คนท้องขี้แย 10 เรื่องที่สมควรร้องไห้ โดยไม่ต้องอายใคร

คนท้องขี้แย 10 เรื่องที่สมควรร้องไห้ โดยไม่ต้องอายใคร อาจเป็นเพราะฮอร์โมน แต่บางเหตุผลมันก็คือเรื่องใหญ่ของผู้หญิงคนนึงยังไงละ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คนท้องขี้แย 10 เรื่องที่สมควรร้องไห้ โดยไม่ต้องอายใคร

คนท้องขี้แย 10 เรื่องที่สมควรร้องไห้ โดยไม่ต้องอายใคร อารมณ์อ่อนไหวเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนกำลังท้องกำลังไส้

1.ก้มไม่ได้แล้ว เพราะติดพุง

หากคุณแม่เป็นสาวสายสปอร์ตตี้ เรื่องที่ทำให้น้ำตาตก แต่อีกนัยหนึ่งก็ตลกตัวเอง นั่นก็คือยิ่งครรภ์แก่ คุณแม่ยิ่งไม่สามารถก้มลงผูกเชือกรองเท้าได้ เพราะซิกซ์แพ็คที่เคยมี ตอนนี้กลายเป็นวันแพ็คไปเสียแล้ว ครั้นจะให้คุณสามีผูกเชือกรองเท้าให้ทุกครั้งก็ดูเป็นเรื่องที่ยากเกินไป และแน่นอนว่าผ้าใบคู่โปรดอาจเปลี่ยนเป็นแตะคีบได้อย่างง่ายดายเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ค่ะ

2.จิ๊มิ๊บวม

ไตรมาสแรกกับไตรมาสที่สองอาจยังดูชิลดู แต่เข้าเริ่มเข้าไตรมาสที่สามคุณแม่จะเริ่มรู้สึกเหมือนว่าจิ๊มิ๊ของตัวเองนั้นขยายบวมใหญ่ขึ้น อาจรู้สึกว่าปวดหน่วงๆ บริเวณจิ๊มิ๊ได้ ซึ่งส่งผลทำให้การนั่งลงเริ่มไม่สบายตัว เจ็บเวลาเดิน และพอเวลานอนก็รู้สึกปวดหน่อยๆ ใช่ค่ะมันเป็นเรื่องที่น่าร้องไห้ เพราะไม่มีใครเตือนคุณแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ (ความจริงที่ไม่แฮปปี้ที่ต้องเจอเวลาที่ตั้งครรภ์)

3.เจ็บหัวนม

ถ้าจะมีเรื่องอะไรสักอย่างที่น่าร้องไห้ละก็ คงไม่พ้นอาการเจ็บหัวนมที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ในการตั้งครรภ์ แต่มันก็ร้ายแรงมากพอที่จะทำให้หัวนมคือส่วนที่ห้ามเเตะต้องได้เลยละคะ การใส่เสื้อชั้นในดูเหมือนจะยากลำบาก แต่การปล่อยให้หัวนมโดนกับเสื้อตัวนอกก็เจ็บไม่แพ้กัน ใจนึงก็อยากจะเจาะรู้เสื้อในและเสื้อนอก ไม่ให้โดนหัวนมเลยละ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

4.ไม่รู้ว่าจะแต่งห้องนอนลูกยังไงดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทาสีห้องนอนของลูก แม้ว่าจะเลือกสีที่คิดว่าสวยที่สุดแล้ว แต่ถ้ารู้ตัวอีกทีว่าเลือกสีผิดโทน ก็ตอนที่ทาเสร็จไปทั้งห้องแล้ว มันคือหายนะชัดๆ สีขาวที่ผิดโทน หรือสีฟ้าที่เข้มไป 2 เบอร์ (แน่ละ โทนสีที่สาวๆ เห็นมันไม่ได้มีแค่ 12 สียังไงละ) แต่มันก็คือเรื่องท้าทายสำหรับคนเป็นแม่ เป็นการตัดสินใจแรกๆ ที่แม่อย่างเราต้องทำให้ได้ก่อนที่จะเจอปัญหาจริงจังกว่านี้ตอนที่ลูกโตขึ้น แต่ก็นั่นแหละ ขอกล่องทิชชู่หน่อยค่ะ

5.อ้วกแตก อีกแล้ว!!!

อาการแพ้ท้องไม่ใช่เรื่องที่คนท้องทุกคนจะเจอ แต่ถ้าคุณแพ้ท้องมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะผ่านไปง่ายๆ เลยละค่ะ คุณจะเริ่มคลื่นไส้ก่อนที่จะตื่นขึ้นในตอนเช้าเสียอีก จากนั้นก็จะอาเจียนเอาข้าวเช้าทั้งหมดออกมา จากนั้นก็จะรู้สึกพะอืดพะอมอีกครั้งระหว่างเดินทางไปทำงาน อีกครั้งเมื่อเดินเข้าไปตอกบัตร อีกครั้งก่อนมื้อเที่ยง และแน่นอนหลังมื้อเที่ยงด้วย

ความรู้สึกไม่ค่อยดีแบบนี้ เหมือนว่าคนท้องจะเป็นคนป่วย แต่เชื่อค่ะ ยิ่งกว่าป่วยอีก แม้ว่าอาการแพ้ท้องจะทำให้คุณแม่น้ำตาแตกหรือไม่ก็ตาม แต่คุณก็จะรู้สึกไม่ดีอยู่ดีที่ต้องบ้วนปากบ่อยๆ เพราะกลัวกลิ่นปากจะแย่มากๆ หลังจากอาเจียนน่ะแหละ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

6.ความเห็นแย่ๆ

อย่าง “ท้องใหญ่แบบนี้แฝดแน่ๆ” หรือ “ตัวใหญ่ขึ้นเยอะมากเลยนะ” หรือ “ท้องนี้พลาดรึเปล่าอะเธอ” หรือ “แม่วัยใสไหมเนี่ย” หรือ “รู้ตัวพ่อของลูกไหมว่าเป็นใคร” จะปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดแตกก็คราวนี้ละนะ ร้องไห้ให้พอเลยค่ะ กับความคิดเห็นแย่ๆ เสียงเหน็บแนมต่างๆ แต่ก็นั่นแหละ ร้องไห้เสร็จแล้วก็ทิ้งๆ มันไป ไม่ใช่เรื่องน่าจรรโลงใจเลยกับความเห็นแบบนี้

7.ซุ่มซ่ามมากไปนะ

เพราะท้องใหญ่อาจทำให้เคลื่อนไหวลำบาก อีกทั้งเวลาทำอะไรหล่นหรือตก จะก้มเก็บก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องรบกวนเพื่อนร่วมงานหรือคุณสามีอยู่เรื่อย กับสามีน่ะไม่เท่าไหร่ เพราะเหมือนเป็นการเตรียมตัวเก็บของที่ลูกทำหล่นและจงใจให้หล่น แต่กับเพื่อนร่วมงานนี่สิ รู้สึกว่าเราสร้างความเดือดร้อนให้เขาเลย

8.รู้สึกเหมือนโดนทิ้ง

ไม่ว่าจะเป็นงานสังสรรค์ที่ทำงาน เพราะตัวเองน่ะเหนื่อยเกินไป หรืองานปาร์ตี้ในกลุ่มเพื่อน เพราะอยากจะรีบกลับบ้านมานอนพัก หรือแม้แต่การออกจากบ้านของสามีที่ทำเป็นประจำอยู่แล้ว อย่างการไปเตะบอลกับเพื่อนหรือการสังสรรค์ คุณไม่ได้งี่เง่าหรอกค่ะ บางทีมันก็เป็นที่ฮอร์โมนน่ะ ทางออกคือร้องไห้จนกว่าจะพอใจ แล้วอย่าไปคิดมากกับมันก็พอ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

9.คนคิดว่าคุณขี้แยเพราะตั้งครรภ์

ส่วนหนึ่งเพราะฮอร์โมนน่ะใช่ แต่อีกส่วนเพราะเรื่องบางเรื่องก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณค่ะ คุณแม่ร้องไห้เพราะหลากหลายเหตุผล ซึ่งมันอาจจะบังเอิญว่าคุณก็แค่ตั้งครรภ์อยู่เท่านั้นเอง

10.อยากให้ลูกออกมาเหลือเกิน

ไม่ว่าคุณแม่จะชอบการตั้งครรภ์แค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่ามันมีจุดหนึ่งที่คุณแม่อยากให้ลูกรีบออกมาไวๆ มันอาจจะเป็นเพราะเท้าที่บวมจนใส่ไซส์เดียวกับคุณสามีแล้ว หรืออาการกรดไหลย้อนที่เป็นทุกวันเลยนะช่วงนี้ หรือความเหนื่อยล้าที่แทบไม่อยากทำอะไรเลยแต่ละวัน วันแต่ละวันทำไมมันช่างผ่านไปนานขนาดนี้ รักหนูนะลูกในท้อง แต่รีบๆ ออกมาเถอะ แม่เริ่มไม่ไหวแล้ว

ที่มา bellybelly.com.au

บทความที่น่าสนใจ

ท้องยังไงให้สวย ให้แซ่บ ท้องนี้ไม่(อยาก)พังก็ต้องปังละค่ะ

รู้เพศลูกในครรภ์ ทั้งแบบโบราณและวิทยาศาสตร์ ท้องนี้จะได้ลูกชายหรือลูกสาวกันนะ