ทำไมต้องให้นมแม่อย่างน้อย 6 เดือน

“นมแม่” เป็นอาหารที่สุดยอดสำหรับทารกน้อยแน่นอนที่สุด แต่เคยสงสัยกันบ้างไหมคะว่า คำแนะนำในการให้นมแม่มักจะบอกว่า อย่างน้อย 6 เดือน แสดงว่าภายใน 6 เดือนนั้นต้องมีอะไรดีแน่ ๆ มาร่วมไขความลับ ทำไมต้องให้นมแม่อย่างน้อย 6 เดือน ติดตามอ่านค่ะ

ทำไมต้องให้นมแม่อย่างน้อย 6 เดือน

ให้นมแม่อย่างน้อย 6 เดือน, ประโยชน์ของนมแม่ 6 เดือนแรก

องค์การอนามัยโลกได้แนะนำให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวติดต่อกันนาน 6 เดือน โดยทุกสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคมองค์การพันธมิตรนมแม่โลก (waba) กำหนดให้มีการรณรงค์เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

แม้แต่องค์การอนามัยโลกยังแนะนำให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน มาดูกันว่าใน 6 เดือนแรกนั้น นมแม่มีความสำคัญอย่างไร ติดตามอ่านค่ะ

แม่จ๋า!!!!ให้หนูกินนมอย่างน้อย 6 เดือนนะ

ให้นมแม่อย่างน้อย 6 เดือน, ประโยชน์ของนมแม่ 6 เดือนแรก

พญ.ปวินทรา หะริณสุต สมนึก กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวถึงประโยชน์ของนมแม่ที่มีต่อทารก ไว้ว่า

1. นมแม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อลูกครบถ้วน มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต ทำให้ลูกเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ มีภูมิต้านทานในการต่อต้านเชื้อโรค

2. ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ในลูก เช่น การติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร การติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ ลดภาวะเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้หอบหืด หูอักเสบ โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวภาวะหลับไม่ตื่น (sudden infant death syndrome) โรคอ้วน และเบาหวาน เป็นต้น

บทความแนะนำ นมแม่ช่วยลดอัตราเสี่ยงจากโรคไหลตายในทารก?

3. ทำให้เกิดสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่กับลูก เนื่องจากแม่และลูกได้สัมผัสกัน ก่อให้เกิดความผูกพัน

4. เกิดพัฒนาการทางด้านสมองและสติปัญญา เกิดความฉลาดทางอารมณ์ และมีบุคลิกภาพที่ดีในอนาคต สำหรับในด้านพัฒนาการ มีการศึกษาพบว่าเด็กที่ได้รับนมแม่จะมีระดับของสติปัญญาหรือไอคิวที่ดีกว่าเด็กที่ได้รับนมผสมตั้งแต่ 2-3 จุดจนถึง 8-11 จุด

อย่างไรก็ดี ระดับสติปัญญาของลูกไม่ได้ขึ้นกับการได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นกับปัจจัยด้านการเลี้ยงดู ความอบอุ่นในครอบครัวและสิ่งแวดล้อมด้วย

บทความแนะนำ นมแม่ช่วยเพิ่มไอคิว (IQ) ให้ลูกได้

ดังนั้น ขอให้คุณแม่เชื่อมั่นว่าการให้นมแม่ในช่วง 6 เดือนแรก โดยให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียว รับรองว่า ลูกไม่ขาดน้ำ ไม่ขาดอาหาร อย่างแน่นอน ที่สำคัญเท่ากับได้เริ่มต้นสิ่งดี ๆ ให้กับชีวิตลูกน้อย นั่นคือ

1. ระยะ 6 เดือนแรก สมองลูกเติบโตเร็วมาก นมแม่เหมาะกับสมองที่โตเร็ว

2. ระยะ 6 เดือนแรก ทางเดินอาหารลูกยังย่อยอาหารอื่นได้ไม่ดี นมแม่ย่อยง่ายที่สุด

3. ระยะ 6 เดือนแรก ลูกยังสร้างภูมิคุ้มกัน ได้ไม่ดี แต่นมแม่มีภูมิคุ้มกันให้ลูกได้อย่างดี

4. ระยะ 6 เดือนแรก กระเพาะอาหารมีขนาดเล็กนิดเดียว ยืดหยุ่นได้ไม่มาก ถ้าได้อาหารอื่น นอกจากไปแย่งที่แล้วอาหารเหล่านี้มีสารอาหารสู้นมแม่ไม่ได้

5. นมแม่มีสารไขมันที่จำเพาะสำหรับสมองทารกแรกเกิดในระยะ 6 เดือนแรก ร่างกายยังสร้างน้ำย่อยไขมันไม่ได้เต็มที่ นมแม่ก็มีน้ำย่อยไขมันมาด้วย ดังนั้น สารไขมันในนมแม่จึงถูกนำไปใช้สร้างสมองลูกได้อย่างเต็มที่

6. นมแม่มีสารอาหารอื่น ๆ กว่า 200ชนิด ที่จะช่วยเสริมการพัฒนาสมองและจอประสาทตา

7. เด็กกินนมแม่สมองดี ตาเห็นได้ดี ช่วยส่งเสริม พัฒนาการมากขึ้น

8. ขณะที่ลูกกินนมแม่ ลูกจะอยู่ในอ้อมกอดของแม่ วันละอย่างน้อย 7-8 ครั้ง การอุ้มลูกเป็นการช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัส ทำให้เซลล์สมองมีการโยงใยมากขึ้น ยิ่งโยงใยมาก สมองก็ยิ่งฉลาดมาก ถ้าสัมผัสน้อย การโยงใยก็น้อยกว่า สมองส่วนนั้นก็จะฝ่อไปในที่สุด

คุณหมอฝากบอก

ให้นมแม่อย่างน้อย 6 เดือน, ประโยชน์ของนมแม่ 6 เดือนแรก

ก่อน 6 เดือน การให้ลูกกินอาหารเสริมเร็ว จะทำให้ลูกมีโอกาสเจ็บป่วยบ่อยกว่า เพราะมีโอกาสจะรับเชื้อโรคที่ปนมากับอาหารเสริมได้มาก รวมทั้งมีโอกาสแพ้โปรตีนที่มากับนมผสมหรืออาหารอื่นด้วย ที่สำคัญอาหารเสริมหรืออาหารอื่น ๆ รวมถึงน้ำด้วย นอกจากจะไปแย่งที่นมแม่แล้ว ทำให้ลูกอิ่มและดูดนมแม่น้อยลง แม่ก็จะสร้างน้ำนมได้น้อยลง และนมแม่ก็จะหมดไปในที่สุด

บทความแนะนำ อันตรายจากการป้อนอาหารเสริมเร็วเกินไป

นมแม่อาหารแห่งสายใยรักและผูกพัน ระหว่างแม่กับลูกน้อย อย่าให้ช่วงเวลาดี ๆ ที่แม่และลูกจะถ่ายทอดสิ่งที่เป็นพื้นฐานแห่งชีวิตต้องหมดไปอย่างรวดเร็วด้วยการให้อาหารเสริมหรือให้ลูกหย่านมเร็วกว่า 6 เดือนนะคะ

ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ

อ้างอิงข้อมูล

https://www.bumrungrad.com

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เปิดใจคุณแม่สาวหล่อ เปิดอกเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ทำไมเด็กแรกเกิดต้องการนมแม่เร็วที่สุด?TAP mobile app

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!