ตั้งแต่หลังคลอดลูก เชื่อว่าคุณแม่หลายท่านคงจะโฟกัสกับการเลี้ยงลูก จนอาจละเลยการดูแลตัวเองไป ถึงเวลากลับมาดูแลตัวเอง อย่าปล่อยให้ ปัญหาผิวหนัง มาบั่นทอนความสวยของคุณแม่หลังคลอดนะคะ เพราะผู้หญิงอย่าหยุดสวย! แต่เพราะ ปัญหาผิวหนัง หลังคลอดที่คุณแม่ต้องเจอนั้น บางปัญหาก็หนักหนาและต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู จะพาไปดูปัญหาผิวที่คุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่จะต้องเจอกัน จะได้หันมาดูแลตัวเอง กลับมาเป็นคุณแม่หลังคลอดที่สวยใส กระชับเต่งตึง ไม่โทรมและหมองคล้ำกันนะคะ
5 ปัญหาผิวคุณแม่ ต้องดูแลให้ถูกวิธี
สำหรับว่าที่คุณแม่ทุกคน การได้อุ้มท้องเจ้าตัวน้อยนั้น นับว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่น่ายินดีที่สุดในชีวิตเลยใช่ไหมล่ะคะ? แต่ระหว่างในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นี้ ก็จะมีสารพัดสารพันปัญหาผิวมาคอยกวนใจให้เสียงานอยู่เป็นระยะ ๆ จนคุณแม่หลาย ๆ คนเป็นต้องกลุ้มใจจนปวดหัวไปตาม ๆ กัน และในวันนี้ เราจะพาสาว ๆ มารู้จักกับปัญหาผิวทั้งหมดที่ว่าที่คุณแม่จะต้องประสบพบเจอ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวเตรียมใจ และเตรียมดูแลผิวพรรณเอาไว้เพื่อป้องกันปัญหาได้อย่างถูกต้องที่สุดค่ะ
ผื่นแดง แสบๆ คันๆ
เนื่องจากในช่วงตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิงจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ส่งผลให้ผิวมีความไวต่อแสงแดดมากขึ้น เมื่อโดนแดด จึงเกิดอาการแสบคันได้ง่าย จึงต้องหมั่นบำรุงผิวด้วยครีม หรือโลชั่นที่มีกลิ่นอ่อน ๆ แบบเป็นธรรมชาติ เพราะครีมที่มีกลิ่นแรง ๆ จะทำให้เกิดอาการแพ้ท้องได้ค่ะ แต่หากผื่นแดงที่ขึ้นบนผิวหนัง กระจายเป็นวงกว้างจนดูผิดปกติ หรือมีลักษณะเป็นตุ่ม ๆ ดูแปลกตา ก็อาจเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งไม่ควรปล่อยไว้โดยเด็ดขาด คุณแม่ควรนำปัญหา ไปปรึกษาแพทย์โดยเร็วค่ะ
ผิวขาดน้ำ
ประมาณ 2 สัปดาห์หลังคลอด ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดจะเจอกับปัญหาขาดน้ำ เพราะจะมีการขับเอาน้ำที่สะสมในระหว่างตั้งครรภ์ออกไป ซึ่งจะทำให้คุณแม่บวมน้ำน้อยลง แต่ก็ส่งผลต่อสุขภาพผิว เกิดปัญหาผิวขาดน้ำตามมา ยิ่งถ้าคุณแม่ดื่มน้ำน้อยด้วยแล้ว ปัญหาผิวขาดน้ำก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น ซึ่งคุณแม่บางท่านอาจจะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังประสบปัญหานี้อยู่ วิธีง่าย ๆ ลองสังเกตดูว่าระหว่างวันที่เลี้ยงลูก รู้สึกปากแห้ง ปากแตก ปากลอกเป็นขุย กลืนน้ำลายแล้วรู้สึกเหนียวคอ ผิวแห้ง ผิวไม่สดใส ผมขาดหลุดร่วงง่าย น้ำนมออกน้อย
ถ้าใช่! นั่นแปลว่าคุณแม่หลังคลอดกำลังเจอปัญหาผิวขาดน้ำอยู่ การแก้ปัญหาก็คือ เติมน้ำให้ผิว โดยให้คุณแม่หลังคลอดดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป เมื่อดื่มน้ำทดแทนเข้าไป ในปริมาณที่เพียงพอ ผิวของคุณแม่หลังคลอดก็จะกลับมาสวยเปล่งปลั่ง รวมทั้งจะทำให้มีน้ำนมเพียงพอสำหรับลูกน้อยอีกด้วย
ผิวหมองคล้ำ
90% ของคุณแม่ตั้งครรภ์ จะมีสีผิวที่เข้มขึ้น ดูหมองคล้ำกว่าปกติ เช่น บริเวณคอ รักแร้ เส้นกลางหน้าท้อง ต้นขา ลานหัวนม รวมถึงอวัยวะเพศ นอกจากนี้ยังพบไฝ ฝ้า กระ ติ่งเนื้อ ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่กระตุ้นให้ผิวสีเข้มขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะหลังคลอดบุตร สีผิวที่หมองคล้ำจะจางลงตามธรรมชาติ ซึ่งจะช้าหรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับระดับฮอร์โมน
แต่จะรอให้ผิวหมองคล้ำจางลงตามธรรมชาติ ก็อาจจะไม่ทันใจคุณแม่หลังคลอด เพราะฉะนั้นหันมาดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง เพื่อคืนความกระจ่างใส ซึ่งทำได้หลากหลายวิธี หนึ่งในนั้น คือ หลีกเลี่ยงแสงแดดแรง ๆ ที่จะทำให้ผิวหมองคล้ำ เลือกใช้ครีมบำรุงเพื่อปรับสภาพผิว ขัดผิวด้วยสมุนไพรอย่างขมิ้น หรือมะขาม ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้กับคุณแม่หลังคลอด เพียงแต่ต้องระวังในคุณแม่ที่ผ่าคลอด ควรเริ่มทำหลังจากคลอดประมาณ 1 เดือนค่ะ
ผิวแตกลาย
นับเป็นปัญหาระดับชาติ ปัญหาผิวแตกลายต้องบอกว่าเป็นปัญหาที่ทำเอาคุณแม่หลังคลอดหนักอกหนักใจกันมาก จะบอกว่าหนักใจตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้ เพราะในระหว่างที่ตั้งครรภ์นั้น ผิวจะเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตามขนาดตัวของทารกในครรภ์ บวกกับน้ำหนักของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดปัญหาผิวแตกลาย โดยส่วนใหญ่จะพบได้บริเวณหน้าท้องถึง 90% ปัญหาผิวแตกลายนี้ยิ่งรักษาเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี โดยใช้ครีมทาผิวหรือน้ำมันกันท้องแตกลาย เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวบริเวณหน้าท้อง ร่วมกับการดื่มน้ำเปล่า ช่วยฟื้นฟูผิวได้อีกทางหนึ่งนะคะ
ผิวหย่อนคล้อย
แม้คุณแม่หลังคลอดจะวุ่นอยู่กับการเลี้ยงเจ้าตัวเล็ก แต่อย่าลืมหันมาดูแลตัวเอง เพื่อขจัดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ด้วยการออกกำลังกายเพื่อกระชับผิว โดยเลือกการออกกำลังกายเบา ๆ เช่น อย่างการเดินช้า ๆ หรือการเล่นโยคะ จะช่วยเพิ่มความกระชับให้กล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้อต้นขา และเพิ่มความแข็งแรงให้ผิวหนังที่หย่อนคล้อยกลับมากระชับเหมือนเดิม สำหรับคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ อย่าเพิ่งหักโหมนะคะ ควรพักร่างกายประมาณ 2-3 อาทิตย์ แล้วจึงเริ่มออกกำลังกาย แต่ถ้าคุณแม่ที่ผ่าคลอดควรพักประมาณ 1 เดือน เพื่อไม่ให้กระทบกับแผลผ่าคลอด
เพราะความสวยความงามของผู้หญิงนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ต้องใส่ใจอย่างต่อเนื่องด้วยการดูแลอย่างถูกวิธี ด้วยเทคนิคการดูแลที่เรานำมาฝากกัน จะได้เป็นคุณแม่หลังคลอดที่ผิวกายสวยใส กระชับแต่งตึง ไม่โทรมและหมองคล้ำนะคะ
สิวฝ้า ผิวหน้าไม่เรียบเนียน
เพราะการตั้งครรภ์จะส่งผลให้ ระดับฮอร์โมนแอสโตรเจนสูงขึ้นมาก ซึ่งจะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้รูขุมขนอุดตัน จนกลายเป็นสิวแต่ไม่ควร แก้ปัญหาสิวโดยการสครับหน้า หรือขัดลอกผิวนะคะ เพราะจะทำให้ผิวอักเสบได้ ควรใช้ยาทาแต้มสิวที่ไม่มีสาร Retin A เพราะสารดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของลูกในท้องค่ะ นอกจากเรื่องสิว ๆ แล้ว สำหรับผู้หญิงเอเชียที่มีผิวขาว หรือขาวเหลือง ย่อมมีแนวโน้มที่จะเกิดฝ้า และรอยดำบนใบหน้าได้ด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน จึงต้องทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านเสมอ และอย่าลืมพกหมวก ร่ม และแว่นกันแดดติดตัวเอาไว้ด้วยนะคะ
ปัญหาผิวรุมเร้าในช่วงตั้งครรภ์เหล่านี้อาจฟังดูน่ากลัวสำหรับสาวๆ หลายๆ คน แต่ไม่ต้องกังวลมากจนเกินไปนะคะ เพราะอาการเหล่านี้จะค่อยๆ บรรเทา จนดีขึ้นได้เองในช่วงหลังคลอดประมาณ 2-3 เดือน ที่สำคัญที่สุดคือต้องใส่ใจดูแลและบำรุงผิวพรรณให้ถูกวิธีอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ไปจนถึงเวลาหลังคลอดบุตร ทั้งหลีกเลี่ยงแสงแดด อย่าปล่อยให้ผิวแห้ง คอยเติมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ผิวชุ่มชื้น นอกจากนี้ ก็ต้องอย่าลืมดื่มน้ำมากๆ ทานผักผลไม้เยอะๆ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะคะ ในส่วนของหน้าท้องแตกลาย ที่โดยส่วนมากแล้วจะยังมีแผลเป็นจางๆ หลงเหลืออยู่ให้เห็น ก็สามารถแก้ไขได้โดยการใช้ครีมทาให้รอยแผลเป็นดูจางลง หรือทำทรีทเมนต์ให้ผิวดูกระชับและกลับมาเรียบเนียนอีกครั้งได้ค่ะ
ผิวพรรณที่เปลี่ยนไป เช่น หน้าท้องมีสีดำคล้ำ เป็นผลจากฮอร์โมนหรือไม่ จะหายหรือไม่ ต้องรักษาอย่างไร
ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในระยะยาวเมื่ออายุมากขึ้นหรือไม่ เช่น รูปร่างเปลี่ยนไป ผิวพรรณหย่อนคล้อย เป็นต้น
ที่มา : hertitude.com , pregskin.com , today.line.me
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ค้นพบวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันผิวแตกลายระหว่างตั้งครรภ์
ผิวลูกแห้งเพราะอากาศหนาว ปัญหาใหญ่ของเบบี๋ที่ไม่ใช่แค่เรื่องผิวๆ
10 ครีมคนท้อง ห้ามพลาด ครีมทาผิว ครีมทาหน้าดี ๆ ที่คุณแม่ทุกคนต้องมี!