ดังนั้นหากคุณแม่ไม่สามารถให้นมลูกได้หรือมีน้ำนมไม่เพียงพอ จำเป็นต้องหานมผงเสริม คุณแม่จึงควรเลือกนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการทางธรรมชาติที่ใกล้เคียงนมแม่มากที่สุด ปัจจุบันได้มีการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานมแพะผงสำหรับเด็ก เพื่อให้ลูกได้รับโภชนาการที่ครบถ้วน อย่างไรก็ตามคุณแม่หลายท่านอาจมีข้อสงสัยหรือเคยได้ยินเรื่องนมแพะ วันนี้เรามาปลดล็อคข้อสงสัย 2 เรื่องเกี่ยวกับนมแพะกันค่ะ
A : นมแพะไม่ใช่นมสำหรับรักษาอาการแพ้นมวัว แต่เป็นนมที่มีโปรตีนนุ่มและย่อยง่าย ส่วนเด็กที่แพ้นมวัวนั้น เกิดจากการแพ้โปรตีนชนิดเบต้า-แลคโตกลอบบูลิน ซึ่งพบมากในนมวัว แต่นมแพะพบโปรตีนชนิดนี้น้อยกว่านมวัวถึง 3 เท่า โอกาสกระตุ้นให้เกิดูมิแพ้จึงน้อยกว่าเด็กที่ได้รับนมทั่ว ๆ ไป โปรตีนในนมแพะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารจากธรรมชาติได้ดี เช่น นิวคลีโอไทด์ ทอรีน โพลีเอมีนส์ และโกรทแฟคเตอร์ เพื่อพัฒนาการที่สมวัย ส่วนคุณแม่ที่กำลังสงสัยว่าลูกเป็นโรคแพ้โปรตีนนมวัวหรือไม่ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องค่ะ
A : คนไทยส่วนใหญ่จะรู้สึกว่านมแพะมีกลิ่นทั้งที่ไม่เคยลองดื่ม เป็นเพราะได้ยินคนบอกต่อ ๆ กันมา เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา อาจมีเกษตรกรบางกลุ่มมีการเลี้ยงแพะ เพื่อรับประทานเนื้อและนมภายในชุมชน น้ำนมที่ผลิตได้จะมีกลิ่นแรงแตกต่างจากนมวัว
• อาหารที่แพะกิน โดยทั่วไปในบ้านเรา การเลี้ยงแพะก็จะปล่อยให้แพะกินหญ้าตามทุ่งหญ้าทั่วไป ขณะที่นมแพะจากต่างประเทศ เช่น ประเทศนิวซีแลนด์ จะมีการควบคุมคุณภาพอาหารของแพะ โดยอาหารเหล่านั้นจะปลูกขึ้นมาเอง มีพันธุ์หญ้าที่หลากหลาย ได้แก่หญ้าสมุนไพรต่างๆ เช่น อัลฟาฟ่า ชิโกรี รวมทั้งต้นโคลเวอร์ พืชตระกูลถั่ว เพื่อให้สารอาหารที่มีประโยชน์กับน้ำนมแพะ และป้องกันการปนเปื้อนสารเคมี ที่อาจตกค้างจากแหล่งที่ไม่ทราบได้
เท่านี้คุณแม่ก็มั่นใจได้ว่า แม้ให้ลูกกินนมแพะก็สะอาดปลอดภัย และมีสารอาหารครบถ้วนเหมาะสมสำหรับลูกน้อย