ผลของการทำแท้ง ทั้งในทางโลกและทางธรรมมีอะไรบ้าง

ผลของการทำแท้ง ทั้งในทางโลกและทางธรรมมีอะไรบ้าง หากรู้อย่างนี้เเล้ว การตัดสินใจทำแท้งยังจะคุ้มอยู่หรือไม่ เพราะผลที่ได้รับนั้นมันไม่ได้สวยหรูเลย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คนทำแท้ง ก่อนทำแท้งคิดเยอะๆ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเด็นนี้ก็เป็นอีกประเด็นที่ค่อนข้างจะอ่อนไหวในสังคมไทยค่ะ เนื่องจากขัดต่อกฎหมาย เเละขัดต่อศีลธรรมไทย เเต่ก็คงพูดไม่ได้เต็มปากอีกเช่นกันว่า ในสังคมไทยนั้นการทำเเท้งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากหากต้องการทำเเท้งจริงๆ นั้น เพียงเเค่เสิร์ชในอินเตอร์เน็ต ทั้งที่ตั้ง ทั้งการซื้อยา ก็ขึ้นมาเพียบเเล้ว กลับกันในประเทศที่มีกฎหมายให้ทำเเท้งได้ กลับมีการตรวจสอบเเละขั้นตอนที่เยอะเเละยากกว่า เเต่อย่างไรก็ตามหากเชื่อในเรื่องของการกระทำเเละผลที่เกิดตามมา ก็ควรจะอ่านบทความนี้ค่ะ

ผลในทางโลก หรือผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ

เพราะบริเวณที่ได้รับผลกระทบการทำแท้งนั้นมีผลที่รุนแรงพอสมควร ส่งผลให้ผู้ที่ทำแท้งอาจมีอาการอักเสบติดเชื้อต่าง ๆ ตามมาต้องทำการรักษากันอย่างต่อเนื่องหากการทำแท้งนั้นทำไม่ถูกวิธีและทำโดยผู้ที่ไม่ชำนาญ และอาจกลายเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งมดลูกที่ต้องทำการตัดมดลูกทิ้ง

นอกจากนั้นยังสร้างผลกระทบทางจิตใจคือ ก่อให้เกิดความรู้สึกเสียใจและเศร้าใจเป็นอย่างยิ่งให้กับหญิงที่ได้กระทำแท้งไปแล้วกลายเป็นความรู้สึกผิดบาปอยู่ในใจไปตลอดชีวิตซึ่งบางรายอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้

ผลในทางธรรม

การทำแท้งนั้นเราอาจมองในมุมมองวิทยาศาสตร์ว่าเป็นการทำลายสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ทราบว่าจะเป็นมนุษย์ได้สมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งในทางธรรมแล้วไม่ใช่แค่การทำลายชีวิตที่เป็นเลือดเนื้อแต่เป็นการทำให้ดวงจิตวิญญาณของเด็กที่ตายนั้นเขาไปไหนไม่ได้ และดวงวิญญาณนั้นจะอยู่กับแม่ตลอดซึ่งเขาจะทนทุกข์ทรมานมาก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ดังที่กล่าวไปแล้วว่า ดวงวิญญาณของเด็กที่ตายส่วนมากจะเกาะติดแม่ตลอด บางดวงวิญญาณก็จะมาเกาะคอ ขี่หลัง เกาะที่เท้าหรือเดินตามไม่มีห่าง แต่เวลาที่แม่ไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือเข้าบ้านที่มีเจ้าที่เจ้าทางคุ้มครองดูแลอยู่ เขาไม่สามารถที่จะเข้ามาในเขาก็จะกระโดดเกาะอยู่ตามขอบรั้ว ตามขอบกำแพงบ้าง

สมมุติว่าจิตวิญญาณดวงนี้มีอายุถึง 70  ปี ตามอายุขัยของเขาในชาตินี้เด็กคนนี้ก็จะต้องเร่ร่อนไป เกือบ 70 ปีนั้น โดยที่ผลบุญไม่ปรากฏและผลบาปก็ไม่ปรากฏเพราะเขาไม่มีโอกาสจะได้ทำการใดๆ ทั้งสิ้น

ครูบอาจารย์บางท่านจึงกล่าวว่า การทำแท้งนั้นมีบาปมากอาจจะเทียบเท่ากับการฆ่าพระอรหันต์ เหตุเพราะ เด็กในครรภ์นั้นยังมีความบริสุทธิ์ ยังเคยได้สร้างบาปกรรมใดๆ เลย และไม่มีเหตุปัจจัยของการสร้างกรรม ชีวิตของเขาจึงบริสุทธิ์ดั่งพระอรหันต์

ดังนั้น การทำแท้งฆ่าเด็กทารกในครรภ์หนึ่งคนจึงอาจจะมีบาปเทียบเท่ากับฆ่าพระอรหันต์หนึ่งพระองค์ การฆ่ามนุษย์นั้นว่าบาปมากแล้วแต่การฆ่าเด็กทารกที่บริสุทธิ์เป็นบาปหนักยิ่งกว่า ซึ่งก็เป็นไปตามหลักความหนักของกรรมว่าด้วย วัตถุ ประโยคและเจตนาอีกทีหนึ่ง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

หากว่ากันตามหลักของ “วัตถุกรรม” นั้น คือ เด็กที่จะมาเกิดเป็นลูกเราบังเอิญว่าเป็นผู้มีภูมิธรรมขั้นสูงมาเกิดหรืออาจจะเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะมามาเกิดเสวยชาติ หรือเป็นอภิชาตบุตร บาปจะยิ่งหนักมากขึ้น

ถ้าว่ากันด้วยหลักของ ประโยคกรรม หรือความพยายามมีความพยามมากเท่าใด กรรมหนักก็จะหนักยิ่งขึ้นไปตามความพยายามที่จะทำแท้งให้สำเร็จมากเท่านั้น

และถ้าจะว่ากันด้วยหลักของ “เจตนากรรม” คือถ้าเจตนามากต้องการให้เด็กตายโดยไม่สำนึกเสียใจเลย กรรมหนักก็จะมากดังนี้เป็นต้น

พระพุทธองค์นั้นทรงตรัสถึงโทษที่สตรีผู้ทำแท้งจะต้องได้รับหลังตายไว้ว่า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ขุราธารมนุกฺกมฺม ติกฺข ทุรภิสมฺภวํ ปตนฺติ คพฺภปาตินิโย ทุคฺคํ เวตฺตรณี นทึ อโยมยา สิมฺพลิโย โสฬงฺคุลิกณฺฏกา อุภโต อภิลมฺพนฺติ ทุคฺคํ เวตฺตรณึ นทึ”

แปลความหมายว่า หญิงที่ทำแท้งนั้นต้องตกนรก ย่างเหยียบบนคมมีดอันคมกริบที่ไม่น่ารื่นรมย์ แล้วตกไปในแม่น้ำชื่อว่า “เวตตรณี” ซึ่งปีนขึ้นฝั่งได้ยาก เพราะมีต้นงิ้วที่มีหนามเป็นเหล็กห้อยย้อยปกคลุมอยู่ทั้งสองฝั่ง

อ้างอิงจาก พระไตรปิฎก( มจร.)เล่มที่ ๒๘ หน้า ๓๗

ผลกรรมที่อาจจะตกกับตัวผู้เป็นแม่

ผลกรรมจากการทำแท้งนั้น ขณะมีชีวิตอยู่ผู้เป็นมารดาอาจจะได้รับผลกรรมสนองจากโรคร้ายต่าง ๆ เช่น มีอาการป่วยหนักหรือมีอาการป่วยแบบแปลก ๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่ไปทำแท้งมา มักจะมีอาการปวดเมื่อยตามลำคอ ตามแขน ตามบ่า เพราะจิตวิญญาณของเด็กนั้นอาจจะห้อยโหนอยู่ในบริเวณนั้นอยู่ตลอดเวลา

แต่เมื่อเข้าไปในบ้านแล้วดวงจิตวิญญาณไม่สามารถเข้าไปได้เพราะบ้านแต่ละหลังก็มีเจ้าที่มีผีบ้านผีเรือน ก็จะต้องเกาะอยู่ตามประตูรั้วบ้าน กำแพงบ้านแล้วก็ล่องลอยอยู่ตรงนั้น คือ พวกสัมภเวสีต่างๆ ที่อยู่บริเวณด้านนอก ก็จะเข้ามาทำร้ายจิตวิญญาณของเด็กน้อยนั้นด้วย ทำให้วิญญาณของเด็กเหล่านั้นเพิ่ม ความโกรธ ความแค้น ความอาฆาต ต่อบิดามารดามากขึ้นไปอีก

การที่ดวงวิญญาณของเด็กมาผูกติดกับผู้เป็นแม่เช่นนี้ก็เพราะ วิญญาณหรือจิตของเด็กนั้นต้องมาตาย อยู่ในท้องของผู้หญิง ดวงจิตวิญญาณพอหลุดออกมาจากครรภ์แล้วเขาก็จะคิดว่าผู้หญิงที่เป็นแม่นั้น เป็นผู้ทำกรรมต่อเขา จึงมีความอาฆาตพยาบาท จึงเกาะติดกับผู้หญิงคนนี้ไปอยู่ตลอด

และแน่นอนว่าเมื่อมีวิญญาณที่มีจิตอาฆาตมาผูกติดอยู่เช่นนี้ตัวผู้เป็นแม่อาจจะประสบเคราะห์กรรมต่าง ๆได้อย่างไม่คาดฝันนอกจากจะมีโรคร้ายคุกคามแล้ว ชีวิตส่วนตัวหน้าที่การงานอาจจะประสบความยากลำบากไปด้วยหรือ มีผลต่อบุตรที่เกิดมาแล้วลูกที่เกิดมาอาจพิการ,ดื้อรั้นไม่เชื่อฟังและคอยสร้างปัญหาให้กับผู้เป็นแม่อยู่ตลอด ฯลฯ

ผลกรรมที่อาจจะตกอยู่กับตัวผู้เป็นพ่อ

แม้จะกล่าวว่าผลกรรมอาจตกอยู่กับตัวผู้เป็นแม่มากกว่าแต่คนที่เป็นพ่อนั้นก็ถือว่าเป็นผู้ที่ได้สร้างกรรมร่วมกันมาไม่อาจจะปฏิเสธความจริงในข้อนี้ได้ คนเป็นพ่อนั้นอย่าได้คิดย่ามใจเพียงเพราะว่าตนไม่ได้เป็นฝ่ายตั้งครรภ์และรับภาระเช่นเดียวกับฝ่ายหญิงไม่มีโอกาสที่วิญญาณจะตามติดเหมือนผู้เป็นแม่ แต่อย่างไรก็ตามต้องได้รับผลกรรมที่ตนเองกระทำไปเช่นเดียวกัน

เมื่อเป็นผู้ร่วมกระทำกรรมนั้นร่วมกัน ก็จะส่งผลกรรมที่มีต่อชีวิตได้อย่างไม่คาดฝันเพราะการทำแท้งนั้นเป็นกรรม “ปาณาติบาต” อาจส่งผลให้อายุสั้นกว่าวัยอันควร,มีโรคร้ายรุมเร้า, ถูกขัดขวางไม่ให้พบความเจริญ,เกิดความฉิบหายมาสู่ตนอย่างหาสาเหตุไม่ได้,กลายเป็นคนที่ไม่มีใครเชื่อถือ ทำงานอะไรก็จะพบกับความยากลำบากมาก ถ้าสำเร็จได้ก็เพราะบุญเก่ามากเท่านั้น และอาจจะต้องมีเหตุให้พบกับเรื่องที่ทำให้เสียเงินโดยไม่คาดคิดอยู่เสมอหรือชีวิตครอบครัวมีปัญหาอยู่ตลอดเวลา

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

และยิ่งถ้าหากจิตวิญญาณของเด็กผู้ตายนั้นมีจิตอาฆาตพยาบาทรุนแรงด้วยแล้วยิ่งลำบากหนัก เพราะจิตอาฆาตนั้นจะเฝ้าจองเวรกันทุกลมหายใจเข้าออก ทำให้ชีวิตไม่เป็นสุขทุกข์ทรมานต้องพบกับความล้มเหลวอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือบางท่านบางรายก็ต้องพบแต่ความทุกข์ระทม ล้มละลายทั้งชีวิตการงานและชีวิตครอบครัวหาความสงบสุขได้ยาก ต้องชดใช้กรรมกันไปอย่างยาวนานจนกว่าแรงกรรมนั้นจะได้ชำระกันจนหมดสิ้น หรือ จนกว่าเป็นที่พึงพอใจของจิตวิญญาณนั้น จนในที่สุดก็จะยกให้เป็นอโหสิกรรม

ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า “ทำแท้งมาหนึ่งครั้ง ชีวิตตกต่ำไปอย่างน้อยอีก 7 ปี” จึงไม่ใช่คำพูดลอย ๆที่เอาไว้ขู่ให้กลัวหรือเป็นคำพูดที่ไร้สาระเลยแม้แต่น้อย

ผลกรรมที่เกิดขึ้นกับผู้มีส่วนร่วมในการทำแท้ง

กรรมเรื่องทำแท้งนี้ใช่ว่าจะตกอยู่กับผู้ที่เป็นบิดามารดาของเด็กฝ่ายเดียว ผู้ให้ความร่วมมือ ผู้ช่วยออกเงินค่าทำแท้ง รวมไปถึง แพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยทั้งหลายที่มีส่วน หรือเรียกรวมว่า  “ผู้อยู่ในวงจรการทำแท้ง” ทุกคนต่างก็มีส่วนในการรับผลกรรมเกี่ยวกับการทำแท้งไปด้วยทั้งสิ้นเพราะ พ่อหรือแม่เด็กแม้จะเป็นผู้ที่แสดงเจตนาหลักให้ทำแท้งจะได้รับผลบาปโดยตรงแต่ผู้ร่วมกระทำก็ต้องรับผลนั้นไปด้วย

หากจะเปรียบเทียบให้ชัดเจนก็คือ เวลาที่เราไปตลาดแล้วจะไปซื้อปลาสดมาทำอาหาร ผู้ที่ได้รับบาปมากที่สุดก็คือ ผู้ที่เป็นผู้สั่งให้ฆ่าปลาก็คือคนซื้อ ส่วนแม่ค้าปลาที่จับปลามาตามคำสั่งจะเป็นผู้ลงมือฆ่าเป็นข้อขอดเกล็ดปลาก็ต้องได้รับผลแห่งการกระทำด้วยเช่นกัน แต่ได้รับผลในระดับที่ต่างกันเพราะจัดเป็นกรรมที่สักแต่ทำ (กตัตตากรรม) มีเจตนาอ่อนกว่าคือ ทำเพราะเป็นอาชีพหาเลี้ยงตัวเท่านั้น

แต่อาชีพรับทำแท้งนี้เป็นอาชีพฆ่าคนอย่างหนึ่งเลยทีเดียวแม้จะกล่าวได้ว่าเป็น กตัตตากรรมก็ตามก็ยังมีผลกรรมที่หนักกว่าการฆ่าสัตว์เดรัจฉานอย่างมากมายยิ่งนัก

ในทัศนคติของแพทย์หรือพยาบาลผู้มีหน้าที่ทำแท้งนั้นอาจมีความเห็นที่แตกต่างออกไปเพราะเขาเหล่านั้นอาจมองว่า อาชีพการทำแท้งนั้นถือเป็นการ “ช่วยเหลือ”บุคคลที่ตกทุกข์ได้ยากอีกทางหนึ่งซึ่งผู้เขียนขอนำบทความ นิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 25 ฉบับที่ 7 เดือน กรกฎาคม ปี2544 ที่แสดงถึงความเห็นของนายแพทย์ท่านหนึ่งที่เคยทำแท้งให้กับเหล่าสุภาพสตรี ซึ่งผู้เขียนได้ตัดทอนข้อความเฉพาะส่วนที่สำคัญมาอ้างอิงไว้ ณ ที่นี้ว่า

“คน คือ สิ่งที่มีคุณค่า แต่หากจะต้องเกิดมา โดยมีพ่อแม่หรือคนคอยดูแล เอาใจใส่ ปกป้อง ยามที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ รวมทั้งได้รับความรักและการศึกษาตามสมควร”  ซึ่งหากเป็นเด็กทุกคนเกิดมาเป็นเช่นนั้นผู้เขียนก็ขอตั้งสมมติฐานไว้ได้เลยว่าอาชีพการทำแท้งก็คงจะไม่มีอยู่ในโลกนี้อย่างแน่นอน 

แต่ความเป็นจริงสังคมไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะมีเด็กที่เกิดมาจาก “ความไม่ตั้งใจให้เกิด” จำนวนมากมายและถูกทอดทิ้งให้กลายเป็นสิ่งไร้ค่าเหมือนเศษสิ่งของตามกองขยะ ซึ่งเขาเหล่านั้นไม่เคยได้รับรู้ถึงความรักที่แท้จริงจากพ่อแม่และสุดท้ายก็ต้องพบกับความยากลำบากมากในชีวิต…….

….การทำแท้ง แน่นอน ไม่ใช่สิ่งที่ดี แต่ก็เป็นทางออกหนึ่งของผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมจะมีลูก ส่วนจะด้วยเหตุผลใด คงไม่จำเป็นต้องไปซักไซ้ไล่เลียง บางทีต่อไปในภายภาคหน้า ครอบครัวของท่านเองอาจประสบปัญหาที่จำต้องตัดสินใจทำแท้งด้วยข้อบ่งชี้ที่ไม่ได้ระบุไว้ ในกฎหมายก็เป็นได้

หากเลือกเกิดได้ ข้าพเจ้ายังคงเลือกที่เป็นเช่นที่ผ่านมา เพราะตลอดชีวิตตั้งแต่เกิด จวบจนมีครอบครัว ข้าพเจ้ามีความสุขพอสมควรตามอัตภาพ หากเกิดมามีแต่ทุกข์ ถูกทอดทิ้ง และขาดความรัก ความอบอุ่น ข้าพเจ้าขอเลือกที่จะถูกทำลายชีวิตขณะอยู่ในครรภ์ซะดีกว่า ข้าพเจ้าคิดว่า การทำแท้งควรที่จะทำให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายได้แล้ว เพื่อให้ทุกชีวิตที่เกิดมา เกิดมาอย่างมีคุณค่าสมกับความเป็นคน…”

มุมมองของนายแพทย์ท่านนี้เรียกได้ว่าแสดงถึงเจตนารมณ์ที่ดีเพื่อเป้าประสงค์ในการลดความทุกข์ร้อนและปัญหาต่างๆ ทั้งจากแม่เด็กและตัวของเด็กเองที่จะเกิดขึ้นตามมาซึ่งเข้ากับหลักของกฎแห่งกรรมว่าด้วย กตัตตากรรมอย่างแท้จริง แต่แม้ว่ามุมมองของนายแพทย์จะมองเห็นเช่นนี้ อย่างไรก็ตามย่อมส่งผลกระทบกับตัวผู้ทำอย่างแน่นอนเพราะ นายแพทย์ผู้ที่กระทำและผู้ที่เกี่ยวข้องทำแล้วได้ “เงิน” เป็นสิ่งตอบแทนถือเป็นอาชีพอย่างหนึ่งและเรียกได้ว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้มากมายด้วย จะเห็นได้ว่าขั้นตอนในการทำแท้งนั้นใช้เวลาไม่นาน และค่อนข้างจะทำได้ง่ายและมีความรวดเร็วหากอายุครรภ์มีไม่มาก และเราจะพบเห็นได้ว่ามีอาชีพหมอเถื่อนเพื่อการทำแท้งนี้เกิดขึ้นมามากมาย

ผลที่เกิดขึ้นกับนายแพทย์หรือผู้ที่ลงมือทำแท้ง 

เรื่องนี้ถอดความจากเทปของแม่ชีทศพร  บูญเทวาพิทักษ์ ครูบาอาจารย์คนสำคัญอีกคนหนึ่งที่มีเมตตาช่วยคนที่กำลังว่ายอยู่ในทะเลทุกข์ และมีคนจำนวนมากที่เคยทำแท้งมา และท่านเมตตาช่วยเหลือ เรื่องนี้กราบขออนุญาตแม่ชีทศพร ไว้ ณ ที่นี้ จุดประสงค์ที่นำมาลงเพื่อให้คนทั้งหลายได้เข้าใจในผลแห่งกรรม

ผู้ที่มีอาชีพทำแท้งนั้นมีโทษใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากับพนักงานในโรงฆ่าสัตว์ คือเมื่อฆ่าเขาเบียดเบียนเขาแล้วก็ต้องมีเหตุให้ต้องประสบเคราะห์กรรมด้านสุขภาพต่างๆ มากมาย อาจต้องประสบเคราะห์กรรมคือ กรรมให้เจ็บป่วยทางกาย ที่มีอาการเจ็บป่วยมากหรือน้อยไปตามจำนวนของเด็กที่ตนเองได้ลงมือทำแท้ง

คุณหมอที่เป็นสูตินารีแพทย์บางรายที่ทำแท้งให้กับลูกค้าจำนวนมากบางราย ถึงกับล้มเจ็บมีอาการป่วยเป็นโรคพาร์กินสันมีอาการ ขยับมือเท้าไม่ได้หรือขยับได้ยากลำบากตามลักษณะกรรมที่ได้ทำกับเด็กในครรภ์ผู้ที่ไม่มีโอกาสขยับเขยื้อนร่างกายเช่นกัน หรืออาจจะต้องเจ็บป่วยอย่างรุนแรงจนต้องเสียชีวิตไปก่อนวัยอันควร

ในชีวิตด้านอื่น ๆอาจจะประสบกับปัญหาครอบครัว คือมีอันต้องแยกทางกับคู่ครอง ไม่มีความสงบสุขในครอบครัวหากมีบุตรหลาน บุตรหลานอาจกลายเป็นคนที่ดื้อรั้น ว่ายากสอนยากหรือบุตรมีอายุสั้นเพราะเป็นผลมาจากกรรมที่ไปตัดรอนชีวิตของผู้อื่นไว้เป็นจำนวนมาก

ผลที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ออกเงินให้ไปทำแท้ง

ผลกรรมในลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นกับตัวของผู้เป็นพ่อเด็กหรือคนใกล้ชิดของแม่เด็กที่พยายามจะช่วยกันหาทางออกคือต้องหาเงินมาจ่ายในการทำแท้งและเป็นค่ารักษาพยาบาลกับตัวแม่ เนื่องจากเงินที่นำมาทำแท้งเป็นไปเพื่อจุดประสงค์ในการฆ่าและทำบาป เมื่อได้ให้เงินไปแล้วก็จะมีผลทำให้มีเหตุต้องเสียเงินตลอดเวลา คือ แม้ว่าจะเป็นผู้ที่มีความสามารถหารายได้ได้มากต่อเดือนแต่ก็ต้องมีเหตุทำให้เงินนั้นหมดไปแบบไม่รู้สาเหตุ หรือ เงินหายไปครั้งละมาก ๆ

หรือผลกรรมนั้นอาจปรากฏในอีกลักษณะหนึ่งก็คือในด้านการทำมาหากินก็จะทำมาหากินได้ยากลำบากมากขึ้นจากที่เคยหาได้ง่ายก็ต้องประสบปัญหานานัปการ ถ้าเป็นผู้ค้าขายก็อาจมีเหตุให้ต้องขาดทุนมากและทำอะไรใหม่ ๆก็ทำไม่ขึ้นไม่เจริญก้าวหน้า ฯลฯ

ผลที่เกิดขึ้นกับผู้มีส่วนร่วมอื่น ๆ

ผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำแท้งในลักษณะอื่น ๆขอกล่าวรวมไปถึง พนักงานในสำนักงานทำแท้ง,พยาบาลและผู้ที่มีส่วนไม่ว่าทางใดก็ตามให้เกิดการทำแท้งให้สำเร็จก็จะได้รับผลกรรมลดหลั่นกันไป อาจจะได้รับความยากลำบากในการทำงาน,อาชีพการงานไม่มีความก้าวหน้าอย่างที่ควรจะเป็น,มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนงานบ่อย ๆ ,ชีวิตไม่มีความสุขเท่าที่ควร,ชีวิตครอบครัวมีปัญหาจุกจิกทำให้เกิดความเบื่อหน่ายน่ารำคาญอยู่เป็นนิจ  ฯลฯ

หากจะกล่าวถึงผลกรรมโดยรวมสำหรับผู้ที่ทำแท้งและผู้ที่มีส่วนในการทำแท้งว่าผลจะหนักหรือเบาก็ขึ้นอยู่กับการแสดงเจตนาและการกระทำที่มีความรุนแรงตั้งใจให้การทำแท้งนั้นสำเร็จก็จะได้รับผลกรรมที่แรงไปตามเจตนานั้น ๆซึ่งเป็นไปตามหลักกฎแห่งกรรมทุกประการ

ที่สำคัญอย่าได้ลืมหรือเข้าใจผิดกันเป็นอันขาดว่า “อายุของเด็กที่ได้ทำแท้งไปแล้วนั้นเขาไม่ได้มีอายุสิ้นสุดเพียงแค่ตอนที่ถูกทำแท้งออกมาแล้ว” เพราะปกติวิญญาณของคน ๆหนึ่งที่จะเกิดขึ้นมาอาจมีอายุขัยยืนนานเป็น 70-80 ปีเมื่อเขาตายในครรภ์ไม่ได้หมายความว่า ชีวิตเขาสิ้นสุดแค่นั้นแต่จิตวิญญาณที่หลุดออกมาแต่ยังต้องวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ไปตามอายุขัยที่ถูกกำหนดมาด้วยกรรมที่เขาทำในอดีตชาติ  เมื่อเขาได้รับผลบุญบารมีที่มากพอแล้วเขาจึงจะสามารถอภัยให้กับผู้ที่ก่อกรรมและสามารถไปเกิดใหม่ได้