พาเที่ยว วัดสวยใกล้กรุงเทพฯ ใกล้แน่ๆ แค่ ปากช่อง โคราช

ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่้ค่อยจะสู้ดีนัก แถมยังต้องเผชิญกับโรคร้ายที่กำลังระลบาดอยู่ อาจทำให้หลายครอบครัว ไม่อยากไปเที่ยว ที่ไหนไกลๆ วันนี้ เรา theAsianparent Thailand เลยอยากมาแนะนำ 5 วัดสวยใกล้กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่แค่ อำเภอ ปากช่อง นครราชสีมา นี่เอง ขับรถ 2 ก็ถึง

1. วัดโนนกุ่ม หรือ วัดหลวงพ่อโต

วัดแห่งนี้เป็นรู้จักในหลายชื่อคือ วัดหลวงพ่อโต วัดโนนกุ่ม วิหารหลวงพ่อโต วัดสรพงษ์ หรือ มูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หากนั่งรถมาจาก กรุงเทพฯ ตามถนนมิตรภาพ ก่อนเข้าสู่อำเภอเมือง จะสามารถเห็นวัดแห่งนี้ตั้งเด่นเป็นสง่า อยู่ทางซ้ายมือ 

ผู้ที่ก่อสร้างวัดคือ สรพงษ์ ชาตรี ดาราดังของประเทศไทย และ ดวงเดือน จิไธสงค์ ภายใต้การดำเนินการของมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ทำให้ชาวบ้านนิยมเรียกวัดแห่งนี้ในอีกชื่อว่า วัดสรพงษ์

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของวัดนี้ก็คือ วิหารเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อ หลวงพ่อโต (สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี) อยู่ด้านใน รูปหล่อนี้เป็นรูปหล่อทองเหลือง ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทย มีหน้าตักกว้าง 8 เมตร 1 นิ้ว มีความสูง 13 เมตร และหนักถึง 61 ตัน ที่นี่จึงนับได้ว่า เป็นหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย เป็นที่วัดแห่งนี้ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจ เป็นที่สักการะบูชาของชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมี วิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช ให้ได้สักการะกันอีกด้วย

2. วัดศิมาลัยทรงธรรม

วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ อ.ปากช่อง นครราชสีมา เป็นอีกวัดสวย ที่สวยแบบไม่ธรรมดาจริงทๆ แถมยังอยู่ ใกล้กรุงเทพฯ อีกด้วย วัดศิมาลัยทรงธรรมแห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในวัดที่น่าจะเป็น Unseen Thailand ได้เลย 

ไฮไลท์ของวัดศิมาลัยทรงธรรมแห่งนี้คือ การเอาเหรียญกษาปณ์ มาเป็นส่วนหนึ่งของงานพุทธศิลป์ นอกจากนี้ก็ยังมีงานศิลปะต่างๆ เช่น ศิลปะบนเจดีย์ทรงโอคว่ำ เป็นการแสดงเรื่องราวของพุทธประวัติ ภพภูมิต่าง ๆ นอกจากนี้ ภายในวัด ยังมีถ้ำ ที่ไว้สำหรับนั่งปฏิบัติกรรมฐานอีกด้วย

ที่ด้านบนของวัด จะสามารถชมวิวทิวทัศน์ และบรรยากาศของเขาใหญ่ได้แบบ 360 องศา วัดนี้จึงขึ้นชื่อว่า เป็นวัดที่มีความสวยงามและแหล่งรวม ศิลปะประติมากรรมต่าง ๆ จากหลายแห่ง มาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย ศรีลังกา ขอม ทิเบต เป็นต้น

3. วัดถ้ำซับมืด

ที่วัดถ้ำซับมืด ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ  หากใครต้องการ วัดที่ทั้ง สงบร่มเย็น โอบล้อมด้วยป่าไม้ และขุนเขา ให้ปัก GPS วัดถ้ำซับมืด อำเภอปากช่อง นครราชสีมา 

ถ้ำซับมืด ถูกพบในปีพ.ศ. 2478 โดยเริ่มแรกนั้นชาวบ้านได้บุกเบิกพื้นที่เพื่อทำการเกษตร ได้พบถ้ำที่มีความมืดครึ้มตลอดทั้งวัน มีน้ำซับ (น้ำผุด) จากแอ่งหิน ชาวบ้านที่มาทำไร่ ทำสวนในบริเวณดังกล่าวสามารถอาศัยเพื่อ ใช้สอย ดื่มกิน จึงเรียกบริเวณนี้ว่า ถ้ำซับมืด

จากนั้นในปี พ.ศ. 2480 หลวงปู่สีลา อิสฺสโร ซึ่งเป็นศิษย์อาวุโสรูปหนึ่งของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต วัดป่าโพธิ์ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ได้เดินทางธุดงค์มายังปากช่อง แล้วได้พบถ้ำซับมืด จึงหยุดพักปักกลด และบำเพ็ญภาวนาอยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ ต่อมาชาวบ้านเกิดความศรัทธา จึงได้นิมนต์ท่านอยู่จำพรรษา ถวายที่ดินให้เป็นที่พักสงฆ์ และช่วยกันปรับปรุงถ้ำให้เป็นที่อยู่จำพรรษา

ภายในวัดจะมีเจดีย์ 9 ยอด หรือเจดีย์พุทธญาณมุนีรัตนจารุธัมมานุสรณ์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมธาตุ พระอัฐิธาตุ และรูปเหมือนหลวงปู่ทา หลวงปู่มี หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไว้เพื่อความเป็นสิริมงคล

4. วัดป่าภูหายหลง

อีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ของ จังหวัดนครราชสีมา ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก แต่ขอบอกเลยว่า ที่นี่สามารถเรียกได้ว่า เป็นสวรรค์บนดิน

ตัววัดถูกสร้างอยู่บนเนินเขาสูง รายล้อมด้วยธรรมชาติ ด้านบนสุด จะเป็นที่ตั้งของอุโบสถ ที่มีสถาปัตยกรรมสวยสด งดงาม และมีพระประธานประดิษฐานอยู่ภายใน บริเวณด้านนอกจะประดิษฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ ล้อมด้วยพระอุโบสถ บริเวณด้านสุดจะมีจุด ที่สามารถชมวิวเมืองปากช่อง ได้แบบรอบ 360 องศา บรรยากาศที่นี่ร่มรื่นมากๆ มีลมเย็นๆ พัดตลอดเวลา

วัดแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นด้วยการร่วมแรงร่วมใจกัน ของชาวบ้านในพื้นที่ เมื่อปี พ.ศ.2482 สำหรับเป็นที่พักของพระสงฆ์ โดยเมื่อก่อนนั้นชาวบ้านจะเรียกวัดนี้ว่า วัดภูเขากอย

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2542 พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล (ครูจารย์สุ่ม) ซึ่งเป็นศิษย์หลวงปู่หล้า เขมปัตโต แห่งวัดป่าภูจ้อก้อ จังหวัดมุกดาหาร ได้มีโอกาสมาพำนักที่วัดแห่งนี้ เสนาสนะมีเพียงกุฏิ และศาลาหลังเล็ก ๆ เท่านั้น ไม่มีพระประจำวัดมานานแล้ว ชาวบ้านจึงได้อาราธนาพระอาจารย์ประพันธ์ ให้เป็นหลักศาสนา และศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน พระอาจารย์จึงได้ตั้งชื่อวัดขึ้นมาใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลว่า วัดป่าภูหายหลง ที่มีความหมายว่า ดินแดนแห่งความหลุดพ้นจากความหลงทั้งปวง

5. วัดบ้านไร่ และ วิหารเทพวิทยาคม

สำหรับ สถานที่นี้ ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก หรือไม่ก็ต้องเคยได้ยินชื่อผ่านหูกันมาบ้าง เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ วิหารเทพวิทยาคม อีกด้วย

วัดบ้านไร่ เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งใน จังหวัดนครราชสีมา เดิมเป็นสำนักสงฆ์เล็ก ๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2436 ในช่วงรัชกาลที่ 5 โดยมี พระอาจารย์เชื่อม วิรโช เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ต่อมาได้มีการก่อสร้างศาสนอาคารต่างๆ ขึ้น แต่ในช่วงที่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เป็นเจ้าอาวาสวัด นั้น ได้มีการพัฒนาวัดมากที่สุด เพราะมีผู้บริจาคจากทั่วประเทศได้ร่วมถวายวัตถุปัจจัยเป็นจำนวนเงินที่มากพอสมควร 

ตัวอุโบสถของวัดจะยกพื้นสูงตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบสวยงาม ภายในชั้นล่างเป็นศาลาขนาดใหญ่ ไว้ประกอบพิธีการทำบุญต่างๆ 

ในส่วนของ วิหารเทพวิทยาคม หรือ วิหารปริสุทธปัญญา อุทยานธรรมกลางบึงน้ำขนาดใหญ่ของวัดนั้น วิหารเป็นเซรามิกโมเสกกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย สร้างขึ้นด้วยความตั้งใจที่ว่าจะให้เป็นมหาวิหารแห่งพระไตรปิฎก หรือหมายถึงดินแดนที่รวบรวมพุทธประวัติ พระวินัย และพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้ทั้งหมด

ด้านในจะมีภาพจิตรกรรม และงานปูนปั้นประดับกระเบื้องโมเสกต่าง ๆ ที่มีคติธรรมแฝงอยู่ และอุโบสถกระเบื้องเคลือบ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ศาลาปริสุทธรรม ศาลาปริสุทธาร ภายในวัดบ้านไร่แห่งนี้

วิหารเซรามิกโมเสกกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย แห่งนี้  ถูกสร้างสร้างขึ้นด้วย โมเสก มากกว่า 20 ล้านชิ้น ชาวบ้านที่มาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้ จะเป็นผู้ติดลง ด้วยจิตศรัทธา เเละสมาธิ เพราะ 1 วัน ต่อ 1 คนจะสามารถติดเซรามิกโมเสกได้เพียงไม่เกิน 1 ตารางเมตร เท่านั้น เป็นงานศิลปกรรมที่เกิดจากความเลื่อมใส และจิตศรัทธา ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้นมา 

สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และมีสวยงามอลังการ มีตั้งแต่ รูปปั้นพญานาค 19 เศียร ประตูท้าวจตุโลกบาล และเศียรช้างขนาดใหญ่ 

นอกจากนี้ภายในแต่ละชั้น ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ชั้นใต้ดิน ที่ตกเเต่งให้เหมือนกับ อยู่ในท้องน้ำอันศักด์สิทธ์ หรือ โลกใต้บาดาลน หรือจะเป็น ชั้นดาดฟ้า เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ เเละ รูปหล่อปิดทองคำ ของหลวงพ่อคูณ

theAsianparent Thailand ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทริปครอบครัว สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเด็ก คาเฟ่เด็ก ฟาร์ม กิจกรรม 1 เดย์ทริป กิจกรรมสำหรับครอบครัว ทั้งทะเล ภูเขา ที่พักหลากสไตล์ทั้งแบบแคมป์ แบบพูลวิลล่า ที่พักริมหาด ที่พักติดทะเล ที่พักอิงแอบแนบภูเขา ให้ลูกได้ออกไปเรียนรู้กับธรรมชาติ สายลม แสงแดดและหาดทราย เสริมสร้างการเรียนรู้และพัฒนาการได้สมวัย เสริมสร้างทักษะทางสังคมและสติปัญหา สามารถปรับตัวและเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรมต่างถิ่น การใช้ชีวิตกับผู้อื่นและมารยาททางสังคม

ที่มา : travel.trueid.net

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

1 วัน ที่โพธาราม ไปเช้า เย็นกลับ วันเดียวเที่ยวครบ จบเลยที่โพธาราม

เที่ยวชิล 15 คาเฟ่ที่อุบลราชธานี เยือนอีสานใต้ทั้งที ไม่มาที่นี่ได้ไง

ท่องเที่ยว ท่องอดีต พาลูกเรียนรู้วัฒนธรรม ณ สุโขทัย เมืองประวัติศาสตร์