ความรุนแรงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา
พ่อแม่บางคนอาจสอนลูกให้ตอบโต้ด้วยความรุนแรง เพื่อนแกล้งมาก็ต้องสู้กลับ แกล้งเพื่อนกลับตอบโต้กันไปมา หรือไม่ก็ไปเอาเรื่องกับคุณครูที่โรงเรียนกลายเป็นปัญหาใหญ่ ลุกลามบานปลายไม่จบสิ้น พาลให้ปวดหัว ลูกเองก็ไม่มีความสุข และไม่ได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง อาจกลายเป็นการสนับสนุนลูกให้ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาต่างๆ ทำให้เด็กมองว่าความรุนแรงเเป็นเรื่องธรรมดา จะใช้เมื่อไรก็ได้
หรือถ้าลูกมาเล่าให้ฟังแล้วพ่อแม่คิดว่าเป็นเรื่องของเด็ก เดี๋ยวก็คงดีกันเองได้ อาจทำให้ลูกรู้สึกว่าไม่ได้รับความใส่ใจจากพ่อแม่ทำให้ลูกขาดความมั่นใจ และไม่ไว้ใจเพราะพ่อแม่ไม่ได้สนใจรีบเข้าช่วยแก้ปัญหาทำให้เด็กเกิดภาวะถดถอย ขาดความมั่นในตัวเอง ขาดทักษะการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ขาดทักษะการเข้าสังคม
สอนลูกอย่างไรเมื่อถูกเพื่อนแกล้ง
1.ใส่ใจลูกรับฟังปัญหาอย่างตั้งใจ
เมื่อลูกเข้ามาบอกพ่อแม่ว่าถูกเพื่อนแกล้ง สิ่งที่ควรทำอันดับแรกคือรับฟัง ให้ลูกได้ระบายความรู้สึก แล้วสอบถามลูกให้ชัดเจน ว่าเกิดอะไรขึ้นถามถึงอารมณ์และความคิดเห็นของลูกกับเรื่องที่เกิดขึ้น ช่วยลูกหาวิธีแก้ปัญหาโดยไม่แสดงท่าทางตำหนิลูกที่ไม่รู้จักตอบโต้ แสดงอารมณ์หงุดหงิดต่อว่าลูกว่าอ่อนแอ จะทำให้ลูกยิ่งรู้สึกแย่หนักเข้าไปอีก และไม่กล้าเข้ามาบอกเมื่อมีปัญหาอีก
2.พูดคุยกับลูก
พูดคุยกับลูกเพื่อให้ลูกมีทักษะในการแก้ปัญหาและป้องกันตัวเองได้มากขึ้น เช่นลูกของเราอาจมีบุคลิคที่ดูอ่อนแอ หรือมีปฎิกริยาตอบสนองกลับมากอย่าง ร้องโวยวายเสียงดัง ทำให้เพื่อที่แกล้งรู้สึกสนุกขบขันไปกลับการแกล้งลูกเรา คุณแม่จึงต้องสอนให้ลูกพยายามนิ่งเวลาถูกเพื่อนแกล้ง ไม่ตอบโต้ ไม่ร้องโวยให้เพื่อนยิ่งรู้สึกสนุกมากขึ้น พยามให้ลูกเดินหนี หรือบอกกับเพื่อนไปตรงๆด้วยการมองตา พูดด้วยท่าทางเข้มแข็งจริงจังว่าไม่ชอบที่เพื่อนมาแกล้ง สิ่งเหล่านี้จะเป็นการฝึกให้ลูกมีความเข้มแข็งและมีความกล้าในการบอกปฏิเสธ ทำให้เพื่อนรู้สึกว่า ลูกของเราไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิด
3.เสริมสร้างบุคลิกเชื่อมั่นในตัวเองให้ลูก
เด็กที่มีความมั่นใจในใจตัวเอง จะกล้าพูดกล้าทำ เข้มแข็ง และพร้อมละความกลัวเพื่อขึ้นมาปกป้องตัวเอง รู้จักการปฏิเสธไม่ยอมให้ตัวเองตกเป็นเป้าโดนรังแกตลอด ควรเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองให้ลูกโดยการมอบหมายงานบ้านให้ลูกช่วยทำ หรือฝึกให้ช่วยเหลือตัวเอง และชมเชยทุกครั้งที่ลูกทำสำเร็จ
4.สอนลูกอย่าปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยง
เด็กที่ถูกแกล้งส่วนใหญมักจะถูกแกล้งตอนที่อยู่คนเดียว จึงควรให้ลูกหาบัดดี้ที่โรงเรียน พยายามอย่าอยู่คนเดียว หรือไปไหนมาไหนคนเดียว ทำให้เพื่อนหาช่องว่างเข้ามาแกล้งได้ยากขึ้น
5.ฝึกลูกให้รู้จักแก้ปัญหาด้วยสติและเหตุผล
คุณแม่อาจถามลูกว่า ลูกคิดว่าทำไมเพื่อนถึงชอบแกล้งเรา ให้ลูกได้รู้จักวิเคราะห์ปัญหา เพราะเด็กที่ชอบแกล้งเพื่อนเองอาจเป็นเด็กที่มีปัญหาส่วนตัว เมื่อลูกเข้าในเพื่อนเขาจะรู้จักการให้อภัย และตอบโต้การรังแกของเพื่อนด้วยเหตุผล แล้วลองพูดคุยสมมุติเหตุการณ์ดูว่าหากถูกเพื่อนแกล้งอีก เขาจะทำอย่างไร
คุณแม่ควรตั้งคำถามให้ลูกได้รู้จักวิเคราะห์ถึงการกระทำและผลของการกระทำที่อาจเกิดขึ้น เช่น หากลูกทำแบบนี้ แล้วได้ผลแบบนี้ลูกจะทำอย่างไร หรือให้ลูกได้คิดว่าจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้หรือไม่ จะทำให้เด็กใจเย็นขึ้นจะใช้เหตุผลในการแก้ปัญหามากกว่าใช้ความรุนแรง ฝึกให้ลูกมีทักษะในการเข้าสังคมและเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเองโดยไม่ต้องคอยฟ้องพ่อแม่ หรือครูให้คอยแก้ปัญหาให้ตลอดเวลา
การเแก้ปัญหาถูกเพื่อนแกล้งอาจต้องใช้เวลาในการฝึกทักษะสร้างภูมิคุ้มกันด้านจิตใจให้ลูก ขอให้คุณแม่อดทนนะคะ ค่อยๆให้เวลาให้ลูกได้ปรับตัว ค่อยๆสอนและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง และควรเข้าไปพูดคุยกับครู เพื่อให้ได้รับรู้ปัญหาและหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ร่วมกัน คุณครูอาจมีวิธีดีๆที่จะเปลี่ยนเพื่อนแค้นให้กลายเป็นเพื่อนรักก็ได้ค่ะ
แหล่งข้อมูล
https://taamkru.com/th/ถูกรังแก โดนเพื่อนแกล้ง