โรคมือเท้าปากในผู้ใหญ่
คุณแม่ชาวสิงคโปร์ต้องสูญเสียผม เล็บมือและเล็บเท้า หลังติดเชื้อมือเท้าปากมาจากลูก และเธอก็ได้เขียนบันทึกอาการในแต่ละวันไว้ เพื่อให้พวกเราทุกคนเฝ้าระวัง! โรคมือเท้าปากในผู้ใหญ่ น่ากลัวกว่าที่คิด
บันทึกจากคุณแม่ เรื่องโรคมือเท้าปากในผู้ใหญ่
วันที่หนึ่ง: เพราะฉันเอาแต่เป็นห่วง คอนแรน ลูกชายวัย 2 ขวบของฉันที่กำลังนอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัวโรคมือเท้าปาก ฉันจึงมองข้ามจุดแดงบนฝ่ามือ
วันที่สอง: แพทย์ฝึกหัดบอกข่าวร้ายที่ทำให้ฉันถึงกับตกใจว่า ฉันป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก ซึ่งคาดว่าน่าจะติดมาจากลูกชาย เชื่อไหมว่า ผื่นแดงนั้นลามไปทั่วมือและข้อมือของฉัน แล้วมันก็คันจนฉันแทบคลั่ง ฉันไม่สามารถข่มตาหลับได้เลย แต่ก็รู้สึกดีขึ้นหลังจากทาคาลาไมล์แล้ว
วันที่สาม: ฉันแทบช็อคเพราะหลังจากตื่นขึ้นมาก็ต้องพบว่า ทั่วทั้งมือของฉันนั้นเต็มไปด้วยผื่นและเป็นแผลน่ารังเกียจ ฉันไม่สามารถแม้แต่จะกำมือได้ และวันนี้มันได้ลามไปที่เท้าของฉันทั้งสองข้างแล้ว นอกจากจะคันมากแล้ว ยังเจ็บและแสบมากอีกด้วย และเชื่อไหมว่าน้ำตาฉันถึงกับไหลในขณะที่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้กับ คอนแรน เพราะแผลพองทำให้เนื้อไปสีกับผ้าอ้อมจนแสบ หลังจากที่ เอเดรียน สามีของฉันกลับบ้าน ฉันก็ขอร้องให้เขาพาฉันไปโรงพยาบาลทันที แน่นอนคุณหมอยืนยันแล้วว่า ฉันเป็นโรคมือเท้าปาก ซึ่งหมอเองยังรู้สึกแปลกใจ เพราะโรคนี้หาได้ยากมากที่จะเกิดกับผู้ใหญ่ได้
วันที่สี่: มือของฉันบวมและตึงไปหมด ไม่สามารถที่จะหยิบจับอะไรได้เลย เดินไปเข้าห้องน้ำก็ยังไม่ได้ ต้องรบกวนนางพยาบาลตลอด และนี่ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉันที่ต้องให้พยาบาลอาบน้ำให้ และเพื่อป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ หมอจึงต้องคอยฉีดของเหลวเข้าสู่ร่างกายของฉันอีกด้วย
วันที่ห้า: ฉันเริ่มทานอะไรไม่ค่อยลง เพราะคอของฉันเจ็บมาก กลืนอะไรก็ลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำเย็น ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกทรมาน ฉันจึงเลือกที่จะไม่ทานอะไร
วันที่หก: ฉันยังคงไม่สามารถดื่มหรือทานอะไรได้ ฉันหยุดความคิดฟุ้งซ่านบ้า ๆ เกี่ยวกับอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยการดูทีวี น่าเศร้าที่ฉันไม่สามารถแม้แต่จะอุ้มลูกชายได้ ฉันบอก คอนแรน ว่าฉันป่วย และก็ให้เขาดูที่มือของฉัน และดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจทุกอย่างได้ดี
วันที่เจ็ด: ฉันไม่สามารถหยุดการพัฒนาของเจ้าโรคนี้ได้เลย มันเริ่มพองลามขึ้นมาเรื่อย ๆ ที่แก้ม ปาก ลิ้น และคาง แต่โชคดีหน่อยที่วันนี้ ฉันค้นพบเครื่องดื่มที่ทำให้ฉันรู้สึกดี ไม่เจ็บ และสามารถดื่มแทนน้ำได้เลย นั่นก็คือ ชาคาโมมายล์ใส่น้ำแข็งนั่นเอง
วันที่แปด: มือของฉันเริ่มแตกลอกเป็นแผ่น มันแตกง่ายราวกับผิวหนังบอบบางมาก แพทย์โรคผิวหนังจึงเอาครีมมาให้ฉันทาไว้เพื่อบรรเทาอาการที่เกิดขึ้น
วันที่เก้า: ผิวที่มือของฉันแตกไปหมดจนกลายเป็นบาดแผลใหญ่ และวันนี้ฉันเริ่มหิวและอยากอาหารมากกว่าเดิม และแน่นอนฉันทานทุกอย่างที่มีอยู่ในถาดจนเกลี้ยง!
วันที่สิบ: มือของฉันไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย แม้แต่จะเปิดกล่องหรือหวีผมก็ยังทำไม่ได้
วันที่สิบเอ็ด: แผลที่มือของฉันเริ่มแห้ง วันนี้ฉันพยายามที่จะอาบน้ำเองโดยการใส่ถุงมือ แน่นอน…มันใช้เวลานานกว่าปกติแต่ก็รู้สึกดีขึ้นที่ไม่ต้องไปรบกวนพยาบาล ฉันเริ่มทานได้มากขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก ๆ ฉันบอกให้สามีไปซื้อกับข้าวที่ฉันอยากทานมา และที่พลาดไม่ได้เลยคือ ชานมไข่มุก ของชอบของฉันเอง
วันที่สิบสอง: เท้าของฉันเริ่มตึงและบวม เดินมากไม่ได้เพราะยังเจ็บอยู่ แต่นับว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพราะแผลที่มือเริ่มจางลงแล้ว
วันที่สิบสาม: หมอให้ฉันกลับบ้านได้แล้ว แต่หมอสั่งว่าต้องพักรักษาตัวอยู่ในบ้านห้ามออกไปไหนเด็ดขาด
คลิกเพื่ออ่านอาการของโรคมือเท้าปากในผู้ใหญ่ หลังกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>>
หลังจากกลับมาที่บ้าน
หลังจากกลับมาที่บ้าน ฉันนึกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่มันกลับไม่ใช่!! ผิวหนังที่เท้าของฉันเริ่มลอก เท้าของฉันเจ็บมาก ฉันต้องเริ่มหัดเดินใหม่อีกครั้ง ฉันอยู่ในสภาพที่น่าเกลียดที่สุด! เพราะเล็บของฉันเริ่มหลุดออก!! หมอบอกว่าเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ หากป่วยเป็นโรคนี้ และตอนนี้สิ่งที่ฉันไม่อยากให้เกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้นจริง ๆ นั่นคือ “ผมของฉันกำลังหลุดล่วง!!” ฉันร้องไห้เหมือนคนบ้า ฉันไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย ไม่สามารถแม้แต่จะแกะสติ๊กเกอร์ให้กับลูก
แต่โชคดีที่ฉันได้กำลังใจจากแพทย์และคนรอบข้างทำให้ฉันผ่านพ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดมาได้ ฉันเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าฉันต้องใช้เวลากว่าสองเดือนเพื่อที่จะให้เล็บงอกกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ตาม
จากการบันทึกอาการทั้งหมดของคุณแม่ท่านนี้ ทำให้เรารู้เลยว่า ไม่ควรประมาทโดยเด็ดขาด ดังนั้น อย่าลืมหมั่นล้างมือให้สะอาดกันนะคะ
ที่มา: Straitstimes, womensweekly.com.sg
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
มือเท้าปากติดง่าย แค่เล่นของเล่นเด็กในโรงพยาบาล
ไวรัส RSV เชื้อร้ายที่เด็กติดได้จากการถูกหอมแก้ม!