ในช่วงหน้าฝนนี้มีหลายที่เที่ยวที่เราสามารถพาลูกไปตะลุยตามหาความสุขได้อย่างสนุก กับ 5 ที่เทียวหน้าฝน ที่พากันไปได้ทั้งครอบครัว ที่เทียวสำหรับลูกมีมากมาย ถ้าเลือกสถานที่ให้เหมาะสมกับช่วงวัยของลูก เท่ากับเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตให้กับเขา เพราะทุกที่ของโลกคือแหล่งเรียนรู้ของลูก
ที่เที่ยวหน้าฝน : นอนแพแลดูฝนที่เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี
เมื่อไปถึงเขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน สิ่งแรกที่จะสัมผัสได้ คือ สายลมเย็น ๆ ที่จะโปรยปรายเข้ามาปะทะทั่วทุกอณูผิวของร่างกาย และทัศนียภาพตรงหน้าที่ได้เห็น จะกลายเป็นภาพประทับใจไม่รู้ลืม ด้วยทัศนียภาพของผืนน้ำกว้างใหญ่เข้มคล้ายมรกตที่แท้จริงแล้วคือสีของตะไคร่ที่อยู่ใต้น้ำ จนเผลอคิดไปว่าเป็นน้ำทะเล และด้วยภูมิประเทศที่มีภูเขาหินปูนสูงชัน ที่ซับซ้อนไปมา มีแนวหน้าผาที่โดดเด่น ล้อมรอบไปด้วยผืนน้ำนั้น ซึ่งลักษณะเช่นนี้ไปคล้ายกับภูมิประเทศของเมืองกุ้ยหลิน ทีประเทศจีน เขื่อนรัชชประภาแห่งนี้จึงได้ถูกขนานนามว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย”การลงเรือนั่งชมทัศนียภาพและบรรยากาศสวยงามรอบเขื่อนที่มีพื้นที่ถึง 645.52 ตารางกิโลเมตร นับว่าเป็นกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึง เพราะพื้นที่รายรอบเขื่อนมีแหล่งท่องเที่ยวที่นสนใจ เช่น ถ้ำน้ำทะลุ ถ้ำปะการัง ถ้ำใหญ่ น้ำตกแม่ยาย น้ำตกโตนกลอย และ จุดชมวิวบนภูเขาสูง เมื่อมองลงมาจะเห็นทิวทัศน์ และ เกาะแก่งน้อยใหญ่ที่อยู่รายรอบ
บรรยากาศการนอนแพในเขื่อนก็เป็นอีกหนึ่งอารมณ์ที่สามารถพาครอบครัวมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดชิล ๆ ได้ ทำให้เราสามารถสัมผัสกับบรรยากาศของธรรมชาติได้ทั้งกลางวันกลางคืน หรือ อาจจะเล่นกิจกรรมที่ทางผู้ประกอบการแต่ละแพมีจัดไว้บริการการเดินทาง จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี้ ใช้เส้นทางหลวง 401 จนถึง อ.บ้านขุนตาล ทางเข้าจะอยู่ระหว่าง กม. 57-58 และเลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ 12 กม. ถึงเขื่อนรัชชประภาสถานที่ตั้ง เขื่อนเชี่ยวหลาน อยู่ในการดูแลพื้นที่โดยอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎรธานี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ กม. 57-58
ที่เที่ยวหน้าฝน : ชมทุ่งดอกกระเจียวบานหน้าฝน อุทยานแห่งชาติป้าหินงาม จ.ชัยภูมิ
สมัยก่อนการเดินทางเข้าไปในอุทยานแต่ละที่ลำบากมาก ด้วยเส้นทางที่ยังไม่มีการปรับปรุง การขึ้นอุทยานทั้งทีจึงเต็มไปด้วยดิน โคลน และ ฝุ่นควัน แต่ปัจจุบันนี้หลายอุทยานได้ถูกปรับปรุงเพื่อง่ายต่อการเดินทางที่เข้าถึงมากยิ่งขึ้น และ สะดวกสบายรองรับการเดินทางท่องเที่ยวแบบครอบครัวมากขึ้นด้วย การเดินทางมาชมทุ่งดอกกระเจียวบนอุทยานแห่งชาติป้าหินงามที่จ.ชัยภูมิจึงไม่ใช่เรื่องยากการได้สัมผัสทุ่งบัวสวรรค์ หรือ ทุ่งดอกกระเจียวงามจัดเป็นไฮไลต์ที่สุดของการมาเยือนที่อุทยานแห่งนี้โดยเฉพาะในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ถึง 31 ส.ค. ที่มีการจัด เทศกาลดอกกระเจียวงาม ประจำปี ช่วงเวลาที่เราจะได้เห็นราชินีดอกไม้สีชมพูอมม่วงค่อยๆ ทยอยผลิบานตลอดช่วง 2 เดือนนี้ ที่ออกดอกเพียงปิ้ละครั้งเท่นั้น เราสามารถพาลูกมาใกล้ชิดกับธรรมชาติ และชมความงามของดอกกระเจียวที่ชูช่อบานเต็มท้องทุ่งทั่วบริเวณ ดอกสีชมพูอมม่วงตัดกับหญ้ผืนสีเขียว ทำให้ทุ่งดอกกระเจียวในอุทยานแห่งชาติป้หินงาม ได้ชื่อว่าเป็นทุ่งดอกกระเยวที่ใหญ่และมีความงามที่สุดในโลก
ว่ากันว่าการเดินทางมาชมทุ่งดอกกระเจียวในช่วงที่สวยที่สุดคือ ช่วงเช้ที่มีสายหมอกบางๆ จะได้บรรยากาศที่สุดประทับใจและโรแมนติกมาก แต่หากมาในช่วงบ่ายหลังฝนตกก็จะสัมผัสความรู้สึกสวยงามของบรรยกาศได้ไม่แพ้กัน นอกจากการเที่ยวชมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติทุ่งดอกกระเจียวแล้ว ยังสามารถชมแหล่งท่องเที่ยวบริเวณข้างเคียงได้อีกด้วย เช่น ป้าหินงาม ที่มีก้อนหินรูปลักษณ์แปลกตา เช่น หินรูปถ้วยรางวัลฟุตบอลฟีฟา รูปดอกเห็ด หรือแวะพักที่น้ำตกเทพประทานและชมจุดชมวิวที่ขึ้นชื่ออย่าง ผาหำหด เป็นต้น
การเดินทาง เดินทางจากกรุงเทพ ระยะทาง 290 กม. ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ผ่านสระบุรีแล้วเลี้ยวขวาเข้า อ.ชัยบาดาล ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายลข 21 จนถึงแล้วใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 205 เส้นทางลำนารายณ์ ผ่าน อ.ลำสนธิ ซึ่งจะเป็นเส้นทางขึ้นเขา ก่อนถึง อ.เทพสถิตประมาณ 1 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ยไป อ.หนองบัวระเหว ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2354 ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ยไปตามถนนลาดยาง ระยะทางประมาณ 13-14 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติป้าหินงาม ซึ่งจะมีป้ายบอกเป็นระยะ ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 4ชั่วโมง 10 นาที
ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติป้าหินงาม ตู้ ปณ.2 ปทจเทพสถิตย์ อ. เทพสถิตย์ จ. ชัยภูมิ 36230
ที่เที่ยวหน้าฝน : ดูผีเสื้อลอยละลิ่วบินละล่องที่อุทยานแห่งชาติปางสีดาจ.สระแก้ว
ไฮไลต่ในช่วงฤดูฝน ช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา คือฤดูกาลที่เหล่าผีเสื้อจะออกมาโบยบินประชนความสวยงาม เหมือนประหนึ่งผืนป่ากลายเป็นแคทวอร์กระดับธรรมชาติทำให้ตื่นตาตื่นใจและมองเห็นความงดงามสันลวดลายบนปีกของผีเสื้อเหล่านั้นที่มีสายพันธุ์กว่า 400ชนิด ในงาน “เทศกาลดูผีเสื้อที่ปางสีดา” พร้อมกับกิจกรรมมากมาย เราสามารถพาลูกเดินชมผีเสื้อและถ่ายภาพชิลๆ
ได้ตามแหล่งหากินของผีเสื้อ ทั้งที่จุดดูผีเสื้อ กระจายตามจุดต่างๆ จุดที่เหมาะดูผีเสื้อสำหรับครอบครัวและนักท่องเที่ยวทั่วไปภายในอุทยานแห่งชาติปางสีดาจะอยู่บริเวณโป้งรับแขกหรือจุดดูผีเสื้อด้าน 2 บริเวณลานจอดรถทางลงน้ำตกปางสีดาและต้นไม้สองข้างทางที่กำลังออกดอก หรือจะเป็น “ทุ่งหญ้า ลานหิน ดินโป่ง โถงป่า” ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับดูผีเสื้อตั้งแต่ 8.00 -12.00 น.อุทยานแห่งชาติปางสีดา ได้รับการยกย่องให้เป็น “เมืองผีเสื้อแห่งผืนป่าตะวันออก” เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับการเรียนรู้ของลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสัตว์ป่า เพราะบนอุทยานแห่งนี้มีสัตว์ป่าและนกหายากกว่า 300 ชนิด เช่น ช้างป้า หรือเสือลายพาดกลอน นกเงือก นกยุง เป็นต้น ด้วยความสมบูรณ์ของผืนป่าที่มีเนื้อที่ประมาณ 527,500 ไร่ และ เป็นป่าต้นน้ำเช่นเดียวกับเขาใหญ่ จึ่งทำให้มีสัตว์น้อยใหญ่ร่วมกันอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้
การเดินทาง โดยรถส่วนตัว จากตัวเมืองสระแก้วใช้ทางหลวงหมายเลข 3462 ขึ้นไปทางทิศเหนือเข้าไปประมาณ 27 กิโลเมตร จนถึงที่ทำการอุทยาน
ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติปางสีดา อ.เมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว โทร . 0 3724 6100 , 08 1862 1511
ที่เที่ยวหน้าฝน : ดูกะหล่ำปลีที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์
ใครว่าไปภูทับเบิกเราจะรอขึ้นไปชมทะเลหมอกได้แค่ในหน้าหนาว แต่เพราะภูทับเบิกมีพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 มตร และเป็นจุดที่สูงสุดของ จ.เพชรบูรณ์ จึงทำให้ที่นี่มีอากาศที่เย็นสบายตลอดปี และมีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามจับใจ เราสามารถชมธรรมชาติของทะเลภูเขาและทิวทัศน์ที่มองออกไปได้กว้างไกลเนื่องจากลักษณะบนภูทับเบิกเป็นที่โล่งกว้าง ชาวบ้านที่นี่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้งที่อพยพมา
ได้ใช้พื้นที่ประกอบอาชีพทำการเกษตรเพาะปลูกผักที่เป็นพืชไร่หมุนเวียนตลอดทั้งปิ โดยเฉพาะ กะหล่ำปลี หากได้ไปท่องเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะพบเห็นไร่กะหล่ำปลีเป็นชั่นบันไดเลียดขนานไปกับแนวผา เป็นวิวที่สวยงามมาก ไร่กะหล่ำปลีของชาวเขาบนภูทับเบิกจะโตเต็มที่ประมาณเตือนมิถุนายนถึงปลายเดือนสิ่งหาคม และ อีกช่วงคือเตือนตุลาคมถึงกลางเดือนธันวาคม นอกจากชมบรรยากาศงามๆ บริเวณจุดชมวิวของภูทับเบิกแล้ว
เรายังสามารถเดินเข้าไปในหมู่บ้านทับเบิก ชมวิถีของชาวเขาเผ่าม้งในพื้นที่ และ อุดหนุนสินค้าของที่ระลึก รวมถึงพืชผักหมุนเวียนตามฤดูกาลซึ่งเป็นผลผลิตจากชาวบ้าน เช่น หัวกะหล่ำปลี แครอท ฟักแม้ว ฯลฯ ปัจจุบันภูทับเบิกเปิดบริการบ้านพัก และ สถานที่กางเต้นท์ไว้รองรับสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักแรม เพื่อรอชมวิวทะเลหมอกในยามเช้า หลังจากที่ได้ชมวิวทะเลภูเขาเมื่อยามกลางวันกันเต็มอิ่ม
การเดินทาง เดินทางได้ด้วยรถส่วนตัวเท่านั้น ยังไม่มีบริการรถสาธารณะ และควรเป็นรถที่มีกำลังแรงอย่างน้อย 1500 ซีซี เนื่องจากภูทับเบิกเป็นภูเขาสูงชัน ผู้ขับควรมีประสบการณ์ในการขับรถขึ้นเขาด้วย แต่สำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงเส้นทางสูงชัน หรือสำหรับครอบครัวที่พาลูกมาเที่ยวสามารถขึ้นภูทับเบิกได้ทาง ภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดต่อกัน
ที่ตั้ง ภูทับเบิกตั้งอยู่ใน ต.วังตล อ.หล่มเก่า จ.เพชบูรณ์ ห่างจากอ.หล่มเก่า 40 กม. และห่างจากตัวจังหวัดเพชรบุรณ์ประมาณ 97 กม.
ที่เทียวหน้าฝน : ผจญภัยแบบแอดเวนเจอร์ยกครอบครัว ที่ค่าย จปร.จ.นครนายก
ครอบครัวไหนที่ชอบท่องเที่ยวแบบผจญภัยแอดเวนเจอร์ อยากให้มาลุยความสนุกกันที่ค่าย จปร.นครนายก ใครว่าเขตทหารเที่ยวไม่ได้ ภายในค่ายได้จัดกิจกรรมหลากหลายที่เหมาะสำหรับครอบครั้วหรือมันส์เป็นหมู่คณะ ทั้งกิกรรมทางทหาร เช่น การกระโดดหอสูง 34 ฟุต กิจกรรมโรยตัวจากหน้าผาจำลอง หรือกิจกรรมเบาๆ ด้วยการปั่นจักรยานท่องเที่ยว
การพายเรือคายัด การเล่นเลื่อนข้ามลำน้ำการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และชมสไลด์ หรือจะเล่นแบบเป็นกลุ่มด้วยกิจกรรม ยิงปืนเพ้นท์บอล เป็นต้นซึ่งแต่ละกิจกรรมมีอัตราค่าบริการเพียง 10-80 บาทเท่านั้นนอกจากสนุกกับกิจกรรมในค่าย จปร. แล้ว ภายใน อ.เมือง ของนครนายกยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง เช่น น้ำตกต่างๆ เขื่อนขุนด่านปราการชล วัดพราหมณี (หลวงพ่อปากแดง) อุทยานพระพิฆเนศ เรียกว่าพาลูกเที่ยวหนึ่งวันที่นครนายก ให้ลูกได้ประสบการณ์กลับบ้านเพียบ
การเดินทาง เดินทางด้วยรถยนต์จากกรุงเทพไปง่ายมาก ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 305 บนถนนรังสิต-นครนายก เลียบคลองรังสิตผ่าน อ.องครักษ์ ไปตามทางเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้ายที่สามแยก จปร.ตามเส้นทางหลวง3052 จนถึงโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
ที่ตั้ง สำนักงานท่องเที่ยว รร.จปร. 99 ม.1 ต.พรหมณ์ อ.เมือง จ นครนายก 26001 โทร. 037-393185มือถือ 089-7991429
ที่มาจาก : https://travel.trueid.net/detail/DerKpM90N71
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รับมือให้ลูกน้อยป้องกันโรคหวัดหน้าฝน