ความเชื่อที่อาจไม่เคยรู้ ทำไมโบราณถึงต้องเก็บสายสะดือลูก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การเก็บสายสะดือของเด็กแรกเกิดหลังที่แห้งหลุดออกมาแล้วนั้น เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คนสมัยก่อนได้ให้ความสำคัญมาก เกี่ยวกับความเชื่อนี้ หมอกวี ทัศนศร หมอนวดแผนไทยและหมอพื้นบ้านผู้มีความรู้เกี่ยวกับการทำคลอด ที่ได้บอกกล่าวผ่านเว็บไซต์ manager.co.th ว่ากันด้วยความเชื่อการเก็บสายสะดือของทารกของคนสมัยโบราณที่พ่อแม่มักเก็บนำไปทำยา ด้วยการนำไปตากแห้งก่อน นำมาฝนให้ลูกกินแก้อาการเจ็บป่วย โดยมีเงื่อนไขว่า เด็กคนนั้นต้องเป็นเจ้าของสะดือของตนเองเท่านั้น!

 

 

ทำไมต้องเก็บสายสะดือลูก

ในแต่ละภาคของไทยได้มีความเชื่อเรื่องสายสะดือแตกต่างกัน

ความเชื่อเรื่องการเก็บสายสะดือของทารกภาคเหนือ

โดยชาวล้านนามีความเชื่อกันว่า สายสะดือของเด็กทารกนั้น ถือเป็นสายสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับพ่อแม่ ญาติพี่น้อง จึงต้องเก็บไว้เป็นอย่างดี ด้วยการทำให้แห้งสนิท แล้วห่อกระดาษเก็บเอาไว้ และเมื่อมีพี่น้องคลอดกันตามออกมา แม่จะเอาสะดือของทั้งคู่หรือของลูกทุกคนมาฝนกับหินฝนยา แล้วเอาน้ำสะดือนั้นให้ลูกทุกคนได้กิน โดยเชื่อกันว่า พี่น้องจะได้รักและห่วงใยกัน ดังคำสอนของชาวล้านนาที่ว่า “ปี้น้องกันกกไส้ปั๋นกั๋น หื้อฮักกั๋น” ซึ่งหมายความว่า พี่น้องตัดไส้แบ่งกันจะได้รักกันนั่นเอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ความเชื่อเรื่องการเก็บสายสะดือของทารกภาคใต้

สำหรับภาคใต้นั้น หมอจะตัดสายสะดือของทารกด้วยไม้ไผ่บาง ๆ และผูกด้วยด้ายดิบแบ่งเป็นสองหรือสามเปลาะ และตัดเอาสายสะดือเปลาะที่สองนับจากตัวเด็กไปวางลงบนขมิ้น จากนั้นนำไปทาปากและมือของตัวเด็ก เป็นการถือเคล็ดป้องกันไม่ให้เด็กปากไม่ดี มือบอน มือไว หรือซุกซน และเอาเชือกนำกลับมาผูกสายสะดือส่วนที่ติดกับตัวเด็กอีกครั้งแล้วเอายาทา โดยยาที่ใช้ทา คือ ยาพลับพลา ขี้เต่า หญ้าใต้ใบ หรือรัง เป็นต้น ซึ่งใช้วิธีบดโรยบนสะดือทิ้งไว้ราว 7 วัน สะดือเด็กก็จะหลุด แต่ก่อนที่สะดือเด็กจะหลุดนั้น ต้องอาบน้ำให้เด็กนอกอ่าง เพราะเชื่อว่าถ้าสะดือหลุดในอ่างภายหน้าเด็กจะเสียชีวิตในน้ำได้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ส่วนความเชื่อเรื่องของสายสะดือนี้ที่ผู้เฒ่าผู้แก่ในสมัยก่อนมักจะเก็บสายสะดือแห้งมาไว้เป็นน้ำกระสายยา เวลามีใครป่วยหนักกินยาอะไรไม่ทุเลา ก็จะนำสายสะดือแห้งมาฝนเป็นน้ำกระสายแทรกไปกับยาอื่น นอกจากนี้ยังใช้สายสะดือแห้งฝนกับน้ำมะนาว ทาแก้พิษแมลงอะไรต่อยได้ด้วย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ไม่เฉพาะความเชื่อเรื่องเก็บสายสะดือทารกจะมีแค่ในประเทศเท่านั้น ยังมีความเชื่อที่เราพบจากที่อื่นอีก เช่น

  • หมอตำแยในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี จะมอบสายสะดือของทารกให้กับพ่อเด็กเก็บรักษาไว้ให้ดีตราบนานเท่านาน เพื่อลูกจะได้มีความเจริญปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
  • ความเชื่อของชาวอังกฤษราวร้อยปีเศษที่ผ่านมาถือว่า สะดือทารกเป็นของขลังเมื่อต้องล่องเรือไปกลางทะเล เพราะเชื่อว่าจะช่วยไม้ให้เรืออับปาง ทั้งยังเป็นเครื่องรางให้แก่ผู้ครอบครองได้ เช่น เวลาตกน้ำถ้ามีสายสะดือติดตัวไว้ แม้ว่ายน้ำไม่เป็นก็จะไม่จมน้ำตาย จนึงขนาดต้องมีการประกาศขอซื้อสายสะดือแห้งกันบ่อยๆ เลยทีเดียว
  • ความเชื่อของการนำสายสะดือแห้งของทารกมาผูกห้อยคอเป็นเครื่องรางให้ลูกของเกาะเซรัม และเกาะอื่นๆ ทางทะเลใต้ ตลอดจนชาวออสเตรเลีย โดยเชื่อว่าจะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บของลูกได้ หรือถ้าเจ็บป่วยก็จะใช้สายสะดือเป็นยารักษาโรค และทำให้เด็กเติบโตเร็ว ตลอดจนเป็นเครื่องรางป้องกันตัวเองให้พ้นภัยเมื่อต้องออกเดินทางหรือทำสงคราม
  • ในประเทศพม่ามีความเชื่อว่าหากนำสายสะดือทารกติดตัวไปด้วย จะทำให้ได้รับความเมตตาจากผู้อื่น
  • ชาวฮินดูลางถิ่น ใช้สายสะดือป่นกับไข่ให้เด็กกิน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ลูกมีสติปัญญาความฉลาด และถ้าบรรจุเย็บไว้ที่คอเสื้อผ้าของลูก จะทำให้ลูกเป็นคนเก่งกล้าสามารถ

เมื่อพิจารณาจากความเชื่อที่ต้องเก็บสายสะดือทารกนั้น เพราะคนสมัยโบราณได้ถือว่าสายสะดือคือส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของเด็ก ทารกในท้องแม่นั่นต้องศัยสายสะดือเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิต อย่างไรก็ดีตามหลักการแพทย์ปัจจุบันนั้นถือว่าสะดือของทารกเป็นส่วนสำคัญที่พ่อแม่จำเป็นต้องดูแลรักษาความสะอาดให้ดีที่สุด และควรระวังการติดเชื้อตราบเท่าที่สะดือของทารกยังไม่หลุด

ทั้งหมดนี้คุณหมอได้บอกว่าความเชื่อในการเก็บสายสะดือทารกนั้นเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และปัจจุบันอาจจะมีน้อยลง เพราะพัฒนาการทางการแพทย์ที่มีความเจริญก้าวหน้าขึ้น

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

วิธีทำความสะอาดสะดือลูกน้อย สำหรับคุณแม่มือใหม่

สายสะดือพันคอทารกอันตรายถึงชีวิต

ธนาคารเลือดจากรก มีประโยชน์ต่อวงการการแพทย์อย่างไรบ้าง ?

ที่มา : mgronline

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Napatsakorn .R