ยาคลายมดลูก มีไว้เพื่ออะไร ??? เมื่อมีอายุครรภ์ได้ 28 สัปดาห์ขึ้นไป หรือไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ (เดือนที่ 7 – 9) มดลูกจะเริ่มขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งปกติแล้วจะมีลักษณะเป็นก้อนนิ่ม ๆ เมื่อคลำดูก็จะสัมผัสได้ถึงการมีทารกดิ้นอยู่ บางครั้งคุณแม่อาจรู้สึกว่าท้องแข็ง หรือรู้สึกตึงหน้าท้องซึ่งเกิดจากการ หดรัดตัวของมดลูกเป็นครั้งคราว แต่ถ้ารู้สึกท้องแข็งนานเป็น 10 นาทีจึงคลายลง และเป็นต่อเนื่อง 4 – 5 ครั้งเป็นชุด ๆ หรือหากท้องแข็งแล้วมีเลือดออกทางช่องคลอดด้วย ควรรีบไปพบแพทย์ ซึ่งแพทย์อาจจะให้ ยาคลายมดลูก เป็นตัวช่วย
๐ สาเหตุของอาการท้องแข็งในหญิงตั้งครรภ์
แม้อาการท้องแข็ง ในระหว่างตั้งครรภ์ จะไม่ได้เกิดขึ้นกับหญิงตั้งครรภ์ทุกคน แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงปัจจัย ที่อาจทำให้มีอาการท้องแข็งขึ้นไว้ก่อน หากพบว่ามีอาการท้องแข็งในระหว่างตั้งครรภ์ ควรไปพบสูติ – นรีแพทย์ เพื่อวินิจฉัยสาเหตุ และรักษาครรภ์ให้ปลอดภัย จนถึงวันคลอด โดยปกติแล้ว สาเหตุของ อาการท้องแข็ง ของหญิงตั้งครรภ์ที่พบบ่อยคือ
ทารกในครรภ์ดิ้นแรงหรือโก่งตัว
อาการแบบนี้ เป็นอาการท้องแข็งที่พบบ่อยที่สุด คุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะรู้สึกท้องแข็งแบบ “บางทีแข็ง บางทีนิ่ม” ซึ่งเกิดจากทารกในครรภ์ดิ้น หรือโก่งตัวชนเข้ากับผนังมดลูก จนทำให้มดลูก เกิดการบีบตัว ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ของทารก เช่น ศอก ไหล่ เข่า หัว หรือก้น ปรากฏนูนที่หน้าท้อง ถ้าเป็นส่วนหลังกับก้นดันออก จะทำให้รู้สึกว่า มดลูกเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งจะนิ่มกว่า บริเวณที่รู้สึกเป็นรอยนูนเล็ก ๆ หลายจุด จะเป็นส่วนของมือ และเท้า ภาวะแบบนี้มักไม่เป็นอันตราย เป็นการดิ้นตามปกติของทารกในครรภ์
มดลูกเกิดการบีบรัดตัวขึ้นเองโดยหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ การบีบตัวของมดลูก ที่ไม่พบสาเหตุที่แท้จริง อาจเกิดเพราะมดลูกไม่แข็งแรง มดลูกบีบรัด หรือคุณแม่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
การรับประทานอาหาร อิ่มเกินไป เมื่อรับประทานอาหารมากไป หรือเคี้ยวไม่ละเอียด จนอาหารไม่ย่อย หรือเกิด แก๊สในกระเพาะ อาจทำให้มดลูกบีดรัดตัว เพราะถูกกระตุ้น จากการเบียด ของกระเพาะอาหาร ลักษณะท้องจะตึง หรือแน่นท้อง แต่ไม่ได้ท้องแข็งมาก คุณแม่ที่มีอายุครรภ์มาก แล้วควรกินอาหารที่ย่อยง่าย กินอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ หลาย ๆ มื้อ เคี้ยวให้ละเอียด ดื่มน้ำมาก ๆ และควรขับถ่ายเป็นประจำ อย่าปล่อยให้ท้องผูก
อาการท้องแข็ง ที่ต้องรีบพบแพทย์
หากยังไม่ถึงกำหนดคลอด แต่รู้สึกว่าหน้าท้องที่เคยนิ่มเกิดแข็งขึ้นมา ทั่วท้องจนรู้สึกเจ็บ นั่นคือสัญญาณเตือนว่า มดลูกกำลังบีบตัวหดรัด ให้สังเกตดูว่า ท้องจะแข็งนานประมาณ 10 นาทีต่อครั้ง ติดต่อกัน 4 – 5 ครั้ง เป็นชุด ๆ ลักษณะแบนนี้ หากเกิดถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ท้องแข็งจนรู้สึกแน่น หายใจไม่สะดวก และอาการไม่หายไป ควรจะรีบพบแพทย์ ให้เร็วที่สุด เพราะหากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้มดลูกจะบีบตัว จนปากมดลูกเปิด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ ต้องคลอดก่อนกำหนดได้
ดูแลตัวเองอย่างไร ไม่ให้ท้องแข็ง
ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ หากปวดปัสสาวะ ให้เข้าห้องน้ำทันที เพราะการกลั้นปัสสาวะนาน ๆ เป็นสาเหตุให้เกิดท้องแข็งได้ เนื่องจากมดลูกที่ใหญ่ขึ้นตามอายุครรภ์ จะถูกกระเพาะปัสสาวะ ที่มีน้ำปัสสาวะอยู่มากเบียดแน่นขึ้น
ไม่บิดตัวหรือบิดขี้เกียจ การบิดขี้เกียจ หรือบิดตัวเอี้ยวตัว ท่าที่ลักษณะคล้ายกัน ทำให้ช่องท้องมีปริมาตรเล็กลง ความดันในมดลูกสูงขึ้น ทำให้ท้องแข็งได้ ไม่กินอิ่มเกินไป การกินอาหารอิ่มมากไป เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด อาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะมากกว่าปกติ อาหารไม่ย่อย ซึ่งปกติแล้ว ระบบการย่อยอาหารในหญิงตั้งครรภ์ จะทำงานได้ไม่ดี เหมือนขณะไม่ตั้งครรภ์อยู่แล้ว
ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ ในช่วงไตรมาสสุดท้าย การมีเพศสัมพันธ์ในบางท่า อาจกระตุ้นให้มดลูก เกิดการบีบตัวซึ่งไม่เป็นผลดี ต่อการตั้งครรภ์ ไม่ควรลูบท้องบ่อย ๆ การลูบท้อง รวมถึงการสัมผัส กับอวัยวะที่ไวต่อการกระตุ้น อย่างบริเวณเต้านม ซึ่งมักถูกสัมผัส ในขณะอาบน้ำทำความสะอาดจะส่งผลให้มดลูกบีบตัวได้
ที่มา :
- https://www.tmchnetwork.com/ node / 134
- https://www.vibhavadi.com/ fertility /topic.php ? mid = 32572
- https://www.komchadluek.net/ news /lifestyle/ 382036
บทความน่าสนใจอื่น ๆ :
- ประสบการณ์จริง คลอดก่อนกำหนด ครรภ์เป็นพิษ ลูกอยู่รพ. เกือบ 2 เดือน
- 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 82 10 วิธีผ่อนคลาย ท้องให้คุณแม่
- คนท้องต้องรู้ ! ท้อง 8 เดือนมีอาการท้องแข็ง ผิดปกติหรือไม่ มาดูกัน !