ปาฏิหาริย์ แม่สลบนาน 3 เดือนแต่คลอดลูกได้

พบกับเรื่องราวความรักความอบอุ่นของคุณแม่ยังสาว ที่ให้กำเนิดลูกน้อยโดยที่ตัวเองป่วยอาการหนักถึงขั้นโคม่า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เมื่อ คอลวิน่า โจลิ่น คุณแม่ยังสาวอายุ 28 ปี ได้เกิดอาการปวดศีรษะขั้นรุนแรงและเป็นลมสลบไปในขณะที่ตนเองตั้งครรภ์ได้เพียง 23 สัปดาห์ และสิ่งเดียวที่เธอจำได้ก่อนหมดสติคือ เธอได้ร้องตะโกนเรียกให้สามีมาช่วย

นี่คือภาพในขณะที่รถพยาบาลนำตัวคอลวิน่าส่งโรงพยาบาลในเซาท์แฮมตัน

สามเดือนต่อมา

คอลวิน่า ฟื้นและลืมตาขึ้นโดยพบว่าเธอหลับไปเป็นระยะเวลานานโดยตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าเดือนนี้คือเดือนกุมภาพันธ์แล้ว แต่สิ่งนี้ก็ยังไม่น่าตกใจเท่ากับสิ่งที่เธอพบว่า ลูกของเธอไม่ได้อยู่ในท้องของเธออีกแล้ว เพราะอะไรกัน

เรื่องราวของคุณแม่ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเลือดคั่งในสมองและภายหลังการผ่าตัดจะต้องนอนพักฟื้นร่างกายเป็นระยะเวลานาน แต่เรื่องราวที่น่ามหัศจรรย์ก็คือ คุณแม่ท่านนี้ได้ให้กำเนิดลูกน้อยโดยที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้สึกตัว คอลวิน่าเล่าว่า มีอยู่วันหนึ่งในขณะที่เธอการทำงานบ้าน จู่ๆ เธอก็รู้สึกปวดหัวขั้นรุนแรง ซึ่งทำให้เธอสูญเสียการทรงตัว โดยเธอจำได้แต่เพียงว่าเธอตะโกนเรียกสามีก่อนที่จะเป็นลมสลบไป สามีของเธอได้นำตัวเธอส่งโรงพยาบาลควีน อเล็กแซนดร้าโดยทันที แต่หมอที่โรงพยาบาลบอกว่า เธอจะต้องรีบเข้ารับการผ่าตัดสมองโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งโรงพยาบาลดังกล่าวอยู่ไกลออกไปถึง 36 กิโลเมตร โดยคณะแพทย์บอกกับครอบครัวของเธอว่า “โอกาสที่เด็กจะรอดนั้นมีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น แต่ถ้าเธอไม่รีบทำการผ่าตัด เธอก็จะเสียชีวิตเช่นเดียวกัน”

คอลวิน่า ได้เข้ารับการผ่าตัดทันทีที่ถึงโรงพยาบาลในเซาท์แฮมตัน หมอได้ทำการผ่าตัดสมองของเธอเพื่อเอาก้อนเลือดก้อนใหญ่ออก ด็อกเตอร์เอยอล กล่าวว่า “สาเหตุที่คอลวิน่าสลบเพราะเลือดไปคั่งในสมองทำให้เกิดเป็นก้อนเลือดที่มีขนาดใหญ่มาก จนไปกดทับเส้นเลือดและเส้นประสาท จึงไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ และตอนนี้สิ่งที่คุณหมอกังวลมากที่สุดก็คือ เด็กในท้องของคอลวิน่านั่นเอง

การผ่าตัดเป็นไปโดยสำเร็จลุล่วง คอลวิน่าปลอดภัยแต่ก็ยังป่วยขั้นโคม่าอยู่

ถึงแม้ว่าการผ่าสมองของคอลวิน่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่เธอก็ยังอยู่ในอาการขั้นโคม่า ทำให้ทีมงานแพทย์ไม่สามารถรับปากกับครอบครัวของเธอได้ว่าเด็กจะปลอดภัยหรือไม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

จนเวลาผ่านเป็นหนึ่งสัปดาห์ แม่ของคอลวิน่าพบว่า มือของคอลวิน่านั้นขยับ และเหมือนเธอพยายามที่จะเอามือของตัวเองไปจับท้องเหมือนในขณะที่กำลังตั้งครรภ์อยู่

เมื่อครรภ์อายุครบ 29 สัปดาห์ คอลนิว่าก็ต้องกลับเข้าไปห้องผ่าตัดอีกครั้งนึง โดยทางทีมแพทย์ต้องการที่จะผ่าตัดเอาเด็กในท้องออกเพื่อที่จะรักษาชีวิตของเด็กไว้ การผ่าตัดเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทีมแพทย์ต้องทำการกระตุ้นหัวใจเด็กถึง 2 ครั้ง โดยทารกมีขนาดที่เล็กและดูเปราะบางมาก สามีของคอลวิน่ากล่าวว่า “ตัวของไมอานั้นเล็กมากและเหมือนจะหักเสียให้ได้

ภาพพบกันครั้งแรกของคอลวิน่าและไมอา

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ปาฏิหาริย์มีอยู่จริง! ในที่สุดคอลวิน่าก็ฟื้น

เจ็ดสัปดาห์ผ่านไปหลังจากที่ไมอาถือกำเนิด ในที่สุดคอลวิน่าก็ฟื้น แม่ของเธอเล่าว่า “เธอเห็นคอลวิน่าพยายามที่จะโบกมือตอบรับเวลาที่เธอกล่าวทักทาย และเหมือนคอลวิน่าจะรู้แล้วว่าลูกไม่ได้อยู่ในท้องของเธอแล้ว เธอจึงพยายามส่งสัญญาณมือบอกกับทางทีมพยาบาลว่าเธออยากพบหน้าลูก ลูกของเธออยู่ที่ไหน และมันเกิดอะไรขึ้นในขณะที่เธอกำลังหลับอยู่”

คอลวิน่าหายจากอาการขั้นโคม่าทันทีที่ได้รู้ว่าลูกสาวของเธอไมอานั้นยังมีชีวิตอยู่ และทางทีมแพทย์ได้ผ่าตัดเอาเด็กออกมาแล้ว เมื่อคอลวิน่าได้พบกับไมอา เธอก็สามารถที่จะขยับตัวได้มากขึ้นกว่าเดิม ใครจะไปคิดละว่าปาฏิหาริย์แห่งสายใยรักนั้นจะยิ่งใหญ่มากถึงเพียงนี้ คอลวิน่ากล่าวว่า “ใครๆก็อาจจะคิดว่าชั้นโง่มาก ที่ชั้นไม่สามารถจำได้ว่าความรู้สึกของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้นเป็นอย่างไร ชั้นรู้แต่เพียงว่าไมอาอยู่ตรงนั้น และชั้นก็ได้ให้กำเนิดทารกตัวน้อยทั้งๆที่หลับอยู่”

อลิสัน ฮัทฟิลด์ นักกายภาพกล่าวว่า “คอลวิน่าฟื้นตัวได้ไวมาก โดยปกติทางทีมแพทย์จะเป็นคนช่วยผลักดันและให้กำลังใจคนไข้เพื่อที่จะฟื้นฟูจากอาการเจ็บป่วยและต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าที่คนไข้จะสามารถลุกขึ้นทำอะไรได้ แต่คอลวิน่าใช้เวลาสั้นโดยเอาตัวเองเป็นแรงผลักดัน เธอสู้เป็นอย่างมาก เพราะเธอต้องการที่จะดูแลลูกสาวของเธอได้ด้วยตัวของเธอเอง”

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ณ ปัจจุบันนี้หนูน้อยไมอาก็ได้มีอายุครบ 1 ปีแล้ว และเธอกำลังเรียนรู้ที่จะพยายามฝึกพูดและหัดเดิน

ภาพภายหลังจากที่คอลวิน่าออกจากโรงพยาบาล

ด้วยอำนาจพลังแห่งสายใยรัก ทำให้เรื่องราวของคอลนิว่าเป็นที่กล่าวขานกันมาก บางคนอาจจะคิดว่าไม่จริงและเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ดิชั้นเชื่อว่า ด้วยพลังแห่งความรักระหว่างแม่และลูกนั้นมีอำนาจทรงพลังอยู่มากจริงๆค่ะ

ที่มา https://sg.theasianparent.com/

บทความโดย

Muninth