ถึงแม้ว่าจะเป็นไปได้ยาก แต่รู้ไหมคะว่าตอนตั้งครรภ์บางครั้งเราสามารถมีประจำเดือนได้ เพราะมันเป็นเรื่องของจังหวะและเวลา วันนี้ theAsianparent พามาอ่านบทความเกี่ยวกับ 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 33 ตอนท้องมีประจำเดือนไหม มาดูกัน!
100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 33 ตอนท้องมีประจำเดือนไหม มาดูกัน!
ในการตั้งครรภ์โดยทั่วไปจะไม่มีประจำเดือนมาจากมีกลไกยังยั้งการตกไข่ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนตั้งครรภ์ที่สร้างมาจากรกเมื่อไม่มีการตกไข่จึงทำให้ไม่มีประจำเดือนมา การมีเลือดออกทางช่องคลอดในคุณแม่ตั้งครรภ์จึงเป็นเรื่องผิดปกติ และมีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรตามมาได้ การมีเลือดออกดังกล่าวอาจมีลักษณะมาเป็นระลอกคล้ายเลือดประจำเดือน ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์นั้นเข้าใจผิดว่าเป็นประจำเดือนได้
แต่ในบางครั้ง ท้องแล้วก็สามารถมีประจำเดือน แม่ท้องสามารถมีประจำเดือนได้ ในบางครั้ง เพราะการตกไข่อาจจะเกิดขึ้นก่อนมีประจำเดือนของผู้หญิงสิ้นสุดลง หรือ ภายในสองสามวันหลังจากมี ประจำเดือน ผู้หญิงอาจจะตกไข่ช่วงนั้น ในรอบวงจรประจำเดือน ซึ่งทำให้ไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่า ช่วงเวลาที่มีภาวะการเจริญพันธุ์มากที่สุด การมีประจำเดือนนั้นสามารถมีได้แต่ค่อนข้างต่ำ
คนท้องเป็นประจำเดือน อาจจะเพราะพวกเธอมีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด โดยหากแม่ท้องมีความอุสมบูรณ์มากที่สุดในช่วงสามวันก่อนการตกไข่ในช่วงการตกไข่และสองถึงสามวันหลังจากนั้น โดยเมื่อคุณตกไข่ระบบการทำงานของแม่ท้องจะทำงานได้แตกต่างมากขึ้น โดยจะอยู่ในระยะเวลา 12-24 ชั่วโมง
โดยช่วงท้องคุณอาจจะเป็นประจำเดือนได้ ในช่วงที่เริ่มต้นและช่วงกลางของการเป็นประจำเดือนปกติ อย่างไรก็ตามการเกิดประจำเดือนช่วงตั้งครรภ์นั้นเพราะความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเร็วหรือช้ากว่า
สาเหตุที่ท้องแต่มีประจำเดือน เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดที่เป็นไปได้ ได้แก่
- ภาวะแท้งบุตรคุกคาม เป็นการตั้งครรภ์ในมดลูกที่มีเลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งอาจเกิดจากฮอร์โมนตั้งครรภ์ไม่เพียงพอ ส่วนใหญ่สามารถตั้งครรภ์ต่อไปได้ ไม่เพิ่มความผิดปกติใดใดแก่ทารกในครรภ์ พบได้ในรายที่มีประวัติแท้งบุตรมาก่อน ในรายที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง หรือมีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ให้การรักษาโดยยาฮอร์โมน เพื่อลดโอกาสแท้งบุตร
- ภาวะเลือดออกจากการฝังตัวของทารก เป็นเลือดออกจากโพรงมดลูกจากตำแหน่งที่ตัวอ่อนมีการฝังตัวในผนังมดลูก ลักษณะเลือดออกปริมาณน้อย เพียงวันเดียว และไม่มีอาการปวดท้องใดๆ มักพบในช่วงวันที่ 19-22 นับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งล่าสุด ภาวะนี้ไม่มีอันตรายใดใด เพียงให้ความมั่นใจแก่สตรีตั้งครรภ์ก็พอ
- ภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก มักมีอาการปวดท้องน้อย ร่วมกับเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด มักเกิดการตั้งครรภ์บริเวณท่อนำไข่หรือปีกมดลูก อาจมีประวัติเคยเป็นปีกมดลูกอักเสบมาก่อนหรือมีการผ่าตัดในช่องท้องหรืออุ้งเชิงกรานมาก่อน หรือเคยเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูกมาก่อน มักต้องให้การรักษาด้วยการผ่าตัดปีกมดลูก
- ภาวะตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก มักมีเลือดออกทางช่องคลอดร่วมกับชื้นเนื้อลักษณะคล้ายเม็ดสาคูปนออกมาร่วมด้วย เกิดจากการที่อสุจิสองตัวเข้าผสมกับไข่ 1 ใบ มักลงเอยด้วยการดูด/ขูดมดลูก
- ภาวะรกเกาะต่ำ จากรกมาเกาะบริเวณด้านล่างของโพรงมดลูก ปิดปากมดลูกไว้ อาจพบว่ามีเลือดออกเป็นระลอกได้ โดยมีลักษณะเลือดสด สัมพันธ์กับอาการเจ็บครรภ์ หรือการทำกิจกรรม ผู้ป่วยมักมีประวัติขูดมดลูกมาก่อน เคยผ่าตัดคลอดบุตรมาก่อน ประวัติสูบบุหรี่ ภาวะนี้อาจมีอันตรายได้หากมีการเสียเลือดมาก จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
- รอยโรคเฉพาะที่บริเวณช่องคลอดหรือปากมดลูก เช่น ปากมดลูกอักเสบ รอยโรคบริเวณปากมดลูก ซึ่งอาจมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์จากมีการกระทบกระเทือนกับรอยโรคโดยตรงขณะมีเพศสัมพันธ์ สามารถวินิจฉัยได้โดยการตรวจภายในและการตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจเพิ่มเติม
วิธีป้องกันตัวเองเวลาท้อง!
ห้ามสูบบุหรี่ คนท้องห้ามสูบบุหรี่ หรือใช้สารเสพติดอย่างเด็ดขาด เพราะการสูบบุหรี่และใช้สารเสพติด จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ก็เช่นกัน เพราะเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ก็ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของลูกในท้องเช่นกัน ทั้งนี้ สำหรับผลกระทบต่อลูกในท้อง หากแม่ท้องสูบบุหรี่ ใช้สารเสพติด หรือแม่ท้องดื่มแอลกอฮอล์ จะส่งผลให้ทารกในครรภ์ ดังนี้
- ทารกในครรภ์มีพัฒนาการช้า
- ลูกในท้องมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดสูง เสี่ยงกว่าคนอื่น ๆ
- เมื่อคลอดลูกแล้ว ทารกมีโอกาสเกิดความผิดปกติ ส่งผลให้ทารกพิการแต่กําเนิด รักษาไม่หาย
ห้ามเครียด ความเครียด มีผลต่อร่างกายคนทุกเพศทุกวัย แต่ความเครียดนั้นจะยิ่งส่งผลร้ายแรงต่อแม่ท้อง เพราะการเครียดขณะตั้งครรภ์ จะทำให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งได้อีกด้วย สาเหตุที่ห้ามแม่ท้องเครียด ก็เพราะ ร่างกายของแม่จะหลั่งสารเคมีและฮอร์โมนคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ออกมามาก จนทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงมดลูกและรกเกิดการหดตัว ส่งผลให้ปริมาณอ็อกซิเจนที่ส่งไปยังทารกในครรภ์ลดน้อยลง จนไม่เพียงพอกับความต้องการ
ห้ามลดน้ำหนัก ด้วยรูปร่างที่เปลี่ยนไป ทำให้แม่ท้องบางคนกังวล อยากลดน้ำหนักขึ้นมา แต่อย่าลืมว่า นี่ท้องอยู่นะ การที่คุณแม่ตั้งครรภ์และมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นนั้นเป็นเรื่องธรรมดา อย่าลดน้ำหนัก หรืออดอาหารขณะที่ท้อง เพราะจะทำให้ลูกในครรภ์ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ร่างกายพัฒนาไม่สมบูรณ์เต็มที่ และเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
“น้ำอัดลม” น้ำหวานสุดอร่อย กินได้แค่ไหนไม่อันตรายต่อลูกในท้อง
500 ชื่อเล่นลูกสาวไทย ชื่อเล่นลูกสาวน่ารักๆ เพราะๆ ใช้ได้ทุกยุค มาดูกัน!