ทางลัดพัฒนาสมองลูก ด้วยบทบาท “ผู้ช่วยตัวจิ๋ว” ดูแลงานบ้าน
การดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยในบ้านนั้น เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ แต่การสอนให้ลูกมีส่วนช่วยเหลืองานบ้านตั้งแต่ยังเล็ก จะทำให้เขาเรียนรู้ความยากลำบาก เกิดความเห็นอกเห็นใจ รู้จักเสียสละแรงกายแรงใจเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น และเมื่อเขารับผิดชอบงานตามหน้าที่ได้สำเร็จ ก็จะเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง และพยายามบริหารจัดการเวลา เพื่อรับผิดชอบงานที่มอบหมายอื่นๆ เป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญ ของการพัฒนาไปสู่ความสำเร็จในอนาคต แต่จะให้ลูกน้อยช่วยอะไรบ้างนั้น ต้องพิจารณาจากวัยเป็นหลักด้วย
เด็กวัย 2-3 ปี
ธรรมชาติของเด็กเล็ก คือ ซุกซนเป็นลิง ไม่ยอมอยู่นิ่งเฉย ชอบรื้อค้นข้าวของ ฉีกกระดาษ ขีดเขียนกำแพง แต่รู้ไหมคะว่า ขณะที่คุณแม่กำลังเก็บกวาดบ้านที่รกจากฝีมือเจ้าตัวป่วนนั้น สมองของลูกก็กำลังจดจำภาพ และพยายามที่จะเลียนแบบด้วยนะ ลองบอกให้เขาช่วยเก็บของเล่นชิ้นแรกใส่กล่องให้เรียบร้อย ก่อนจะหยิบของเล่นชิ้นอื่นออกมาสิคะ หรือวางตะกร้าผ้าไว้หน้าประตูห้องน้ำสำหรับใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว เว้นพื้นที่ชั้นล่างสุดในตู้รองเท้า ให้ลูกได้วางรองเท้าของตัวเอง เตรียมผ้าสะอาดไว้ให้ลูกเช็ดถูอะไรก็ตามที่อยู่ตรงหน้า หรือให้ลูกช่วยเทอาหารเม็ดใส่ชามเจ้าตูบให้ตรงเวลา เน้นกิจกรรมเบาๆ ไม่ต้องออกแรงมาก
เด็กวัย 4-7 ปี
เจ้าหนูจำไม วัยอนุบาล กำลังเริ่มเข้าสังคมแล้วล่ะค่ะ เขาชอบซักถาม และตื่นเต้นกับประสบการณ์แปลกใหม่ นี่เป็นโอกาสดีที่คุณแม่จะได้วางมือจากภาระจุกจิกบางอย่าง ลองชวนลูกมาช่วยใส่ปลอกหมอน ตบหมอนให้ฟู จัดเรียงตุ๊กตาเข้าที่เข้าทาง แขวนผ้าใส่ราวตาก จับคู่ถุงเท้า รดน้ำต้นไม้ พอถึงเวลาเข้าครัวทำกับข้าวก็ให้ลูกช่วยเตรียมวัตถุดิบ เช่น ตอกไข่ ล้างผัก เด็ดยอดอ่อนผัก หยิบขวดเครื่องปรุงต่างๆ หรือให้จัดเตรียมอุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร ฝึกให้ลูกคำนวณดูว่ามีครบตามจำนวนคนหรือเปล่า จาน ชาม ช้อนส้อม แก้วน้ำ ขาดของใครไปบ้าง ไม่ยากใช่ไหมล่ะ
เด็กวัย 8-10 ปี
ลูกเริ่มโตขึ้น ชอบทำอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น แถมยังเป็นเด็กช่างสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วย เด็กวัยนี้ชอบฟังคำแนะนำ วิธีการ เทคนิค เคล็ดลับ ซึ่งเป็นการฝึกจับประเด็นและวิเคราะห์สิ่งต่างๆ คุณแม่สามารถมอบหมายงานที่ยุ่งยากหรือเหนื่อยขึ้นอีกนิด เช่น ซักผ้า รีดผ้า ทำอาหาร ล้างจาน เช็ดโต๊ะ พับเสื้อผ้า ถูบ้าน ดูดฝุ่น พรวนดิน ก่อนนอนอย่าลืมให้ลูกจัดเตรียมสมุด หนังสือเรียน ให้ตรงตามตารางเรียนในแต่ละวัน เป็นการฝึกให้ลูกรู้จักการวางแผนงานเอาไว้ล่วงหน้านั่นเองค่ะ
เด็กวัย 12 ปีขึ้นไป
ลูกโตเป็นหนุ่มน้อย สาวน้อย สามารถช่วยเหลืองานบ้านได้หลากหลายประเภทแล้ว แต่ก็ควรอยู่ในสายตาของคุณพ่อคุณแม่เสมอ เช่น ให้ลูกไปซื้อของใช้ ไปจ่ายตลาดซื้อของสด ช่วยตัดแต่งต้นไม้ให้เป็นรูปร่าง หัดใช้เครื่องตัดหญ้า เปลี่ยนหลอดไฟเพดาน ล้างรถของคุณพ่อ ทาสีรั้ว ซ่อมแซมเสื้อผ้า ขัดห้องน้ำ ฯลฯ
เคล็ดลับเพิ่มพลังลูกน้อย พร้อมสำหรับงานบ้าน
ลองจัดทำตารางงานบ้าน เพื่อช่วยย้ำเตือนหน้าที่ ความรับผิดชอบของลูก และสร้างแรงจูงใจด้วยของโปรดแสนอร่อย! แต่ต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน์ด้วยนะคะ อย่าง สก๊อต คิตซ์ ซุปไก่สกัดผสมนม ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะ เป็นครั้งแรก ที่ผสานคุณค่า ระหว่าง ซุปไก่สกัด เข้ากับนม ซึ่งซุปไก่สกัดนั้น อุดมด้วยโปรตีน ผ่านการสกัดมาอย่างดี สะอาดเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ทันที ที่สำคัญไม่คอเรสเตอรอล ไม่มีไขมัน แล้วก็ไม่มีวัตถุกันเสียที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเด็กๆ ด้วยค่ะ ช่วยให้ลูกจดจำบทเรียน และมีสมาธิกับการทำงาน ช่วยลดความเครียดและอาการเหนื่อยล้าได้ ส่วนนมนั้นก็ อุดมด้วยแคลเซียมสูงที่ช่วยในกระบวนการสร้างกระดูก และฟันให้แข็งแรง แล้วยิ่งมาอยู่ใน สก๊อต คิตซ์ ซุปไก่สกัดผสมนมด้วยกันแล้ว ประโยชน์ยิ่งทวีคูณเลยค่ะ ทำให้เด็กๆมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีภูมิต้านทานโรคสูง
นอกจากสองสารอาหารสำคัญนี้แล้ว สก๊อต คิตซ์ ซุปไก่สกัดผสมนม ยังพร้อมด้วย ดีเอชเอ โอเมก้า 3 วิตามินบีคอมเพล็กซ์ 8 ชนิด ได้แก่ B1, B2, B6, B12, กรดแพนโทธินิค, โฟเลต, ไนอะซิน และไบโอติน ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ประโยชน์ครบจบในขวดเดียว แถมยังมีให้เลือก 2 รสชาติ คือ สก๊อต คิตซ์ ซุปไก่สกัดผสมนมรส ช็อกโกแลตเข้มข้นโดนใจ และ สก๊อต คิตซ์ ซุปไก่สกัดผสมนมกลิ่นเมลอน ที่หอมกลมกล่อม อร่อย และ ดื่มง่ายทั้ง 2 รสชาติ เหมาะสำหรับเด็กๆ วัย 4 ขวบขึ้นไป ถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับช่วยเพิ่มพลังกายและพลังสมองของคุณหนูๆ ให้พร้อมสำหรับจัดการงานบ้านได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ในช่วงแรกๆ อย่าเพิ่งคาดหวังว่าลูกจะทำทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบ ปล่อยให้เขาสนุกกับงานบ้าน ทำเท่าที่ทำได้ก่อน ส่วนเรื่องของความเรียบร้อยเป๊ะแค่ไหนนั้น ต้องใช้เวลาเรียนรู้สักพักค่ะ แล้วอย่าลืม! เอ่ยปากชื่นชมทุกครั้งที่ลูกทำสำเร็จด้วยนะคะ