ภาพเด็กก้มกราบพระบาท ในหลวง ร.9
ยังจำกันได้หรือเปล่า ภาพเด็กก้มกราบพระบาท ในหลวง ร.9 ขณะนี้เติบใหญ่กลายเป็นข้าราชการผู้จงรักภักดี
ข้อมูลจากเอกสารข่าว กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้เผยแพร่พร้อมภาพถ่ายของเด็กน้อยที่กำลังก้มกราบพระบาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระบุว่า หลายคนอาจได้เคยเห็นภาพในโลกออนไลน์ ภาพของเด็กน้อยคนหนึ่งก้มลงกราบพระบาท ที่มีการแชร์กันอย่างมากมาย
เด็กน้อยผู้ก้มกราบพระบาทในวันนั้น คือ นายพยุงศักดิ์ กาฬมิค ข้าราชการใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ภาค 4 จ.สงขลา สังกัดหน่วยงานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เป็นบุคลากรที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ ภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
นายพยุงศักดิ์ กล่าวถึงความปลื้มปิติใจในครั้งนั้นว่า ตนเกิดในครอบครัวทหาร ตอนเด็กพักอาศัยอยู่ในค่ายอิงคยุทธบริหาร ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสนามบินบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และเป็นสถานที่เฝ้ารอรับเสด็จในวันนั้น โดยคุณแม่จะพาไปรับเสด็จทุกครั้งที่มีโอกาส การถวายความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งที่ครอบครัวของทหารให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง วันรุ่งขึ้นหลังจากการรับเสด็จหนังสือพิมพ์ได้ลงข่าวพร้อมภาพถ่ายนี้ ซึ่งแม่ของตนได้ตัดภาพดังกล่าวใส่กรอบเก็บไว้บูชาเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ครอบครัว ต่อมาปี 2549 ได้มีการแชร์ภาพถ่ายดังกล่าวทางอินเตอร์เน็ต และหนังสือพิมพ์ข่าวสด ได้ลงภาพก้มกราบพระบาทอีกครั้ง รวมทั้งมีการตามหาบุคคลในภาพ
นายพยุงศักดิ์ กล่าวต่อว่า โดย จ.ปัตตานี และนายจตุรงค์ ปัญญาดิลก ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ได้ประสานมาเพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับภาพถ่ายดังกล่าว จึงทำให้มีโอกาสเข้าร่วมงานนิทรรศการเฉลิมฉลอง 60 ปีครองราชย์ของในหลวง
“การได้ก้มกราบพระบาทในหลวงในครั้งนั้น ถือได้ว่าเป็นมงคลสูงสุดต่อตนเองและครอบครัว และเมื่อทุกครั้งที่เห็นภาพนี้เสมือนเป็นการสัญญากับพระองค์ท่านว่าข้าพเจ้าจะถวายความจงรักภักดี และจะทำความดีถวายพระองค์ตลอดไป” นายพยุงศักดิ์ กล่าว
นายพยุงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การปฏิบัติหน้าที่ราชการในวันนี้เพื่อสนองเบื้องพระยุคลบาทอย่างไรนั้น ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานคุ้มครองสิทธิฯ ภาค 4 กรมคุ้มครองสิทธิฯ ซึ่งถือเป็นความโชคดีของตน เพราะงานที่ทำอยู่เป็นการช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงความเป็นธรรมตามสิทธิที่อันพึงมีพึงได้ของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมสิทธิของประชาชน การเยียวยาผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม การคุ้มครองพยาน ในคดีอาญา และการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ในการทำงานราชการนั้น ตนถือว่าความรับผิดชอบต่อหน้าที่ก็คือความรับผิดชอบต่อประชาชน ต่อหน่วยงาน ต่อผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นหลักของการปฏิบัติงาน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต่อสังคมส่วนรวมและประเทศชาติ
ที่มา : https://www.khaosod.co.th
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ชมภาพชุด ในหลวงกับสมเด็จย่า ความรักระหว่างแม่ลูกที่ยิ่งใหญ่หาใดเปรียบ
พ่อสอนให้เราจับปลา เพื่อให้เรามีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต