จากที่มีการแชร์กันกระหน่ำเพจโซเชียลต่าง ๆ ถึงลักษณะของก้นเด็กคนหนึ่งที่มีลักษณะของอาการแพ้ผ้าอ้อม หรืออีกนัยหนึ่งที่แม่ ๆ ส่วนใหญ่มักเรียกกันว่า “ผื่นผ้าอ้อม” แน่นอนว่า แม่มือใหม่ส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับปัญหานี้แน่นอน แล้วอะไรคือสาเหตุกันนะ แล้วเราจะมีวิธีป้องกันอย่างไร ไม่ต้องกังวลนะคะ วันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ มีประโยชน์มาฝากกัน
ผื่นผ้าอ้อม เป็นผื่นแดงที่เกิดขึ้นบริเวณผิวก้น ขาหนีบ หรือบริเวณที่สัมผัสกับผ้าอ้อม ปัญหานี้พบได้บ่อยแต่ก็แก้ได้ไม่ยากเช่นกัน คุณพ่อคุณแม่อย่ากังวลใจไปค่ะ
สาเหตุการเกิดผื่นผ้าอ้อม
มีได้หลายอย่าง เช่น
- ผ้าอ้อมเลอะ อับชื้น ก้นลูกสัมผัสฉี่หรืออึนานเกินไป
- ผ้าอ้อม, กางเกงรัดแน่นเกินไป เกิดการเสียดสีระหว่างผ้าอ้อมกับผิวลูก
- เพิ่งเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ใหม่ ลูกอาจจะแพ้ทิชชูเปียก ผ้าอ้อม สบู่ น้ำยาซักผ้าเด็ก ที่คุณเพิ่งเปลี่ยนใหม่ก็ได้
- เปลี่ยนอาหาร อาหารที่เพิ่งเริ่มป้อนให้ลูกอาจกระตุ้นให้ลูกอึบ่อยขึ้น แม้แต่อาหารที่แม่กินก็อาจส่งผลต่อน้ำนมแม่
- ผิวลูกแพ้ง่าย ลูกอาจเป็นโรคผื่นผิวหนังอักเสบ (eczema) ถึงจะเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยแต่ผิวบอบบางของลูกก็ยังเกิดผื่นง่ายอยู่ดี
- อากาศร้อน อากาศร้อนชื้นแบบบ้านเราทำให้ลูกเหงื่อออกง่าย ใต้ผ้าอ้อมจึงเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียอย่างดี
- แบคทีเรีย เชื้อรา ความชื้นและอบอุ่นใต้ผ้าอ้อมยิ่งกระตุ้นให้แบคทีเรียและยีสต์เติบโตอย่างรวดเร็ว
- ยาปฏิชีวนะ อาจฆ่าแบคทีเรียตัวดี ๆ ไปด้วย เมื่อแบคทีเรียตัวที่ยับยั้งการเติบโตของยีสต์ตาย ก็มีโอกาสเกิดผื่นเพราะติดเชื้อสูง
วิธีป้องกันผื่นผ้าอ้อม
“กันไว้ดีกว่าแก้” คำนี้ยังใช้ได้อยู่เสมอ คุณพ่อคุณแม่สามารถปกป้องก้นลูกน้อยด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
- ดูแลก้นลูกให้สะอาดและแห้งสนิท
- ถอดผ้าอ้อมออกสักแป๊บนึง พอให้ผิวได้สัมผัสอากาศบ้าง
- ใช้สบู่เด็กสูตรอ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม
- หลีกเลี่ยงทิชชูเปียกที่เพิ่มกลิ่นหอม
- รีบเปลี่ยนผ้าอ้อมทันทีที่เลอะ
- ทาครีมรักษาผื่นผ้าอ้อมทุกวัน ป้องกันไว้ก่อน
- หลังอาบน้ำเสร็จ ค่อย ๆ ใช้ผ้าขนหนูซับเบา ๆ ไม่เช็ดแรง ๆ เพราะผิวลูกอาจระคายเคืองได้
- ไม่ให้ลูกใส่ผ้าอ้อมหรือกางเกงที่รัดแน่นเกินไป เพื่อป้องกันการเสียดสี
อ่านวิธีการรักษาผื่นผ้าอ้อมจากสมุนไพรใกล้ตัว และสํญญาณเตือนให้ไปพบแพทย์หน้าถัดไป>>>
ควรพาลูกไปหาหมอเมื่อไร
ปกติแล้วเป็นผื่นผ้าอ้อมไม่จำเป็นไปต้องไปหาหมอ แต่ถ้าลูกคุณมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปปรึกษาคุณหมอทันที
- ผ่านไป 4-7 วันก็ยังไม่ดีขึ้น ทั้ง ๆ ที่รักษาทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว
- ผื่นลุกลามมากขึ้นเรื่อย ๆ
- ลูกมีไข้
- ลูกเจ็บแผลมาก
- ลูกท้องเสียเกิน 48 ชั่วโมงแล้ว
- คุณไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร
- คุณกังวลว่าลูกเป็นผื่นที่เกิดจากโรคภูมิแพ้หรือเปล่า
- คุณสงสัยว่าลูกติดเชื้อแบคทีเรีย และสังเกตเห็นหนองหรือสะเก็ดสีเหลือง จริง ๆ แล้วอาจเป็นโรคแผลพุพอง (ซึ่งต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ)
ที่มา: เพจดีดี
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยแค่ไหนจึงจะดีต่อสุขภาพอนามัยของลูก