รักของแม่ช่วยพัฒนาสมองลูก แถมยังเพิ่มความฉลาดด้วย

ความรักของแม่ที่มีต่อลูกน้อยนั้นมากมายอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะลูกเปรียบเสมือนโลกทั้งใบของแม่ แต่แม่รู้หรือเปล่าว่าการแสดงความรักต่อลูกน้อย สามารถช่วยให้ลูกฉลาดขึ้นได้ด้วยนะ

เด็กๆ ที่ได้รับความรักจากพ่อแม่ตั้งแต่เล็กๆ จะฉลาดกว่า และมีความสามารถในการเรียนรู้ได้ดีกว่า โดยผลการศึกษาล่าสุดจากจิตแพทย์เด็กและนักประสาทวิทยาจาก คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ในนครเซนต์หลุยส์ เปิดเผยว่า เด็กที่อยู่ในวัยเรียน ที่แม่เลี้ยงดูตั้งแต่เล็กๆ จะมี hippocampus (สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบความจำ) ที่ใหญ่กว่า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และระบบความจำ ทั้งยังเกี่ยวกับการตอบสนองต่อความเครียด

ภาพของสมองชี้ชัดว่า ความรักของแม่ส่งผลต่อขนาดของ hippocampus ของลูก ถึงเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ทางทีมวิจัยยังตั้งใจที่จะติดตามผลของเด็กๆ เหล่านี้เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น และหวังจะได้เห็น พื้นที่สมองของเด็กว่าเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน จากการได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่อย่างใกล้ชิด ในช่วงเวลาก่อนเข้าเรียน

สิ่งสำคัญที่ผลการศึกษาเน้นย้ำ คือ การอบรมเลี้ยงดูลูกท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดี เพราะสิ่งรอบตัวที่ดีมีผลต่อเด็ก พ่อแม่จึงควรที่จะใส่ใจในการเลี้ยงดูลูก ให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด หรือหาสิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างให้ลูกมีพลังบวก มาช่วยในการเลี้ยงดู เพื่อให้ลูกแข็งแรงได้ทั้งกายและใจ

การเลี้ยงดูลูกตั้งแต่เล็กๆ ด้วยความรัก ความเอาใจใส่ ไม่ใช่แค่ดีต่อพัฒนาการลูกและสมองของลูกเท่านั้น แต่การเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดยังช่วยให้ร่างกายของลูกเติบโตได้อย่างดีอีกด้วย

อ่านวิธีเลี้ยงลูกให้เติบโตขึ้นอย่างฉลาด ในหน้าถัดไป

วิธีเลี้ยงลูกให้เติบโตขึ้นอย่างฉลาด

1.อบรมเลี้ยงดูและสนับสนุนลูกเสมอ

ถ้าลูกอยู่ในวัยเตรียมตัวจะเข้าโรงเรียน จะมีพวกโรงเรียนเตรียมอนุบาลและโรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียน เป็นทางเลือกให้แม่ๆ ส่งลูกเข้าไปเตรียมความพร้อม โดยคุณแม่สามารถปรึกษาคุณครูเพื่อหาแนวทางเลี้ยงดูลูก ว่าจะช่วยส่งเสริมลูกได้อย่างไรบ้าง รวมไปถึงการพูดคุยเรื่องการเลี้ยงดูให้สอดคล้องกัน ทั้งที่บ้านและโรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียน เวลาที่ลูกกลับมาถึงบ้าน แม่ก็อย่าลืมใส่ใจดูแลลูกให้มากๆ ด้วยนะคะ

2.ความรักคือกุญแจสำคัญ

ความรัก ความอบอุ่น ที่ได้จากการสัมผัสอย่างใกล้ชิดของแม่และลูก จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการป้องกันปัญหาพฤติกรรมในเด็ก ซึ่งการเริ่มต้นความสัมพันธ์ของพ่อแม่ลูกที่ดี จะเป็นส่วนส่งเสริมให้ลูกมีรูปแบบความสัมพันธ์ที่ดีเมื่อลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ นั่นก็เพราะ พ่อแม่คือต้นแบบสำคัญ ถ้าลูกไม่รู้สึกใกล้ชิดกับพ่อแม่ตั้งแต่เล็กๆ ลูกก็จะไม่มีมุมมองความสัมพันธ์ในเชิงบวก แน่นอนว่าจะส่งผลในเรื่องความสัมพันธ์เมื่อลูกโตเป็นผู้ใหญ่

3.กระจกสะท้อนกลับพลังบวก

ผลวิจัยระบุว่า อารมณ์ของแม่สามารถส่งต่อไปยังอารมณ์ของลูกได้ ซึ่งไม่ใช่การถ่ายทอดผ่านพันธุกรรม แต่เป็นการส่งต่อผ่านทางพฤติกรรมของแม่ รวมไปถึงวิธีการเลี้ยงดูลูก ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ลูกจะหยิบเอาอารมณ์ของแม่มาใช้เสมอ พูดง่ายๆ คือ เมื่อคุณยิ้ม ลูกจะยิ้ม และอย่าลืมว่า อารมณ์ของแม่ที่แสดงออกมาจะมีผลต่อสมองลูกเสมอ ถ้าอยากให้ลูกฉลาด มีความคิดในแง่บวก คุณแม่คือต้นแบบ และลูกก็จะเป็นกระจกสะท้อนกลับพลังบวกเหล่านั้น

4.ใช้เวลาอย่างมีค่า

ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน อย่าลืมกอดลูกเสมอ… ใช้เวลาอย่างมีค่าไปกับลูก เพื่อให้ความรัก แสดงความเอาใจใส่ เอื้อมมือไปโอบกอดเพื่อให้ลูกรับรู้ว่าคุณรักเขามากแค่ไหน การเติมเต็มวัยเด็กด้วยการเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด มีความหมายต่อลูกมากกว่าที่แม่คิด แค่เพียงการกอดก็ทำให้ลูกรู้สึกพิเศษ รับรู้ได้ถึงความรัก ความใส่ใจของแม่ ช่วยปลดปล่อยลูกจากความเศร้า และคลายความกังวล แค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน แต่ขอเป็นช่วงเวลาสำคัญ ก็จะสร้างความทรงจำที่แสนสุขให้กับลูกในวัยเด็ก ซึ่งความสุขนี้ย่อมส่งผลต่อตัวลูกเมื่อเติบโตขึ้น

แม้ว่าจะยุ่งมากแค่ไหน ก็ต้องแบ่งเวลามาอยู่กับลูก เลี้ยงดูลูกด้วยความรัก สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ลูกเติบโตอย่างมีความสุข เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ และกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ

แสดงความรักกับลูกตั้งแต่เล็กๆ ด้วยการกอดลูกบ่อยๆ หอมลูกเยอะๆ บอกลูกว่าแม่รักลูกมากแค่ไหน เพราะทุกสิ่งที่แม่ทำ ส่งผลต่อพัฒนาการด้านสมองของลูก แถมยังช่วยให้ลูกฉลาดได้ด้วย อย่าลืมว่าเวลาผ่านไปไวเสมอ เผลอแป๊บเดียว ลูกก็โตเสียแล้ว… ถึงเวลานั้นแม่ๆ มักจะเสียดาย ที่ไม่ได้ใช้เวลากับลูกให้มากกว่านี้

ที่มา : sg.theasianparent.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เคล็ด(ไม่)ลับ วิธีการส่งเสริมให้ลูกเติบโตมีร่างกายแข็งแรง จิตใจที่เข้มแข็ง และฉลาดในการเข้าสังคม

เลี้ยงเบบี๋ให้ฉลาดและสมองดีด้วย 30 วิธีง่าย ๆ