สร้างภูมิคุ้มกันรอบด้าน เทรนด์การเลี้ยงลูกของแม่สมัยใหม่

ต้องยอมรับว่าการเลี้ยงลูกในยุคปัจจุบันไม่เหมือนสมัยปู่ย่าตายายเลยซะทีเดียว เพราะเทคโนโลยีทำให้ผู้คนปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ความเชื่อ ทัศนคติแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งคุณแม่ Gen X, Gen Y, Gen Z คนไหนคลอดลูกหลังปี 2010 เป็นต้นไป ลูกจะเป็นเด็กยุคดิจิทัล Gen α ซึ่งจำเป็นต้องมี ภูมิคุ้มกันรอบด้าน เป็นเกราะป้องกันอุปสรรคและนำไปสู่ความสำเร็จในอนาคต

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตกำลังกลายเป็นของเล่นชิ้นโปรดของเด็กๆ แต่รู้ไหมว่าการปล่อยให้ลูกอยู่ใน “โลกเสมือน” มากกว่าเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในชีวิตจริง จะทำให้ลูกขาดปฎิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนในทางที่ถูกที่ควร จนอาจพลาดพลั้งทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แน่นอนว่าโลกไม่ยอมหยุดพัฒนาเทคโนโลยี แต่พ่อแม่สามารถรับมือกับอนาคตที่อาจเกิดขึ้นได้โดย “สร้างภูมิคุ้มกันรอบด้าน” ให้ลูกน้อยค่ะ

ภูมิคุ้มกันรอบด้าน คืออะไร สำคัญอย่างไร?

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มนุษย์แม่จึงต้องสร้างเกราะป้องกันให้กับลูกน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ “ภูมิคุ้มกันร่างกาย” ลูกจะต้องมีพัฒนาการที่สมวัย สุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย สมองไบรท์ สายตาดี มีพลังพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่เท่านั้นยังไม่เพียงพอ ลูกจะต้องมีภูมิคุ้มกันด้านความคิดและอารมณ์ด้วยนะคะ สามารถวิเคราะห์ แยกแยะสิ่งที่ถูกหรือผิดได้ ไม่ถูกชักจูงไปในทางที่เสื่อมเสียได้ง่าย สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม รู้จักแบ่งปัน แสดงออกในที่สาธารณะอย่างเหมาะสม และมีจิตใจเข้มแข็งไม่ย่อท้อเมื่อต้องเผชิญปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ ในชีวิต


ภูมิคุ้มกันรอบด้าน สร้างขึ้นได้อย่างไร ?

เริ่มต้นจากการเลือกโภชนาการที่ดีที่สุดตั้งแต่แรกเกิดและตอบสนองลูกน้อยทันทีไม่ว่าจะเป็นเวลาหิว ง่วง หวาดกลัว ร้อน หนาว อับชื้น ฯลฯ เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่ออารมณ์และจิตใจของลูกโดยตรง เมื่อลูกมีพัฒนาการก้าวหน้าขึ้น เริ่มเดินเตาะแตะ ชอบเอื้อมคว้าสิ่งของ พูดจาสื่อสารได้บ้างแล้ว ก็ต้องสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิด ด้วยการชวนคุย ตั้งคำถามบ่อยๆ ฝึกให้ลูกได้ใช้สมอง วิเคราะห์ถูกผิดด้วยตัวเองบ่อยๆ จะเห็นได้ว่า พ่อแม่นี่ล่ะค่ะมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันรอบด้านให้แก่ลูกน้อย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เคล็ดลับดูแลสุขภาพลูกน้อย

น้ำนมแม่คืออาหารวิเศษที่สุด เพราะอุมดมไปด้วยสารภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ซึ่งทารกจำเป็นต้องได้รับตั้งแต่แรกเกิดต่อเนื่องไปอย่างน้อย 6 เดือน จนเมื่อลูกเริ่มทานอาหารเนื้อหยาบได้แล้วก็สามารถให้ทานนมชนิดอื่นเสริมได้ อย่างนมแพะถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยเพราะนมแพะมีระบบการให้น้ำนมแบบเดียวกับคน ที่เรียกว่า อะโพไครน์ (Apocrine) ทำให้มีสารอาหารจากธรรมชาติในปริมาณสูง ที่สำคัญโปรตีนจากนมแพะ ย่อยและดูดซึมได้ง่าย ทำให้ลูกสบายท้อง ท้องไม่อืด เพราะมีสัดส่วนของโปรตีนเบต้าเคซีน ในปริมาณสูง และที่สำคัญในนมแพะยังมี CPP หรือ Casein Phosphopeptides ที่เป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และสังกะสี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นมแพะยังมี Prebiotics หรือใยอาหาร ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพที่สำคัญต่อระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมีหลายชนิด เช่น Inulin & Oligofructose  ทำให้จุลินทรีย์สุขภาพเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนขึ้น ช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหารให้ทำงานได้เป็นปกติ ขับถ่ายง่าย ลดอาการท้องผูก และที่สำคัญยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้ลูกได้เป็นอย่างดี

นอกจากอาหารการกินแล้ว ยังมีปัจจัยภายนอกไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะอาด สุขอนามัยภายในบ้าน การรักษาอุณหภูมิร่างกายลูกน้อยให้อบอุ่นอยู่เสมอ และที่สำคัญ อย่าลืมพาลูกไปรับวัคซีนตามกำหนดด้วยนะคะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เคล็ดลับสร้างสมองดี

เซลล์สมองนับล้านเซลล์จะเชื่อมต่อกันเป็นโครงข่ายอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น การรับประทานอาหารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง เช่น แซลมอน ผักใบเขียว ไข่ นม ธัญพืช การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ นอนเป็นเวลา การออกกำลังกายเคลื่อนไหวแขนขาอย่างสม่ำเสมอ เช่น เล่นซ่อนหา โยนรับลูกบอล กิจกรรมฟังนิทานเสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เล่นเกมต่อจิ๊กซอว์ จับคู่ภาพเหมือน  ร้องเพลง ฯลฯ แม้แต่การนั่งสมาธิก็ช่วยกระตุ้นให้ลูกมีความจำดี

อยากให้ลูกเติบโตมามีร่างกายแข็งแรง รู้จักคิดวิเคราะห์ และมีจิตใจเข้มแข็ง พร้อมรับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมีสติ พ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี พยายามสร้างบรรยากาศของความรักความผูกพันให้เกิดขึ้นภายในครอบครัว ชวนกันทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมเพื่อปลูกฝังความมีน้ำใจ ความเอื้ออารีต่อผู้อื่น แล้วลูกก็จะมี ภูมิคุ้มกันรอบด้าน ที่แข็งแรงแน่นอน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

 

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team