โรคจิตเรียกพี่! ชายคนนี้วางยาเด็กนักเรียนชายเพื่อสนองความคลั่งไคล้ทางเพศส่วนตัว

สังคมดิจิตอลปัจจุบันนี้มีทั้งข้อดี ข้อเสีย มีทั้งเรื่องที่เราควรระมัดระวัง และเป็นภัยใกล้ตัวที่บ้างทีเราอาจไม่รู้ตัว อย่างเรื่องของชายจีนโรคจิตคนนี้ ที่ชื่อ นายชอน ชู จุน หยาง วัย 22 ปี มีพฤติกรรมความคลั่งไคล้ทางเพศที่น่าสะอิดสะเอียนอย่างที่สุด นั่นก็คือ เขาเกิดอารมณ์ทางเพศเมื่อได้เห็นภาพอาเจียนและอุจจาระของเด็ก! และที่สำคัญคือเขาได้พุ่งเป้าไปยังเหยื่อที่เป็นเด็กๆ ไม่ประสีประสาทางเฟซบุ๊ค คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย โปรดอ่านแผนการลวง “เหยื่อ” ที่ได้รับการคำนวณอย่างรอบคอบของชายคนนี้ไว้ให้ดี เพื่อเก็บไว้เตือนใจเสมอว่า ทำไมการสอนให้ลูกเล่นอินเตอร์เน็ตอย่างปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญนักหนา

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

นายชอน ชู จุน หยาง วัย 22 ปี มีความคลั่งไคล้ทางเพศที่น่าสะอิดสะเอียนอย่างที่สุด นั่นก็คือ เขาเกิดอารมณ์ทางเพศเมื่อได้เห็นภาพอาเจียนและอุจจาระของเด็ก

ตามรายงานของ เดอะ สเตรทส์ไทมส์ เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วที่ชูได้ ปลอมตัวเป็นเพื่อนเก่าของเด็กวัยรุ่นอายุ 12-14 ปี และเกลี้ยกล่อมให้พวกเขารับประทานยาถ่าย 10-20 เม็ด ซึ่งเขากุว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองของโรงเรียน

เมื่อเด็กชายเหล่านั้นเกิดอาการท้องเสียและอาเจียนอย่างรุนแรง ชูจะขอให้เหยื่อส่งภาพอาเจียนและอุจจาระมาให้ และจะใช้รูปเหล่านั้นเพื่อเติมเต็มจินตนาการทางเพศสุดวิปริตของเขา เด็กชาย 13 คนเป็นเหยื่อของความคลั่งไคล้ทางเพศของชู และเขาได้ยอมรับว่าวีดีโอและรูปภาพเหล่านั้น “เร้าอารมณ์” ของเขา

รายงานระบุว่า แม้เขาจะเคยถูกจับเมื่อปี 2555 เขาก็ได้กระทำความผิดซ้ำอีกสองครั้งเมื่อได้รับการประกันตัวออกมา
ชูถูกจับในวันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และได้ถูกลงโทษให้จำคุก 3 ปี หลังจากที่เขาสารภาพว่าได้วางยาเหยื่อ 8 คน เขาได้รับการประกันตัวออกไปอีกครั้งในวงเงิน 20,000 เหรียญ รายงานข่าวระบุว่าเขาต้องการอุทธรณ์

ปัจจุบัน เขากำลังศึกษาระดับอนุปริญญาในสาขาวิชาวิศวกรรม โดยปีนี้เป็นปีสุดท้าย คุณจะแทบไม่อยากเชื่อว่า ชูได้วางแผนล่อลวงเหยื่อของเขาได้แนบเนียนขนาดไหน

ไม่น่าเชื่อว่าเขาใช้วิธีการแยบยลในการหลอกล่อเด็กๆ มาเป็นเหยื่อด้วยวิธีนี้ >>

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พุ่งเป้าไปยังเด็กๆ ที่ไม่ประสีประสาในเฟซบุ๊ค

เดอะ สเตรทส์ไทมส์รายงานว่า ในเดือนพฤษภาคม 2012 เป้าหมายชุดแรกของชู คือ เด็กๆ อายุระหว่าง 12-14 ปี โดยเขาได้ผูกมิตรกับเด็กเหล่านี้บนเฟซบุ๊ค

ชูใช้วิธีที่ชาญฉลาด โดยการสร้างหลายๆ โปรไฟล์ด้วยบัญชีเฟซบุ๊ค 2 บัญชีของเขา และแสร้งทำเป็นว่าเขาเป็นเพื่อนเก่าสมัยประถมของเหยื่อเหล่านี้

มีการเปิดเผยว่า “เขา [ชู] ชักชวนให้เด็กๆ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจคของโรงเรียนที่เขากุขึ้นมา โดยต้องรับประทาน Dulcolax ซึ่งเป็นยาถ่ายอย่างน้อย 10 เม็ดในคราวเดียว แล้วให้เด็กๆ รายงานให้เขาทราบว่ามีผลกระทบอย่างไร”

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เขาจะวางยาไว้ล่วงหน้าตามจุดสาธารณะต่างๆ แล้วให้เด็กๆ มารับไปภายหลัง โดยปิดบังตัวตนที่แท้จริงของเขาไว้ตลอด

รายงานระบุว่า จากนั้น ชูจึง “บอกให้เด็กชายเหล่านั้นรับประทานยา 10-20 เม็ดในครั้งเดียว ซึ่งมากกว่าขนาดยาที่แนะนำให้ใช้ถึง 5-10 เท่า เด็กทุกคนเกิดอาการปวดท้อง ท้องร่วง และอาเจียนอย่างรุนแรงตามมา”

แถมเขายังโทรศัพท์ผ่าน Skype ถึงเหยื่อบางคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาได้ทานยาเข้าไป โดยใช้เทปกาวปิดเว็บแคมของเขาเพื่อปิดบังใบหน้า จากนั้น เขาจะขอรูปอาเจียนและอุจจาระของเด็กเหล่านั้นเพื่อนำไปสนองความต้องการทางเพศของตน

ชูถูกจับหลังจากที่เหยื่อบางคนเล่าเรื่องของเขาให้พ่อแม่ผู้ปกครองฟัง และเด็กอีกคนหนึ่งนำเรื่องไปบอกคุณครู

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ตามรายงานข่าว นายอังเดร ชอง รองพนักงานอัยการได้ร้องเรียนต่อศาลว่าชู “ทำให้เด็กหนุ่มหลายคนตกเป็นเหยื่อของเขาอย่างมีแบบแผนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อสนองความต้องการทางเพศของตน” และได้ขอให้ศาลตัดสินให้ชูติดคุกเป็นเวลาอย่างน้อย 4-5 ปี

นายชองยังกล่าวด้วยว่า ชูไม่สนใจเรื่องความปลอดภัยของเด็กเหล่านี้เลย โดยระบุว่า เด็กชาย 4 คนได้ทานยาไปถึง 20 เม็ดภายในวันเดียว และเหยื่ออีกคนถูกสั่งให้ทานยา 30 เม็ดภายในระยะเวลา 2 วัน

ขนาดรับประทานที่แนะนำของยา Dulcolax สำหรับเด็กและผู้ใหญ่คือครั้งละ 1-2 เม็ดก่อนนอน

เหตุการณ์ประเภทนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้เราสอนลูกๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยของอินเตอร์เน็ต และยังทำให้เราได้ฟื้นความรู้เกี่ยวกับการดูแลลูกให้อยู่ในโลกออนไลน์อย่างปลอดภัยด้วย

ซูนิล ซัดฮีซัน ทนายความของผู้ต้องหากล่าวว่า ชูมีความผิดปกติทางจิตที่ไม่ได้รับการรักษา แต่นายเหลียว เทียม เลง ผู้พิพากษาของเขตได้ปฏิเสธคำขอให้มีการลงโทษชูโดยการควบคุมความประพฤติ โดยชี้ให้เห็นความร้ายแรงของข้อหาพฤติกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำ และความจำเป็นของศาลที่จะต้องปกป้องสาธารณชน รายงานข่าวระบุว่า ผู้พิพากษากล่าวว่าเป็นเรื่อง “จำเป็นที่จะต้องให้เขา (ชู) ถูกคุมขังอยู่ในสถาบันที่สามารถทำการบำบัดได้”

ข้อเตือนใจสำหรับพ่อแม่และลูกหลาน

คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้เราทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องลูกหลานของเราจากภัยต่างๆ ที่แฝงตัวอยู่ในโลกออนไลน์ อย่าลืมว่า เป้าหมายแรกของชูคือเหยื่อที่ไม่ประสีประสาในเฟซบุ๊ค

แต่เฟซบุ๊คไม่ได้เป็นสื่อออนไลน์ชนิดเดียวที่คนร้ายจะสามารถใช้เพื่อเข้าถึงลูกหลานของเราได้ ในอีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ชายคนหนึ่งเล็งเหยื่อซึ่งเป็นเด็กสาวชาวสิงคโปร์ผ่านทาง Carousell ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ จากนั้นก็ได้พยายามลวนลามเธอเมื่อทั้งคู่ได้เจอกัน

การปกป้องลูกหลานของเราต้องเป็นความพยายามสองทาง ผู้ปกครองต้องใช้มาตรการป้องกันที่รัดกุมมากเพียงพอเมื่อลูกหลานของเราอยู่ในโลกออนไลน์ แต่ในขณะเดียวกัน เด็กๆ เองก็ต้องได้รับการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยในโลกออนไลน์และสัญญาณเตือนต่างๆ ที่ควรสังเกต

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

น่ากลัวใช่ไหมคะ ในโลกออนไลน์ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าใครเป็นใคร หากคุณและคนรอบข้างเคยพบเหตุการณ์ที่สามารถเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นได้ ขอเชิญแบ่งปันประสบการณ์กับเราที่ช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างได้เลยค่ะ

ที่มา: https://sg.theasianparent.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เด็ก 9 ขวบถูกจับปรับข้อหาคุกคามทางเพศ เพียงเพราะส่งจดหมายรักถึงเพื่อนร่วมชั้น
แม่ใจโหด จับลูกอบไมโครเวฟทั้งเป็น