ภาพสำเนาถูกต้อง
ไม่ว่าจะรุ่นไหน รุ่นตา ยาย พ่อแม่และลูกหลาน เขาบอกว่า ต้องมีบางสิ่งบางอย่างในตัวที่ยังง๊ายยังไงก็ต้องเหมือนกันแบบสุด ๆ และวันนี้เราก็จะขอนำเสมภาพถ่ายที่บอกได้คำเดียวว่า “แบบนี้สิ ภาพสำเนาถูกต้อง !!”
จากรุ่นสู่รุ่น อีกหนึ่งสุดยอดภาพที่สุดแสนจะคลาสสิกและน่าเอาไว้เป็นต้นแบบของถ่ายภาพ
ภาพนี้ดูแล้วเหมือนกับการได้ดูวิวัฒนาการของเด็กคนนึง ตั้งแต่เล็กจนโตยันแก่เฒ่าเลย แต่แท้จริงแล้วพวกเขาเกิดกันคนละยุคคนละสมัย
เพราะจูบแห่งรักแท้ ไม่มีที่สิ้นสุด อีกภาพหนึ่งที่ดูแล้วทำให้เรารู้สึกอบอุ่น
แบบนี้สิ “สำเนาถูกต้อง!”
4 ยุค 4 สมัย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ภาพที่เราเอามาฝากวันนี้ คุณพ่อคุณแม่ทางบ้านสามารถนำไปใช้เป็นไอเดียถ่ายกันเองก็ได้เลยค่ะ ถ่ายแล้วก็อย่าลืมเอามาอวดกันบ้างนะคะ
ลูกหน้าเหมือนใคร
DNA อยู่บนหน้า ลูกหน้าเหมือนใคร จากความเชื่อที่บอกต่อกันมา ลูกหน้าเหมือนพ่อแสดงว่าแม่รักพ่อมาก ลูกสาวหน้าเหมือนพ่อจะดี ลูกสาวหน้าเหมือนแม่จะอาภัพ ทำให้หลาย ๆ ครอบครัว ลุ้นกันตั้งแต่ยังไม่คลอด!
ความเชื่อโบราณหากลูกหน้าเหมือนใครในบ้าน
ลูกสาวหน้าเหมือนพ่อมีบุญ ลูกชายหน้าเหมือนแม่มีบุญ หรือลูกสาวหน้าเหมือนแม่อาภัพ ลูกชายหน้าเหมือนพ่ออาภัพ
จากคำโบราณที่ว่า ลูกสาวหน้าเหมือนพ่อมีบุญ ลูกชายหน้าเหมือนแม่มีบุญ นั้นมีคำอธิบายว่า ลูกสาวที่หน้าเหมือนพ่อจะไม่สะสวยเหมือนแม่ ส่วนลูกชายที่หน้าเหมือนแม่ก็จะไม่หล่อเหลาเท่าพ่อ ทำให้คนโบราณกล่าวแก้ขึ้นมา ให้เป็นเรื่องที่ดีโดยบอกว่า ลูกสาวหน้าเหมือนพ่อมีบุญ มีโชค ส่วนลูกชายที่หน้าเหมือนแม่ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่กลับกลายเป็นว่า ถูกตีความไปว่า ลูกสาวหน้าเหมือนแม่อาภัพ ลูกชายหน้าเหมือนพ่ออาภัพ
ลูกหน้าเหมือนพ่อแสดงว่าแม่รักพ่อมาก
ส่วนความเชื่อที่ว่า ลูกหน้าเหมือนพ่อแสดงว่าแม่รักพ่อมาก ก็คล้าย ๆ กับการมองดูรูปเด็กน่ารัก ๆ คนหน้าตาดี ๆ เพื่อให้ลูกคลอดออกมาแล้วหน้าตาดี การที่ลูกหน้าเหมือนพ่อ จึงเป็นความเชื่อที่ว่า แม่มองหน้าพ่อด้วยความรักทุกวัน ทำให้ลูกคลอดออกมาหน้าเหมือนพ่อ
ลูกหน้าเหมือนใครกันแน่
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยมองต์เปลิเญร์ของฝรั่งเศส ระบุว่า ทารกแรกเกิดนั้นจะหน้าตาเหมือนแม่มากกว่าพ่อ โดยเด็กหญิงจะยังหน้าตาเหมือนแม่เมื่อโตขึ้น ขณะที่เด็กชายหน้าตาจะเริ่มคล้ายไปทางพ่อมากขึ้นเมื่ออายุ 2-3 ขวบ
ส่วนลูกหน้าเหมือนใครนั้น ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ ยีนเด่น ยีนด้อย เช่น
- สีผิว : หากพ่อและมีมีผิวคล้ำ โอกาสที่ลูกจะออกมามีผิวขาวจั๊วะคงเป็นไปไม่ได้ และถ้าหากพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งผิวขาวอีกฝ่ายผิวคล้ำ ลูกที่เกิดออกมาจะมีผิวสีผสม
- ดวงตา : ความกลมโตของดวงตานั้นจะได้รับพันธุกรรมมาจากพ่อและแม่โดยตรง ตาโตเป็นลักษณะยีนเด่น ส่วนตาเล็กเป็นลักษณะยีนด้อย ถ้าพ่อหรือแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีตาโต ลูกก็จะออกมาตาโตมากกว่า(ลูกที่ออกมาก็จะมีโอกาสที่จะตาโตมากกว่า)
ส่วนเด็กบางคนจะมีเหล่าเต๊งหรือไม่มีเหล่าเต๊งนั้น อยู่ที่พ่อหรือแม่ว่ามีคนใดคนหนึ่งมีตาสองชั้นหรือไม่ เพราะตาสองชั้นนั้นเป็นลักษณะยีนเด่นซึ่งก็จะมีโอกาสที่ทำให้ลูกมีตาสองชั้นได้ อยู่ที่ตาสองชั้นเป็นลักษณะยีนเด่น หากพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งมีตาชั้นเดียวและอีกคนมาตาสองชั้น ลูกที่คลอดออกมาน่าจะมีตาสองชั้นมากกว่า แต่ถ้าพ่อแม่มีตาชั้นเดียวทั้งคู่ลูกที่ออกมาก็จะมีตาชั้นเดียวเช่นเดียวกับพ่อแม่
- สีนัยน์ตา : นัยน์ตาที่มีสีเข้มหรือสีดำจะเป็นยีนเด่น ส่วนตาสีอ่อนจะเป็นยีนด้อย หากคนนัยน์ตาสีดำมีลูกกับคนนัยน์ตาสีฟ้า โอกาสที่ลูกที่คลอดออกมาจะสีนัยน์ตาสีเข้มจะมีมากกว่าตาสีฟ้าค่ะ ลูกหน้าเหมือนใครก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ ตราบใดที่พ่อแม่รักและเอาใจใส่ลูก ไม่ว่าลูกหน้าเหมือนพ่อหรือลูกหน้าเหมือนแม่ ก็น่ารักที่สุดเมื่อเป็นลูกเรา! ถ้าอย่างนั้นมาโหวตกันหน่อยว่า ลูกน้อยหน้าตาเหมือนใครมากกว่ากัน
ลูกหน้าเหมือนใครมากกว่า ลูกหน้าเหมือนพ่อหรือลูกหน้าเหมือนแม่
จากความเชื่อโบราณว่ากันว่าลูกหน้าเหมือนพ่อ ถ้าเป็นลูกสาวจะดี แต่ถ้าเป็นลูกชายก็คงต้องไปแก้เคล็ด เพื่อความสบายใจของแต่ละบ้าน แต่ไม่ว่าลูกจะหน้าเหมือนพ่อหรือลูกหน้าเหมือนแม่ หากครอบครัวเลี้ยงดูด้วยความรัก ความเอาใจใส่ ให้ลูก เติบโต ไปเป็นคนดี ขยันขันแข็ง ซื่อสัตย์สุจริต รับรองว่า ถึงลูกชายจะหน้าเหมือนพ่อก็ต้องโตไปสุขสบายแน่นอน
หน้าตาของลูก เหมือนพ่อหรือแม่มากกว่ากัน?
เคยสงสัยกันไหมค่ะ ลูกบางคนออกมาสวยหล่อกว่าพ่อแม่เสียอีก หรือพ่อแม่บางคนหน้าตาดี แต่ทำไมลูกถึงออกมาหน้าตาธรรมดา จริง ๆ คำตอบนี้น่าจะอยู่ที่มุมมอของแต่ละคนงมากกว่า เพราะสำหรับพ่อแม่นั้นไม่ว่าลูกจะออกมาหน้าตายังไง คำตอบก็คือดีสำหรับพ่อแม่อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นส่วนอื่น ยังพอจะแบ่งแยกออกได้ว่าลักษณะแบบนี้นั้นลูกมาทางพ่อหรือทางแม่
ความสูงของลูกได้ยีนมาจากใคร?
นอกเหนือจากปัจจัยที่ลูกจะได้รับทางอาหารที่กินแล้ว ความสูงของลูกมีส่วนที่เกิดจากพันธุกรรมถึง 70% โดยมาจากความสูงของพ่อ 35% และจากแม่ 35% เช่นกัน สมมติว่าพ่อหรือแม่ไม่ใช่คนสูง ก็ควรให้ลูกได้รับสารอาหารที่จำเป็นและมีประโยชน์สำหรับความสูง เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตจากโอกาสที่เหลือ 30% นะคะ
สูตรประมาณส่วนสูงของเด็กชาย: หน่วยเซ็นติเมตร(ซม.)
สมมติให้ส่วนสูงพ่อ = 174 ซม. ส่วนสูงแม่ = 155 ซม.
1.นำส่วนสูงพ่อ + ส่วนสูงแม่ (174 + 155 = 329)
2.บวก 13 (329 + 13 = 342)
3.หาร 2 จะได้ความสูงเฉลี่ยของลูกชายเมื่อโตขึ้น (342/2 = 171)
4.โอกาสคลาดเคลื่อนไม่เกิน 7 ซม. จะได้โอกาสสูงมากที่สุด (ค่าเฉลี่ยบวก 7) = 171+7 = 178 ซม. โอกาสสูงน้อยที่สุด (ค่าเฉลี่ยลบ 7) = 171- 7 = 164 ซม. หรือมีความสูงอยู่ในช่วง 164 – 178 ซม.
สูตรประมาณส่วนสูงของเด็กหญิง: หน่วยเซ็นติเมตร(ซม.)
สมมติให้ส่วนสูงพ่อ = 174 ซม. ส่วนสูงแม่ = 155 ซม.
1.นำส่วนสูงพ่อ + ส่วนสูงแม่ (174 + 155 = 329)
2.ลบ 13 (329 – 13 = 316)
3.หาร 2 จะได้ความสูงเฉลี่ย > 316/2 = 158
4.โอกาสคลาดเคลื่อนไม่เกิน 7 ซม. จะได้โอกาสสูงมากที่สุด (บวก 7) = 158+7 = 165 ซม. โอกาสสูงน้อยที่สุด(ลบ 7) = 165 – 7 = 158 ซม. หรือมีความสูงอยู่ในช่วง 158 – 165 ซม.
ความสูงของเด็กที่น่าจะเพิ่มขึ้นต่อปี:
- 1 ปีแรก > 25 ซม.
- 1-2 ขวบ > 12 ซม.
- 2-3 ขวบ > 6-8 ซม.
- 4-9 ขวบ > 5 ซม.
- 10-11 ขวบในเด็กหญิง > 6-8 ซม.
- 12-13 ขวบในเด็กชาย > 6-8 ซม.
ที่มา: Boredpanda
ลูกหน้าเหมือนใคร ลูกหน้าเหมือนพ่อ ลูกหน้าเหมือนแม่ หรือปู่ย่าตายายกันแน่
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
28 ภาพแม่ลูกคู่เหมือน ท่าเหมือนกัน สำเนาถูกต้อง!
เบื้องหลังการถ่ายภาพคู่แฝดและทารกสุดน่ารัก
ลูกขาโก่ง ทำอย่างไร 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 63