บรรยากาศเต็มไปด้วยสาระความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาการเด็กวัย 1 – 2 ขวบ และการเลือก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป จากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องพัฒนาการเด็ก และคุณแม่บล็อกเกอร์ชื่อดัง
คุณหมอ เสาวภา พรจินดารักษ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม ประจำโรงพยาบาล BNH เจ้าของเพจ หมอเสาวภา เลี้ยงลูกเชิงบวก ให้ความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการและการเลือก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ว่า
“คุณแม่หลายคนมักกังวลว่า การที่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปตุงและหย่อนรั้งเป็นก้อนนั้น จะรบกวนพัฒนาการลูกหรือไม่? ปัญหาเดียวที่เกิดจากการปล่อยให้ผ้าอ้อมตุง คืออาจกระทบกับพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว เพราะเด็กๆ จะรู้สึกว่าเดินไม่สะดวก ดังนั้นเวลาอยู่บ้านอาจสลับไม่ต้องใส่ผ้าอ้อมบ้าง หรือเลือกผ้าอ้อมที่บาง มีการระบายอากาศได้ดี สวมใส่แล้วไม่อับชื้น ไม่เทอะทะถ่วงรั้งขณะเคลื่อนไหว และไม่เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการของลูก”
ในส่วนนี้ แม่อาย คุณแม่บล็อกเกอร์ชื่อดัง เจ้าของเพจ Rocky Journey ได้ร่วมแชร์เคล็ดลับการเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้ น้องร็อกกี้ วัย 2 ขวบ ว่า
“ก่อนหน้านี้ร็อกกี้มีปัญหากับผ้าอ้อมมาก ก้นเป็นผื่นแดง ร้องงอแงหนักมากด้วย แต่พอเปลี่ยนมาใช้ Pampers ที่มีลักษณะบาง แต่ซึมซับได้ดีเยี่ยม ระบายอากาศได้ดี ก็โอเคขึ้นมาก ก้นน้องไม่เป็นผื่นแดง กลับมาเป็นเด็กอารมณ์ดี แถมยังเคลื่อนไหวได้สะดวก ไม่เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการของร็อกกี้ เพราะ Pampers ไม่ห่อตัวเป็นก้อนตุง แม้น้องจะปัสสาวะบ่อยครั้ง สมกับเป็นผ้าอ้อมขายดีเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น Pampers จึงเป็นผ้าอ้อมที่อายชอบมากที่สุดค่ะ”
ส่วนหัวข้อที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับพัฒนาการของลูกรักในวัย 1 – 2 ปี ซึ่ง คุณหมอเสาวภา ได้ให้คำแนะนำการเลี้ยงลูกแต่ละช่วงวัยไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้
“เด็กๆ ในขวบปีแรกจะมีพัฒนาการแบ่งออกเป็น 4 ด้าน คือ พัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ได้แก่ คลาน ยืน เดิน วิ่ง ปีนป่าย สำรวจสิ่งต่างๆ พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก เป็นการใช้มือหยิบจับ ทำกิจกรรมง่ายๆ ส่วน พัฒนาการด้านภาษา และ พัฒนาการด้านอารมณ์ ซึ่งต้องมาคู่กัน เนื่องจาก ‘ภาษามีความสัมพันธ์กับคน’ ดังนั้นขณะสื่อสารกับลูกจึงควร ‘สบตา’ ลูกทุกครั้ง นอกจากจะทำให้พ่อแม่มีตัวตนแล้ว ยังช่วยให้เด็กๆ จดจำท่าทาง น้ำเสียง และสร้างความผูกพันระหว่างพ่อแม่ลูกได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเข้าสู่ขวบปีที่ 2 เด็กๆ จะเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง แทนที่จะดุว่า ควรสนับสนุนให้ลูกได้ทำตามความต้องการ คอยดูแลให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ วัยนี้เด็กๆ ยังสามารถดูแลตัวเองง่ายๆ เช่น ตักข้าวทานเองได้อีกด้วย ส่วนเรื่องของพัฒนาการด้านการขับถ่าย คุณแม่ควรเริ่มฝึกการขับถ่ายให้ลูกเมื่อเด็กๆ พร้อม เช่น สื่อสารว่าอยากขับถ่ายได้ หรือทรงตัวนั่งบนกระโถนได้ เพราะเมื่อลูกพร้อมก็จะใช้เวลาในการฝึกฝนเพียงสั้นๆ เท่านั้น”
พร้อมกันนี้ ผู้เข้าร่วมงานทุกคนยังได้ร่วมทำกิจกรรม “เสริมพัฒนาการเชิงสร้างสรรค์” นำโดยวิทยากรจาก สถาบันเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ Gymboree ด้วยการ ส่งเสริมการเล่นและเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุด ไปพร้อมกับลูก เพื่อเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ องค์ความรู้ การเข้าสังคม อารมณ์ และ ร่างกาย ซึ่งเน้นในเรื่องของการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ อย่าง กล้ามเนื้อมัดใหญ่ และกล้ามเนื้อมัดเล็ก โดยกิจกรรมในวันนี้ยังช่วยกระชับสายสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่และเจ้าตัวเล็กให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ส่วนบรรยากาศจะสนุกสนานและเต็มไปด้วยรอยยิ้มขนาดไหน theAsianparent หยิบภาพความประทับใจบางส่วนมาให้ชมกันด้วยค่ะ