ทำไมต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับเด็ก ?
ผิวของเด็กทารกแรกเกิดนั้นมีความบอบบางมากกว่าผิวของผู้ใหญ่หลายเท่า จึงทำให้ผิวของลูกเกิดการระคายเคืองต่อผิวสัมผัสต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะกับเสื้อผ้าที่ลูกต้องสวมใส่ในทุกวัน และหากคุณแม่ซักทำความสะอาดได้ไม่สะอาด หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักทำความสะอาดที่ไม่เหมาะกับเสื้อผ้าของลูก ก็อาจทำให้มีสารเคมีตกค้างติดอยู่กับเสื้อผ้าของลูกได้ เมื่อลูกสวมใส่เสื้อผ้าก็สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ส่งผลทำให้ลูกไม่สบายตัว หรือหากช่วงที่อากาศร้อนๆ แล้วเหงื่อออก ผิวลูกที่มีเหงื่อเมื่อสัมผัสเข้ากับเสื้อผ้าที่ซักไม่สะอาด มีสารเคมีตกค้าง ก็สามารถส่งผลกระทบต่อผิวที่บอบบางของลูกได้ ทำให้เกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดงอักเสบขึ้นได้ค่ะ ดังนั้นหากเป็นเสื้อผ้าของลูกน้อยแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความเสื้อผ้าสำหรับเด็กโดยเฉพาะจะดีต่อสุขภาพผิวของลูกมากกว่า และที่สำคัญคุณแม่หมดกังวลเรื่องอันตรายจากสารเคมีตกค้างได้เลยค่ะ
ทำไมจึงต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเสื้อผ้าเด็กหลังจากซักทำความสะอาดเสื้อผ้าลูกน้อย ?
ชุดเสื้อผ้าเด็ก หรือผ้าขนหนู ผ้าอ้อมผ้า ถุงมือ ถุงเท้าฯลฯ เมื่อนำมาซักทำความสะอาดโดยที่ไม่ได้ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เมื่อผ้าแห้งแล้ว คุณแม่จะรู้สึกได้ว่าผิวผ้าไม่ได้นุ่มละมุน เรียบลื่นเหมือนตอนแรก แต่เนื้อผ้ากลับมีความกระด้าง และการที่ลูกต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่มีความกระด้าง ก็สามารถส่งผลให้ผิวของลูกเกิดการระคายเคือง มีอาการผื่นแพ้ขึ้นที่ผิวหนังได้ง่าย คุณแม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลถนอมเนื้อผ้าด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเสื้อผ้าเด็กโดยเฉพาะ
ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กอายุ 0-3 ขวบ อย่างไร ?
การเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก โดยเฉพาะในกลุ่มของผลิตภัณฑ์ซักทำความสะอาด และถนอมเสื้อผ้า เช่น
- น้ำยาซักเสื้อผ้าเด็ก : ควรต้องมีความอ่อนโยนต่อเนื้อผ้า ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี โดยเฉพาะสารฟอกขาว และควรสกัดมาจากธรรมชาติ
- น้ำยาปรับผ้านุ่มเด็ก : มีประสิทธิภาพในการปรับเนื้อผ้าให้มีความนุ่ม สังเกตดูด้วยหากผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังหรือสถาบันเกี่ยวกับด้านผิวหนังพอจะมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับการนำไปใช้กับเสื้อผ้าเด็ก นอกจากความนุ่มแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆ ก็อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่แม่อาจจะนำมาประกอบการพิจารณา เพราะกลิ่นหอมอ่อนๆ จะทำให้ลูกน้อยอารมณ์ดี