ปัญหาวัยเรียน ที่พ่อแม่ต้องเจอแน่ๆ รับมือและแก้ไขยังไงดี

ปัญหาวัยเรียน ที่พ่อแม่ต้องเจอแน่ๆ รับมือและแก้ไขยังไงดี เมื่อลูกเข้าโรงเรียนก็เริ่มเปลี่ยนไป อะไรไม่ดีติดกลับมาบ้านไม่เว้นวัน แบบนี้จัดการยังไงดี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ปัญหาวัยเรียน ที่พ่อแม่ต้องเจอแน่ๆ รับมือและแก้ไขยังไงดี

ปัญหาวัยเรียน ที่พ่อแม่ต้องเจอแน่ๆ รับมือและแก้ไขยังไงดี เมื่อลูกๆ เข้าสู่วันเตรียมอนุบาลและอนุบาล ปัญหาที่ต้องเจอแน่นอน มีอะไรและจะรับมือยังไงดี

1.โกหก

เด็กๆ ในวัยนี้ที่ถูกล้อมรอบด้วยสื่อ อย่างหนังสือ ภาพยนต์ และรายการทีวี (รวมถึงอินเตอร์เน็ต) อาจยังแยกเรื่องในจินตนาการและโลกความจริงไม่ออก อย่าแปลกใจค่ะ หากลูกกลับมาบ้านพร้อมเรื่องราวการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่เหนือความจริง แต่สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสอนคือ ลูกสามารถจะจินตนาการกว้างไกลแค่ไหนก็ได้ ตราบเท่าที่ลูกแยกแยะเรื่องจริงออกจากจินตนาการ

สิ่งที่ต้องทำ ก็แค่ถามลูกว่า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ หรือมันคือสิ่งที่ลูกอยากจะให้เกิด เด็กๆ จะอธิบายเองค่ะว่า มันคือเรื่องจริงหรือไม่ และเมื่อเวลาผ่านไป ตอนที่เด็กๆ เริ่มเล่าเรื่องราวได้อย่างคล่องแคล่ว มีคลังคำศัพท์และการใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องมากขึ้น (แน่นอน ไม่ได้ถูกไปทั้งหมดหรอก) เขาจะสามารถสื่อสารออกมาได้อย่างใจมากขึ้น

แต่ถ้าสิ่งที่ลูกโกหกนั้นก่อให้เกิดผลเสียต่างๆ หรือทำให้ลูกมีปัญหา นอกจากจะบอกเขาถึงผลลัพธ์ที่ตามมาแล้ว อาจลงโทษด้วยการยึดของเล่นสักหนึ่งวัน หรืองดขนมสักอาทิตย์นึง เพื่อให้ลูกรู้ว่าควรจะพูดเรื่องจริงค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

2.งอแง 

เด็กแต่ละคนความพร้อมในการไปโรงเรียนไม่เท่ากันค่ะ จึงเป็นเรื่องปกติที่เด็กๆ อาจจะงอแงไปบ้าง อย่างไรก็ตาม เมื่อการงอแงไม่ได้ผล ไม่ได้ทำให้คุณพ่อคุณแม่เปลี่ยนใจ ลูกจะเลิกไปเอง แต่ในขณะเดียวกันคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเข้มแข็งและยืนหยัดให้ได้นะคะ ใจแข็งเข้าไว้แม้ลูกจะดูน่าสงสารแทบขาดใจแค่ไหนก็ตาม

3.พัฒนาการถดถอย

ส่วนใหญ่จะเป็นด้านการพูดค่ะ เด็กๆ ที่สื่อสารได้เป็นประโยคแล้ว อาจจะมีพัฒนาถดถอยได้ อย่างเช่น การพูดเป็นคำๆ เหมือนกับตอนที่หัดพูด เรื่องนี้เป็นปัญหาปกติที่พบเจอได้เช่นกันค่ะ อาจเกิดขึ้นเพราะเด็กๆ เรียกร้องความสนใจ หรือเกิดความเครียด วิตกกังวล เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ อย่าให้ความสนใจมากเกินไป ทำตัวให้เป็นปกติที่สุด แล้วปัญหาจะผ่านไปเองค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

และอีกเรื่องคือการติดนิสัยพูดคำหยาบกลับมาบ้าน เรื่องนี้ก็ทำเหมือนข้างต้น คือนิ่งเฉยค่ะ ไม่ต้องทำเป็นเรื่องใหญ่ แต่ควรบอกลูกว่าทำไมถึงไม่เหมาะสมที่จะพูดด้วยนะคะ

4.ดื้อ

จะว่าดื้อก็ไม่เชิงนะคะ เพราะเด็กๆ เมื่อเริ่มเป็นตัวของตัวเอง เขาก็อยากที่จะเป็นอิสระจากคำสั่งของพ่อแม่ ดังนั้นถ้าลูกจะพูดว่าไม่ หรือไม่ยอมทำตามสิ่งที่พ่อแม่ต้องการก็ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ เพียงแต่กฎเกณฑ์ในบ้านคือเรื่องที่ทุกคนต้องทำตาม มันคือระเบียบวินัยที่เด็กๆ จะต้องเรียนรู้ ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนน่ะแหละ ใช้วิธีการสนับสนุนลูกเชิงบวก ด้วยการชมเมื่อลูกยอมทำตามข้อกำหนด ให้รางวัลเป็นรูปดาว หรือสติกเกอร์แปะผนังก็ได้ผลเช่นกันค่ะ

5.ก้าวร้าว

ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกด้านลบที่เกิดขึ้นกับเด็กๆ เอง หรือการรับสื่อการทีวีหรืออินเตอร์เน็ต การแสดงออกถึงความโกรธเกรี้ยวนี้ ต้องได้รับการฝึกฝนและรับมือค่ะ ก่อนที่จะเกิดการแสดงออกทางกาย เช่น ทุบตี เตะ หรือกัด เพราะนั่นอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ต่อไปได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณพ่อคุณแม่ต้องรับมืออย่างนิ่งเฉย อย่าไปวีนแตกใส่ลูกนะคะ การทำให้ลูกสงบลงด้วยการนอกเวลา และสอนทักษะการแก้ปัญหาให้กับลูก เพื่อที่ลูกจะได้ลองนำไปใช้ เรียนรู้ และแก้ไขได้ค่ะ นอกจากนี้ควรสอนเรื่องอารมณ์ต่างๆ ให้แก่ลูกด้วย การแสดงออกว่าลูกรู้สึกยังไงผ่านคำพูดจะลดลง เมื่อเด็กๆ เริ่มมีทักษะที่มากขึ้น

ที่มา Verywell

บทความที่น่าสนใจ

ใครมีลูกวัยเรียนต้องอ่าน “สอนลูกให้รับมือกับการถูกแกล้ง” งานนี้ต้องรอด!

วิธีการรับมือ เมื่อลูกโกหกหน้าเป็น