ม.33 เรารักกัน ใช้ซื้อสินค้า จ่ายค่าบริการ ได้ที่ไหนบ้าง

โครงก่าร ม.33 เรารักกัน ซึ่งเป็นมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัส โควิค-19  โดยมาตรการนี้เป็นมาตรการช่วยเหลือเยียวยาสำหรับผู้ประกันตน มาตรา 33 ในระบบประกันสังคม ด้วยการเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com และระบบจะทำการโอนยอดเงินจำนวน 4,000 บาท ซึ่งเป็นการแบ่งจ่ายรายสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1,000 บาทจนครบตามที่กำหนด 

โดยระบบเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com ไปเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ – 7 มีนาคม 2564 และเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 เป็นวันแรกที่เปิดให้ผู้ที่ลงทะเบียนเข้ามาตรวจสอบสิทธิ และยืนยันตัวตนผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง ซึ่งเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมาได้มีการโอนเงินงวดแรก เข้าแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง เรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามภาครัฐได้ขยายระยะเวลาการยืนยันตัวตนรับสิทธิ จึงทำให้รัฐแบ่งการโอนเงินออกเป็น 3 รอบ ดังนี้

1. วันที่ 15 – 21 มีนาคม 2564 จะได้รับวงเงินเข้าแอพฯ เป๋าตัง ทั้งหมด 4 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1,000 บาท
   • 22 มีนาคม 2564 (รับเงินงวดแรก)
   • 29 มีนาคม 2564
   • 5 เมษายน 2564
   • 12 เมษายน 2564
2. ผู้ยืนยันตัวตน ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 11 เมษายน 2564 และจะได้รับวงเงินสะสมนับตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2564 จนถึงวันที่กดใช้งาน และจะได้รับเงินสัปดาห์ละ 1,000 บาท ทุก ๆ วันจันทร์ ต่อเนื่องจนครบ 4,000 บาท
3. ยอดเงินงวดแรกจะถูกโอนเข้าแอพฯ เป๋าตัง ในวันที่ 12 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2564 ก็จะได้รับวงเงินสะสม จำนวน 4,000 บาท หลังการกดใช้งานครั้งเดียว 

ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับสิทธิจะสามารถใช้วงเงินได้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 หรือวันที่สิ้นสุดมาตรการ โดยในแต่ละสัปดาห์ ไม่จำป็นต้องใช้ให้หมด สามารถเก็บสะสมไว้ใช้ได้จนถึงวันสิ้นสุดโครงการ แต่ไม่สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้  

ส่วนผู้ที่กดใช้งาน และยืนยันตัวตน ระหว่างวันที่ 12 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2564 จะได้รับวงเงินสะสม จำนวน 4,000 บาท หลังการกดใช้งานครั้งเดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง : ม.33 เรารักกัน มนุษย์เงินเดือนแบบไหนที่ไม่ได้รับ 4,000

อย่างไรก็ตามยอดเงินสามารถใช้ได้ทั้งซื้อสินค้า และจ่ายค่าบริการ กับร้านค้าที่เที่เข้าร่วมโครงการ โดยมี 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ 

• ร้านถุงเงินธงฟ้าประชารัฐ
• ร้านค้าคนละครึ่ง
• ร้านค้าเราชนะ
• ขนส่งสาธารณะที่เข้าร่วมโครงการ

โดยแยกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้ 

1. ร้านอาหารและเครื่องดื่ม

   • อาหารทั่วไป อาหารตามสั่ง อาหารจานเดียว
   • ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ
   • ชาบู สุกี้ยากี้ หม้อไฟ
   • ปิ้งย่าง หมูกะทะ
   • ของหวาน ไอศกรีม เบเกอรี่ เครื่องดื่ม
   • ผับ ร้านเหล้า บาร์
   • ร้านขายผลไม้ / ร้านขายผัก
   • ร้านอาหารอีสาน
   • ร้านอาหารญี่ปุ่น
   • ข้าวต้ม โจ๊ก เกาเหลา
   • คาราโอเกะ
   • บุฟเฟ่ต์
   • บุฟเฟ่ต์โรงแรม
   • พิซซ่า ฟาสต์ฟู้ด จานด่วน
   • อาหารเกาหลี
   • อาหารจีน
   • อาหารเจ มังสวิรัติ สุขภาพ
   • อาหารใต้
   • อาหารทะเล
   • อาหารนานาชาติ
   • อาหารมุสลิม อิสลาม
   • อาหารเวียดนาม
   • อาหารอินเดีย
   • อาหารเหนือ
   • อาหารว่าง ขนม ของกินเล่น
   • อื่นๆ

2. ร้านค้า OTOP

   • ผลิตภัณฑ์อาหาร
   • ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม
   • ผลิตภัณฑ์ผ้า/เครื่องแต่งกาย/เครื่องประดับ
   • ผลิตภัณฑ์ของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก
   • ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร

3. ร้านธงฟ้า

   • ร้านธงฟ้าประชารัฐ

4. สินค้าทั่วไป

   • ร้านขายของฝาก
   • ร้านซ่อมทุกประเภท
   • เช่ารถยนต์/มอเตอร์ไซต์/เรือ
   • ร้านขายอุปกรณ์เพื่อการกีฬา
   • ร้านขายสินค้าเกษตร
   • ร้านบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง / ขายอาหารสัตว์
   • ร้านบริการจัดสวน / ขายต้นไม้ / ดอกไม้ / พวงหรีด
   • สินค้า และ บริการ เกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน
   • ร้านขายเสื้อผ้า / เครื่องประดับ / สินค้าแฟชั่น
   • ร้านขายของใช้ / อุปกรณ์
   • มินิมาร์ท / ร้านขายของชำ
   • ตลาดสด
   • ซุปเปอร์มาร์เก็ต

5. โรงแรม/ที่พัก

   • โฮมสเตย์ (Home Stay)
   • หอพัก / แมนชั่น / อพาร์ทเม้นท์ / แฟลต

6. สุขภาพ/ความงาม

   • ร้านขายเครื่องสำอางและบำรุงผิวพรรณ
   • ร้านขายยาและอาหารเสริม
   • ร้านตัดผม/ร้านเสริมสวย/ทำเล็บ
   • ร้านสปา/ร้านนวด

7. ขนส่งสาธารณะ

   • แท็กซี่
   • รถตู้ให้บริการ
   • จักรยานยนต์รับจ้าง
   • สามล้อเครื่อง
   • สามล้อถีบ
   • รถสองแถว
   • BTS (รถไฟฟ้าบีทีเอส)
   • MRT (รถไฟฟ้ามหานคร)
   • BMTA (องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ)
   • รถไฟ
   • เรือ
   • รถ บขส. (บริษัท ขนส่ง จำกัด)

8. รับเหมา/งานช่าง/ทำความสะอาด

   • งานก่อสร้างขนาดเล็ก
   • ให้บริการทำสวน/ตกแต่งสวน
   • ตัดเย็บ,ซ่อมแซมสินค้า/เสื้อผ้า
   • ช่างซ่อมรถยนต์/จักรยานยนต์/จักรยาน
   • ช่างซ่อมสาธารณูปโภค เช่นซ่อมไฟฟ้า ปะปา แอร์
   • รับเหมาทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อ 
   • ซักรีด

9. สุขภาพ/การแพทย์

   • สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยค้างคืน (คลินิก)
   • กลุ่มบริการด้านสุขภาพและการแพทย์
   • คลินิก (การรักษาทางการแพทย์, เสริมความงาม, ทันตกรรม, อื่นๆ)

ในส่วนของสินค้า และ ร้านค้า มินิมาร์ท ที่ไม่สามารถใช้สิทธิโครงการ ม.33 เรารักกัน มีดังต่อไปนี้ 

• สินค้าดังต่อไปนี้ ไม่สามารถใช้สิทธิ ม.33 เรารักกัน 
  • ล็อตเตอรี่ หรือ สลากกินแบ่งรัฐบาล
  • บุหรี่ หรือสินค้าประเภทเดียวกันที่มีชื่อเรียกอย่างอื่น
  • สินค้าหรือร้านค้าที่ขึ้นทะเบียนขายของ ของเก่า เพชร พลอย ทองคำ นาค เงิน อัญมณี

• ร้านค้า และมินิมาร์ท ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ม. 33 เรารักกัน มีดังต่อไปนี้ 
  • ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น , ร้านแฟมิลี่มาร์ท , ร้านลอว์สัน 108
  • ห้างโลตัส , แม็คโคร , บิ๊กซี , ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ , กูร์เมต์ มาร์เก็ต และโฮม เฟรช มาร์ท 

ทั้งนี้ ภายในห้าง ห้างโลตัส , แม็คโคร , บิ๊กซี สามารถใช้สิทธิได้เฉพาะร้านค้าที่เช่าพื้นที่ภายในห้าง หรือร้านที่มีป้ายหน้าร้านระบุว่าสามารถใช้สิทธิ ม.33 เรารักกันได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : รวม โครงการเยียวยาประชาชน จากภาครัฐ พร้อมรับมือ COVID-19 ระลอก 2

ม.33 เรารักกันแลกเงินสดไม่ได้ ใช้ซื้ออะไรดี

สำหรับโครงการ ม.33 เรารักกัน เป็นโครงการเยียวยาสำหรับ กลุ่มผู้ประกันตนประกันสังคมที่ได้รับสิทธิ์ ซึ่งเป็นวัยทำงาน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ มาดูกันว่า มีอะไรบ้างที่จ่ายด้วยสิทธิ์นี้ได้คุ้มค่าที่สุด 

1. ซื้ออาหาร

อาหารเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เราได้มีแรง หากคุณได้รับสิทธิ์ ม.33 เรารักกัน แล้วนำทั้ง 4,000 บาท มาซื้ออาหารมื้อละ 50 บาท จะซื้อได้ทั้งหมด 80 มื้อ ถ้าใช้ทั้ง 3 มื้อ จะใช้จ่ายได้ 26-27 วัน

2. ซื้อกาแฟ / เครื่องดื่ม

กาแฟเป็นเครื่องดื่มของวัยทำงานที่บางคนก็ขาดไม่ได้ หากคุณเป็นพนักงานออฟฟิศสายกาแฟ ต้องไม่พลาด ถ้าราคากาแฟเริ่มต้น 35 บาท จะซื้อได้ทั้งหมด 114 แก้ว ถ้าดื่มวันละ 2 แก้ว จะดื่มได้ 57 วัน

3. ซื้อตั๋วรถไฟฟ้า BTS, MRT

หากคุณเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีม่วงและสายสีน้ำเงินเป็นประจำ ก็ใช้บริการนำสิทธิ์ ม.33 ไปซื้อเหรียญโดยสารได้รายเที่ยว ยกตัวอย่างค่าโดยสาร 1 เที่ยว ในราคาเที่ยวละ 50 บาท ก็จะโดยสารได้ทั้งหมด 80 เที่ยว

4. ใช้บริการขนส่งสาธารณะ

รถสาธารณะที่ให้บริการ เข้าร่วมโครงการ ม.33 เช่น รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถแท็กซี่ และอื่นๆ ก็ใช้สิทธิ์สแกนจ่ายได้ ยกตัวอย่างเช่น หากจ่ายค่ามอเตอร์ไซค์รับจ้างเที่ยวละ 20 บาท ก็จะใช้บริการได้ทั้งหมด 200 เที่ยว หรือหากขึ้นแท็กซี่ในราคา 100 บาท ก็จะขึ้นได้ทั้งหมด 40 เที่ยว แต่ต้องเลือกคันที่รองรับการชำระด้วยสิทธิ์นี้ด้วย

5. ตัดแว่น

แว่นตาเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ของวัยทำงาน โดยเฉพาะคนที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ เพียงคุณมองหาร้านแว่นตาที่แปะป้ายรับสิทธิ์ ม.33 ก็เข้าไปสอบถามราคาได้ ในงบ 4,000 บาท นี้ใช้ซื้อกรอบใหม่ เปลี่ยนเลนส์ได้ เลนส์ตัดแสงสีฟ้า เลนส์สายตา ถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ได้อย่างคุ้มค่

6. ทำฟัน

ตามปกติแล้ว ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิ์ค่าทำฟันจากประกันสังคมปีละ 900 บาท โดยไม่ต้องสำรองจ่าย แต่หากเกิน 900 บาท ก็ต้องจ่ายเพิ่มเอง หากปีนี้คุณต้องเข้ารับบริการทันตกรรม ก็ใช้สิทธิ์ ม.33 เรารักกัน ได้กับบางคลินิกทำฟัน โดยเข้าไปสอบถาม หรือตรวจสอบคลินิกที่ร่วมรายการได้ทางเว็บไซต์ก่อนนัดหมา

7. ซื้อเสื้อผ้า 

ชุดทำงานที่ใส่อยู่เก่าไปแล้วหรือเปล่า หากไม่รู้ว่าจะใช้สิทธิ์ ม.33 เรารักกัน ซื้ออะไรดี การซื้อชุดทำงานใหม่ก็ตอบโจทย์ โดยร้านค้าหลายร้านที่จำหน่ายเสื้อผ้าชุดทำงานสุภาพสตรี และสุภาพบุรุษ ก็ยินดีที่จะรับชำระด้วยสิทธิ์ ม.33 เรารักกัน หากต้องการซื้อชุดทำงานราคา 500 บาท ก็จะซื้อได้ถึง 8 ชุด

9. ซ่อมมือถือ ซ่อมคอมพิวเตอร์

ร้านซ่อมมือถือ และคอมพิวเตอร์ อยู่ในหมวดสินค้าทั่วไป หากปีนี้ต้องการลงโปรแกรมใหม่ หรือเครื่องมีปัญหา ก็มองหาร้านซ่อมใกล้บ้าน โดยสังเกตป้ายร้านที่เข้าร่วมโครงการ ม.33 เรารักกัน

10. ซ่อมแซมยานพาหนะ

ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ที่เข้าร่วมโครงการ ม.33 เรารักกัน เป็นกลุ่มบริการที่ได้รับความนิยมมาก เพราะหลายคนใช้มอเตอร์ไซค์เป็นหลัก รวมถึงบริการเกี่ยวกับรถยนต์ รถจักรยาน ที่อยู่ในหมวดงานช่างของบางร้านก็เข้าร่วมโครงการด้วย สามารถสอบถามได้ที่อู่ใกล้บ้าน

11. ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ารับหน้าร้อน

เนื่องจากช่วงระยะเวลาการใช้งาน ม.33 เรารักกัน อยู่ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2564 ก็เป็นช่วงที่ประเทศไทยอยู่ในสภาพอากาศร้อน บางคนเตรียมเอาสิทธิ์ ม.33 เรารักกัน ไปซื้อพัดลม หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าทุ่นแรง เพื่อลดอากาศร้อน หรือจะนำไปเป็นค่าบริการล้างแอร์ ก็มีร้านที่รับอยู่มากมาย

โครงการ ม.33 เรารักกัน สามารถใช้สิทธิได้ถึง 31 พฤษภาคม 2564 จนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติมว่ามีการต่ออายุการใช้งานหรือไม่

ที่มา : (1) (2) (3)