พัฒนาการลูกน้อย ในวัย 6 เดือน รุดหน้าขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เพราะนอกจากเด็กๆ จะสนใจสิ่งต่างๆ รอบตัวมากขึ้น พลิกตัวได้คล่องแคล่วสุดๆ แล้ว เบบี๋บางคนอาจมีกล้ามเนื้อและกระดูกที่แข็งแรงมากจนคลานไว๊ไว ให้คุณพ่อคุณแม่ไล่จับจนเหนื่อยหอบ รวมทั้งเพลิดเพลินกับการหยิบของเข้าปาก เนื่องจากควบคุมการใช้มือได้ดี
พัฒนาการลูกน้อย ในวัย 6 เดือนขึ้นไป ถือเป็นก้าวสำคัญของลูกรัก คุณพ่อคุณแม่ต้องเพิ่มความใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพราะทุกๆ การเปลี่ยนแปลง ทั้งทางร่างกาย สังคม อารมณ์ ภาษา และโภชนาการ ล้วนมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันอย่างแยกไม่ออก โดยเฉพาะพัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดเล็ก จัดเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้เจ้าตัวเล็กรู้จักโลกกว้างมากขึ้น
กล้ามเนื้อมัดเล็ก สองมือเล็กๆ ที่ช่วยให้หนูน้อยรู้จักโลกใบใหญ่มากขึ้น
เจ้าตัวเล็กเริ่มเรียนรู้แล้วว่าสามารถควบคุมนิ้วมือเล็กๆ และกล้ามเนื้อมือได้ตามต้องการ คุณแม่จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเบบี๋ชอบฉวยข้าวของใกล้ตัวมาใส่ปาก ขณะเดียวกันควรส่งเสริมให้เด็กๆ ฝึกฝนการใช้กล้ามเนื้อมือให้คล่องแคล่วมากขึ้น ด้วยการปล่อยให้ลูกหยิบจับอาหารทานเอง ซึ่งเป็นทางลัดช่วยให้ลูกเรียนรู้โลกกว้างอย่างไร้ขีดจำกัด
ระหว่างนี้ หากคุณแม่สังเกตให้ดี จะเห็นว่าเหงือกสีชมพูของเบบี๋วัย 6 เดือนขึ้นไป เริ่มมีตุ่มสีขาวๆ โผล่ขึ้นมาด้วย ใช่จ้า…นั่นคือ ฟันน้ำนมซี่แรก ของลูกรักนั่นเอง
“วันดอกไม้บาน” ฟันน้ำนมซี่แรกของเบบี๋มาแล้วจ้า
เมื่อลูกน้อยมีฟันน้ำนมตุ่มเล็กๆ งอกขึ้นมา เจ้าตัวเล็กมักมีอาการหงุดหงิด งอแง ร้องไห้จ้าขึ้นมาเฉยๆ ทานน้อยลง นอนหลับไม่สนิท เหงือกบวมแดง มีน้ำลายไหลย้อยตลอดเวลา ชอบเอามือเข้าปาก หรือคว้าจับสิ่งของมากัด บางครั้งอาจเผลอขบกัดขณะดูดนม เพื่อบรรเทาอาการคันและเจ็บปวดเหงือก ซึ่งจะเป็นอยู่ราว 2 – 3 สัปดาห์ คุณแม่สามารถช่วยหนูน้อยลดอาการปวดเหงือกด้วยเทคนิคง่ายๆ ดังนี้
- นวดเหงือกลูกน้อยเบาๆ ด้วยมือที่สะอาด
- ให้เบบี๋กัดยางกัดแช่เย็น หรือเช็ดเหงือกด้วยผ้านุ่มๆ ชุบน้ำเย็น
- หากลูกรักมีอาการเจ็บปวดมาก และมีไข้ต่ำๆ ร่วมด้วย สามารถป้อนยาลดไข้แก้ปวดสำหรับเด็กได้
เมื่อฟันซี่แรก ซึ่งเปรียบดั่งดอกไม้ในฤดูร้อนอันสดใส โผล่พ้นเหงือกแล้ว เจ้าตัวเล็กก็สามารถทานอาหารที่มีเนื้อสัมผัสหลากหลายมากขึ้น โดยในระหว่างมื้อ คุณแม่สามารถเลือกของว่างที่มีประโยชน์อย่าง ขนมข้าวหอมมะลิอบกรอบ Namchow Happy Bites ให้เจ้าตัวเล็กในวัย 6 เดือนขึ้นไปหม่ำๆ นอกจากจะได้ประโยชน์เต็มๆ คำจากข้าวหอมมะลิแท้ๆ เหมาะกับเด็กๆ ทุกคน โดยเฉพาะเด็กแพ้อาหาร เพราะไม่มีส่วนผสมของ นมวัว ไข่ ถั่วเปลือกแข็ง และกลูเตนจากแป้งสาลี ปราศจากผงชูรส และสารกันเสีย เนื้อขนมไม่แข็งจนเกินไป ละลายง่าย เหมาะกับเด็กๆ ที่กำลังหัดเคี้ยว หรือฟันน้ำนมกำลังขึ้น
นอกจากนี้ ขนมข้าวหอมมะลิอบกรอบ Namchow Happy Bites ยังมีขนาดพอดีกับมือน้อยๆ ทำให้เจ้าตัวเล็กสามารถหยิบทานเองได้ มีส่วนช่วยฝึกฝนทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและการเคี้ยวของเจ้าตัวเล็ก แถมยังพกพาสะดวก แบ่งทานได้ ให้เบบี๋ทานรองท้องขณะเดินทาง หรือทานเล่นตอนอยู่บ้าน ก็ดีและมีประโยชน์
ขนมข้าวหอมมะลิอบกรอบ Namchow Happy Bites มีให้เลือกหม่ำ 3 รสชาติ คือ รสแอปเปิ้ล รสบลูเบอร์รี่ และ รสกล้วย วางจำหน่ายแล้วที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ Tops supermarket, The mall, Maxvalu, Foodland และ Villa market
หรือสนใจสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.nctfoodshop.com , Shopee , Lazada และ facebook fanpage : Namchow Happy Bites
ติดตามเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับ พัฒนาการการหยิบจับและบดเคี้ยวของลูกน้อย
คลิก Namchow Happy Bites