ดูแลลูกน้อย อย่างไรให้ถูกวิธี? พ่อแม่ดูแลลูกแบบนี้หรือเปล่า
#การวัดไข้ด้วยมือ
การใช้มือจับศรีษะ รักแร้ คอ หรือหน้าผาก แล้วรู้สึกว่าลูกตัวร้อน อาจบอกได้ว่าลูกมีไข้ต่ำ ๆ หรืออาจมีอุณหภูมิที่ปกติก็ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วการวัดไข้ด้วยมือ เป็นการประเมินอุณหภูมิร่างกายที่ไม่แน่นอน เพราะมือเป็นอวัยวะส่วนปลาย อุณหภูมิจะน้อยกว่าอวัยวะแกนกลางตัวเสมอ ยิ่งอากาศเย็นเท่าไหร่ความต่างตรงนี้ก็มากขึ้น วิธีการสัมผัสอาจใช้หน้าผากของพ่อแม่สัมผัสกับหน้าผากของลูกจะรับรู้ถึงอุณหภูมิได้มากกว่าการใช้มือ แต่การใช้ปรอทวัดไข้นั้นเป็นอุปกรณ์ที่วัดไข้เมื่อลูกมีอาการไม่สบายได้ดีที่สุด การรู้อุณหภูมิไข้ของลูกที่มีค่าแม่นยำจะช่วยให้พ่อแม่ตัดสินใจในการพาลูกมาหาหมอและช่วยให้ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
#คิดว่ายาฉีดดีกว่ายากิน
จริง ๆ แล้วยากินหรือยาฉีด ถ้าเป็นกลุ่มเดียวกันก็จะให้ผลลัพธ์ได้เท่ากัน เพียงแต่ว่ายากินต้องดูดซึมและมีการเมตาบอลิสซึ่ม แต่สุดท้ายก็จะกลายเป็นระดับยาในเลือดเช่นเดียวกันกับยาฉีด แต่ถ้าเป็นยาคนละกลุ่มก็ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้
#การให้ยาลดไข้ผิดวิธี
พบว่าผู้ปกครองเข้าใจผิดว่าให้ลูกกินยาลดไข้สามารถป้องกันการเกิดไข้ได้ แต่จริง ๆ แล้วไม่ถูกต้อง การให้ยาลดไข้ควรให้ลูกกินเฉพาะตอนมีไข้เท่านั้น และถ้าตัวรุม ๆ ควรเช็ดตัวลูกก่อนให้กินยาลดไข้ เมื่อลูกไข้ลดอาจไม่จำเป็นต้องกินยาลดไข้ได้
#ปั่นหูหรือแคะขี้หูให้ลูกเพราะกลัวขี้หูตัน
การใช้ไม้พันสำลีหรือ cotton bud ไปแคะหรือปั่นในหูของลูก จะกลับดันขี้หูให้ย้อนกลับ สะสมเป็นก้อน ขวางการไหลของผิวตามปกติ ส่งผลทำให้ขี้หูมากขึ้นและใหญ่จนไปตันได้ รวมถึงอาจนำเชื้อโรคเข้าไปส่งผลทำให้เป็นหูน้ำหนวกได้ การมีขี้หูหรือ ear wax ผลิตออกมาเป็นเรื่องปกติ เพื่อเคลือบในช่องหูและจะค่อยเคลื่อนออกมาด้านนอกกลายเป็นขี้ไคลจึงค่อยใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ ก็พอ การที่พ่อแม่ไปปั่นหรือแคะหูให้ลูกจะทำให้เด็กรู้สึกคุ้นเคยและไปกระตุ้นเส้นประสาท ทำให้มีพฤติกรรม “ติด” และลูกจะหาอะไรไปแคะหูปั่นหูด้วยตัวเอง จนอาจทำให้อักเสบหรือติดเชื้อขึ้นได้
#ดูดนมเสร็จแล้วดูดน้ำตาม
สำหรับการให้นมลูกในวัยทารกหลังจากลูกดูดนมเสร็จแล้วไม่จำเป็นต้องให้น้ำเพิ่มอีก เพราะนมแม่ก็มีน้ำอยู่แล้ว การดูดน้ำเสริมจะส่งผลให้ทารกทานนมได้น้อยลงและจะได้รับสารอาหารจากนมน้อยลง อีกทั้งเพิ่มเพิ่มโอกาสการสำรอกอีกด้วยเมื่อได้รับน้ำมากเกินที่กระเพาะจะรับได้ และถ้ากลัวว่าจะเกิดคราบนมหรือเชื้อราภายในช่องปากของลูก ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสะอาดพันนิ้ว เช็ดเหงือกลิ้น ให้ลูกวันละ1-2ครั้ง เหมือนการแปรงฟัน ก็จะช่วยป้องกันเชื้อราในปากได้
ขอบคุณที่มา : www.pantip.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
5 ความเข้าใจผิด ๆ ของการใช้ถุงยางอนามัย
7 ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับการใช้ครีมกันแดด