างพฤติกรรมก้าวร้าวผ่านทางสื่อ เช่น ทีวี วิดีโอเกม หรือภาพยนตร์ นอกจากนี้พฤติกรรมก้าวร้าวในเด็กบางรายยังอาจเกิดจากปัญหาทางด้านจิตใจ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากจิตแพทย์ เช่น เด็กที่มีภาวะวิตกกังวล ซึมเศร้า ก็จะมีอารมณ์หงุดหงิด ก้าวร้าวได้ง่าย เด็กสมาธิสั้นจะมีปัญหาการควบคุมอารมณ์ จะมีพฤติกรรมก้าวร้าวได้ง่ายกว่าเด็กทั่วไป

ปัญหาน่ากลุ้มใจของแม่

วิธีช่วยเด็กก้าวร้าว

1. กำหนดขีด จำกัด ที่มั่นคงและสม่ำเสมอ เด็กต้องรู้ว่าพฤติกรรมคืออะไรและไม่ได้รับอนุญาต ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกคนที่ดูแลบุตรหลานของคุณรับทราบกฎที่คุณตั้งไว้ตลอดจนการตอบสนองต่อการใช้หากเขาแสดงพฤติกรรมนี้ เด็กที่เตะต่อยหรือกัดควรถูกตำหนิทันทีเพื่อให้เขาเข้าใจว่าเขาทำอะไรผิด

อย่าลืมชมลูกน้อยของคุณที่แสดงพฤติกรรมไม่รุนแรง บอกให้เธอรู้ว่าคุณสังเกตเห็นเมื่อเธอจัดการกับความโกรธในทางบวก

3. ปลูกฝังการควบคุมตนเองให้ลูก เด็กไม่มีความสามารถโดยกำเนิดในการควบคุมตนเอง พวกเขาต้องได้รับการสอนว่าอย่าเตะตี หรือกัด เมื่อใดก็ตามที่พวกเขารู้สึกเช่นนั้น เด็กต้องการคำแนะนำจากผู้ปกครองในการพัฒนาความสามารถในการควบคุมความรู้สึกของเขา และคิดถึงการกระทำของเขาก่อนที่จะทำตามแรงกระตุ้น

4. หลีกเลี่ยงการกระตุ้น “ความทรหด” ในบางครอบครัวควรส่งเสริมความก้าวร้าวโดยเฉพาะในเด็กผู้ชาย พ่อแม่มักใช้คำว่า “ยาก” เพื่อชมเชยเด็ก สิ่งนี้อาจทำให้เด็กรู้สึกว่าต้องเตะ และกัดเพื่อให้ได้รับความเห็นชอบจากผู้ปกครอง

5. อย่าตบตีเป็นระเบียบวินัย พ่อแม่บางคนตบ หรือตีลูกเพื่อเป็นการลงโทษ เด็กที่ถูกลงโทษทางร่างกายสามารถเริ่มเชื่อว่านี่เป็นวิธีที่ถูกต้องในการจัดการกับผู้คนเมื่อคุณไม่ชอบพฤติกรรมของพวกเขา การลงโทษทางร่างกายสามารถเสริมสร้างความก้าวร้าวของเด็กต่อผู้อื่น

6. ควบคุมอารมณ์ของคุณเอง

ให้ลูกของคุณได้เห็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในบ้านของคุณได้รับการแก้ไขอย่างสันติ เด็ก ๆ เลียนแบบผู้ใหญ่ วิธีจัดการกับความโกรธ และความหงุดหงิดของตัวเองส่งผลกระทบต่อลูกของคุณ สร้างแบบจำลองทักษะการเผชิญปัญหาเชิงบวก เช่น ทำสิ่งที่ทำให้คุณสงบ หรือหลีกหนีจากสถานการณ์ที่น่าหงุดหงิด และลูกของคุณก็มีแนวโน้มที่จะทำ เช่นเดียวกัน

8. ให้ความสะดวกสบายและความเสน่หา

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บอกให้ลูกน้อยของคุณรู้ว่าคุณใส่ใจสถานการณ์ และความรู้สึกของเขาอย่างแท้จริง เด็กวัยเตาะแตะสามารถอุ่นใจได้จากการปรากฏกายของคุณเนื่องจากเด็กโตสามารถเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าหงุดหงิดได้ และอย่าดูถูกพลังของการกอดที่จะทำให้ใครสักคนรู้สึกรัก และยอมรับ

จะเห็นได้ว่าเรามีวิธีต่าง ๆ มากมายในการจัดการ กับพฤติกรรม ที่ดูเหมือนดื้อดึงของลูกวัย 2-3 ขวบ ทั้งนี้ หากคุณพ่อคุณแม่สามารถสอนให้ลูกรู้จักควบคุมอารมณ์โกรธ รู้จักการรอคอย แสดงให้เห็นอยู่เสมอว่าคุณพ่อคุณแม่รักลูก และคอยเสริมสร้างความภาคภูมิใจในตนเองให้กับลูก ก็จะสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดพฤติกรรม ไม่พึงประสงค์ของวัยนี้ได้อีกด้วย

ที่มาอ้างอิง https://www.manarom.com , https://www.parents.com

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ดื้อต่อต้าน โรคพฤติกรรมดื้อต่อต้าน หากลูกเกิน 3 ขวบแล้วยังเป็นอย่างนี้ ใช่เลย!

5 วิธีสอนลูกให้รู้จักหน้าที่ กิจกรรมฝึกความรับผิดชอบ ทำได้ตั้งแต่เด็กเล็ก

สอนลูกให้มีวินัย ฉลาดสมวัยต้องเลี้ยงลูกแบบ EF