ชวนแม่มือใหม่มาเรียนรู้ ร่างกายทารก
สำหรับคุณแม่มือใหม่ ย่อมมีความเห่อลูกเป็นธรรมดา อีกทั้งยังมักจะมีความกังวลไปต่างๆนานา เรามาทำความรู้จักกับ ร่างกายทารก กันดีกว่าครับ ว่าหลังคลอด เจ้าตัวน้อยจะเป็นอย่างไรบ้าง
น้ำหนักทารก
โดยปกติแล้ว เด็กแรกเกิดที่คลอดตามปกติ ไม่ได้คลอดก่อนกำหนด จะมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.5 – 4 กิโลกรัม และในช่วง 2 – 3 อาทิตย์แรกหลังคลอด น้ำหนักทารก จะเพิ่มขึ้นอยู่ระหว่าง 175 – 225 กรัม ต่อสัปดาห์ จนเมื่อทารกมีอายุได้ ประมาณ 6 เดือน น้ำหนักทารกก็จะเพิ่มเป็น 2 เท่าจากช่วงแรกคลอด และจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ไม่เร็วเหมือนในช่วง 6 เดือนแรกครับ
ผิวหนัง
ผิวหนังของทารกแรกเกิดมักจะมีสีชมพูเข้ม อาจจะมีขนอ่อนๆอยู่ตามแขน และบริเวณหลัง ในขณะที่เด็กทารกบางคนก็อาจจะมีขนอ่อนๆทั่วร่างกายเลยก็มีครับ
ดวงตาของทารก
หลังจากที่คลอดใหม่ๆ ดวงตาของเด็กแรกเกิดจะมีลักษณะโปนเล็กน้อย มีสาเหตุมาจากการที่หนังตาของทารก มีการหดตัวระหว่างคลอด ในช่วงแรกนั้น เด็กอาจจะยังมองเห็นได้ไม่ชัดนัก และเป็นเพียงภาพเบลอๆ แต่จะมองเห็นชัด และเริ่มโฟกัสสิ่งที่เคลื่อนไหวได้ในช่วงประมาณ 2 เดือนหลังคลอดครับ
สะดือทารก
หลังจากคลอดใหม่ๆ จะสังเกตเห็นว่า เจ้าตัวน้อยยังมีสายสะดือติดอยู่ ลักษณะของสายสะดือทารกนั้น จะมีสีอ่อนๆ ยังไม่แห้งดี
ภายใน 10 วัน สายสะดือของทารกมักจะแห้ง แระเริ่มมีสีคล้ำ และจะค่อยๆหลุดออกไป หลังจากนั้น ร่างกายทารก จะเริ่มสร้างเนื้อเยื่อ และพัฒนาต่อมาเป็นผิวหนังครับ
เต้านม
ไม่ใช่เฉพาะทารกเพศหญิงเท่านั้นนะครับที่มีเต้านม แต่ทารกเพศชายบางคนก็มีได้เหมือนกัน ในทารกที่คลอดตามกำหนดบางคนอาจจะคลำเจอเต้านม และอาจจะมีน้ำนมไหลออกมา 2 – 3 หยด อาการแบบนี้ ถือว่าไม่อันตรายอะไรนะครับ และเมื่อเวลาผ่านไป เต้านมก็จะค่อยๆเล็กลงจนเป็นปกติ
อวัยวะเพศ
ในเด็กผู้ชาย ปลายองคชาตจะยังคงปิดอยู่ และลูกอัณฑะจะอยู่ในถุงอัณฑะเรียบร้อยแล้ว และในเด็กทารกบางคน อาจมีอาการถุงอัณฑะยานได้
ในเด็กผู้หญิง ช่วงแรกคลอดอวัยวะเพศอาจมีลักษณะบวมเล็กน้อย และอาจจะมีสีคล้ำ ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนของแม่ โดยอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1 – 2 สัปดาห์นะครับ
ปานเด็กแรกเกิด
ปาน เป็นความผิดปกติของเซลล์สร้างเม็ดสี ส่วนชนิดของปานนั้น ก็จะมีรูปร่าง ขนาด และสีที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งแบบเป็นถาวร หรือเป็นแล้วสามารหายไปได้ ทั้งอันตราย และไม่อันตรายครับ
อ่านเพิ่มเติม
ปานของเบบี๋ แบบไหนปลอดภัย แบบไหนอันตราย
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
12 ลักษณะอุจจาระทารก อึ๊ของเบบี๋แต่ละแบบบอกอะไรคุณแม่ได้บ้าง
ยิ่งเล่นยิ่งฉลาด! เล่นกับลูกอย่างไร ให้สนุก สตรอง แถมพัฒนาการดีทุกด้านให้กับเจ้าตัวเล็ก
ดูดน้ำมูก ดูดเสมหะด้วยลูกยางแดง ทำอย่างไร