สิ่งที่ช่วยได้อย่างยั่งยืนและไม่ทำให้สิวกลับมาเป็นอีกก็คือ การดูแลตัวเองให้กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน จึงจะสามารถป้องกันไม่ให้สิวกลับมาเป็นได้อีกยังไงละคะ
ป้องกันการเกิดสิวได้ด้วยตัวเอง
- ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อรักษาความชุ่มชื่นให้ร่างกายอยู่เสมอ
- ล้างหน้าวันละ 3-4 ครั้ง ด้วยโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิวและไม่ผสมน้ำมัน หรือล้างหน้าด้วยน้ำที่ค่อนข้างอุ่น และไม่ควรขัดผิวในช่วงนี้เนื่องจากเป็นการรบกวนผิวมากเกินไปค่ะ
- หันมาดูแลสุขภาพ ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต เช่น เลือกกินผัก ผลไม้ ธัญพืช และอาหารเพื่อสุขภาพให้เยอะขึ้น ลดละเลิกกินอาหารรสเผ็ดและอาหารทอด และกินนมและผลิตภัณฑ์จากนมให้น้อยลง
- การบีบสิวไม่ช่วยให้ดีขึ้นนะคะ ดีไม่ดีอาจจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ด้วย
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หากไม่แน่ใจว่าควรจะเริ่มออกกำลังกายเมื่อไหร่ดี ให้ปรึกษาคุณหมอค่ะ ยิ่งถ้าคุณแม่เป็นโรคโรซาเซีย (Rosacea) หรือที่เรียกกันว่าโรคสิวหน้าแดง ก่อนจะออกกำลังกายควรได้รับการปกป้องบริเวณที่เป็นจากเหงื่อไคลเสียก่อนค่ะ
- ใช้ครีมหรือเครื่องสำอางค์ที่ไม่ทำให้หน้ามันและไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน และไม่ควรนอนทั้งที่ยังแต่งหน้า ควรจะต้องล้างเครื่องสำอางค์ออกให้สะอาดก่อนค่ะ
- ถ้าคุณแม่มีหนังศีรษะที่มีน้ำมันมากหรือสังเกตง่ายๆ ว่าผมหรือหน้ามันไหม พยายามไม่ใช้มือสัมผัสผิวหน้าระหว่างวันค่ะ เนื่องจากสิ่งสกปรกที่อยู่บนมือหากผสมกับน้ำมันบนผิวหน้า อาจจะทำให้เกิดการอุดตันและกลายเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวได้เช่นกันนะคะ
- สังเกตตัวเองว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่ายหรือไม่ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วสาเหตุของการเกิดสิวก็คือปัญหาด้านทางเดินอาหาร เช่น มีอาการท้องผูก หรือขับถ่ายไม่เป็นเวลา ถ้าเป็นไปได้ควรขับถ่ายให้ได้วันละ 1-2 ครั้งเป็นประจำทุกวันค่ะ
- หากคุณแม่มีกลุ่มอาการรังไข่มีถุงน้ำหลายใบ (PCOS) หรือ เป็นโรคที่มีฮอร์โมนมากเกินไป (Cushing disease) ให้ปรึกษาคุณหมอ เพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้องค่ะ
3 ขั้นตอน รักษาสิวเองได้ ง่ายนิดเดียว
ขั้นตอนแรก
คือการทายาปฏิชีวนะที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ในรูปแบบของเจล ครีม หรือโลชั่น ที่มีความปลอดภัยและไม่ซึมเข้าสู่สายเลือด อย่างเช่น erythromycin, clindamycin, metronidazole และ Dapsone
ยา Benzoyl Peroxide สำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูกก็สามารถใช้ได้นะคะ เพราะการทำงานของตัวยาคือเข้าไปฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และช่วยป้องกันการอุดตันของรูขุมขน
กรด Salicylic จะเป็นการเจาะเข้าไปในรูขุมขนเพื่อละลายเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของผิวชั้นบนสุด เพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขนเช่นกันค่ะ
ขั้นตอนที่ 2
หากการใช้ยาทาภายนอกแล้วสิวยังไม่หาย หรือเป็นมากขึ้น อาจจะต้องพึ่งยากินที่จ่ายยาโดยคุณหมอค่ะ เช่น ยาปฏิชีวินะในกลุ่มของ Macrolides เช่น erythromycin, azithromycin, cephalexin หรือ สังกะสี สามารถใช้ในคุณแม่ที่ให้นมได้ค่ะ
การรักษาด้วยแสงสีน้ำเงินและแสงสีแดง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสิว โดยต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญนะคะ
ขั้นตอนสุดท้าย
การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ หรือที่เรียกว่า Homeopathic ซึ่งเป็นการรักษารายบุคคลภายใต้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ โดยการรักษาสิวในศาสตร์นี้อย่างเช่น
- ใช้ Hepar Sulphur เมื่อสิวอักเสบและมีหัวหนองโผล่ออกมา
- ใช้ Belladonna เพื่อรักษาอาการอักเสบที่เกิดขึ้น
- ใช้ Nux Vomica แก้ปัญหาเรื่องการขับถ่าย เช่น ท้องผูก
- ใช้ Sulfur เมื่อผิวมีปัญหาหยาบกร้านและแห้งเกินไป
- ใช้ Calcarea Sulph สำหรับสิวอักเสบเยอะหรือสิวเม็ดใหญ่
เเต่ทั้งนี้ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญนะคะ
Tips
ยาอันตรายไม่ควรใช้ในขณะที่ให้นมได้แก่ tetracycline, co-trimoxazole, fluoroquinolones, accutane, กรดวิตามินเอ หรือ retinoid ทั้งยากินและยาทา ฮอร์โมนต่างๆ
ที่มา momjunction
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
5 สาเหตุหลัก ทำให้สิวขึ้นระหว่างช่วงที่ให้นมเเม่