กินยาลดความอ้วนขณะตั้งครรภ์-ให้นม อันตรายถึงชีวิต!

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเมื่อ Drama-Addict โพสต์ประเด็นดังเกี่ยวกับเรื่องยาลดความอ้วนในหญิงตั้งครรภ์กับหญิงให้นมลูก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ภายหลังจากที่เพจ Drama-Addict เล่าเรื่องราวของเพื่อนเทรนเนอร์คนหนึ่งที่มีประสบการณ์ตรงจากลูกค้ารายหนึ่งที่เป็นคุณแม่ลูกอ่อนเพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน และต้องการลดสัดส่วน

แต่เทรนเนอร์ท่านนี้แนะนำว่าให้เลยช่วงเวลาหลังคลอดไปจริง ๆ ก่อน ซึ่งจริง ๆ หลังสี่เดือนไปแล้วคุณแม่สามารถเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ ได้บ้างแล้ว

และเมื่อเทรนเนอร์คนนี้ไปเปิดเฟสของคุณแม่ท่านนี้ก็พบว่า คุณแม่ผอมลงไวอย่างน่าตกใจ ทั้ง ๆ ที่ในเฟสไม่ได้มีการโพสต์ว่าตนออกกำลังกายแต่อย่างใด จนในที่สุดความจริงก็ถูกเปิดเผย เมื่อเทรนเนอร์คนนี้พบว่า คุณแม่ผอมลงโดยใช้ยาลดความอ้วน ทั้ง ๆ ที่มีคนเตือนแล้วว่า อันตราย แต่แม่คนนี้ก็ยังแสดงความเห็นออกมาว่า คนขายเองก็เป็นคุณแม่ลูกอ่อน เธอก็ยังทาน และไม่เห็นเป็นอันตรายใด ๆ กับลูกเลย

ยาลดความอ้วนไม่เคยส่งผลดีกับใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์และให้นมลูก เนื่องจากส่วนผสมของยานั้น สามารถส่งต่อไปยังทารกในครรภ์และลูกของเราได้ ร้ายที่สุดฤทธิ์ของยาอาจเป็นอันตรายกับชีวิตกับลูกของเราได้ และก็คงไม่มีคุณแม่คนไหนหรอกค่ะที่ไม่อยากผอมและกลับไปสวยเหมือนแต่ก่อน เช่นเดียวกับการลดน้ำหนักหลังคลอดนั้นก็ทำได้ไม่ยาก เราทุกคนสามารถทำได้ด้วยการควบคุมอาหารและให้นมแม่กับลูก ถ้าหากอยากออกกำลังกายก็สามารถทำได้เบา ๆ ด้วยเช่นกัน เพียงไม่นานคุณแม่ก็จะสามารถกลับมาหุ่นสวยได้เหมือนเดิม แถมมีสุขภาพดี ลูกน้อยก็ปลอดภัยด้วยแล้วละคะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ยาลดความอ้วนอันตรายกับลูกในท้องอย่างไร คลิกอ่านได้ที่หน้าถัดไป

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ในกรณี กินยาลดความอ้วนตอนท้อง จะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องหรือไม่ นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ อธิบายว่า

  1. การจะบอกได้ว่ายามีผลต่อครรภ์หรือไม่ ขึ้นอยู่ที่คุณแม่กินยาตัวไหน เนื่อง จากยาลดความอ้วนที่ถูกกฎหมายในเมืองไทยตอนนี้มีเพียงตัวเดียวคือ Olistat (Xenical) ซึ่งแพทย์แทบไม่สั่งให้คนไข้เลยเพราะมีฤทธิ์ข้างเคียงทำให้อุจจาระเล็ดออกมา เป็นไขมัน
  2. ยาลดความอ้วน Sibutramine (Reductil) ได้ถูกเพิกถอนทะเบียนยาไปแล้ว เพราะมีหลักฐานว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตในยุโรป แต่ยังมีขายตามอินเทอร์เน็ตในชื่อ Reductil หรือ Reduce-15mg ผสมในกาแฟลดน้ำหนัก หรือในรูปแบบแอลคาร์นิทีนพลัส เป็นต้น

ในรูปของยาตัวนี้มีพิษต่อครรภ์ระดับ C แปลว่ายังไม่เคยมีงานวิจัยในหญิงตั้งครรภ์ แต่หลักฐานจากสัตว์ทดลองก็ไม่เคยปรากฏว่าทำให้ทารกพิการ ตีความได้ว่า เนื่องยานี้ยังไม่เคยมีหลักฐานว่าทำให้ทารกพิการ สำหรับคนที่กินเข้าไปแล้วขณะตั้งครรภ์ น่าจะคิดทางบวกไว้ก่อนว่าลูกของเราไม่น่าจะเป็นไร

  1. ฮอร์โมนไทรอยด์ เพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่าง กาย กินแล้วใจเต้น นอนไม่หลับ เหงื่อแตก หัวใจวาย ผลของยานี้ต่อครรภ์อยู่ในระดับ A คือไม่มีปัญหากับทารก
  2. Amphetamine หรือยาบ้า และ methamphetamine เป็นของผิดกฎหมายร้ายแรงที่นำมาผสมเป็นยาลดความอ้วนขายในชื่อต่างๆ ยานี้หากใช้ระยะสั้นในหญิงมีครรภ์ไม่ได้เพิ่มอัตราความพิการของทารก และไม่ได้เป็นสารทำให้เกิดความพิการ (teratogenic)
  3. ยาสีรุ้ง เป็นส่วนผสมของยาขับปัสสาวะ กับยาดิจิตาลิสกระตุ้นหัวใจ จะผสมอยู่ในอาหารลดน้ำหนัก ซึ่งสามารถทำให้คนเสียชีวิตจากหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ ผลต่อครรภ์ของยาสูตรนี้อยู่ในระดับ C เช่นกัน
  4. Fluoxetine (Prozac) จริงๆ แล้วใช้เป็นยาต้านซึมเศร้า แต่มีการลักลอบใช้เป็นยาลดความอ้วนอย่างผิดกฎหมาย ผลต่อครรภ์ของยานี้อยู่ในระดับ C เช่นกัน

แม้ว่ายาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม C คือยังไม่เคยมีหลักฐานว่าทำให้ทารกพิการ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการศึกษาในคนจึงยังไม่มีการยืนยันถึงความปลอดภัยอย่างชัดเจน ยาลดความอ้วนที่คุณแม่กินเข้าไปโดยไม่รู้ตัวว่าท้องอาจส่งผลหรือไม่ส่งผลต่อ ลูกน้อยในครรภ์ก็ได้ ดังนั้น หากเป็นไปได้คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาลดความอ้วนตั้งแต่ช่วงวางแผนมีบุตร เพื่อความปลอดภัยและสบายใจ เพราะหากคุณแม่ต้องเป็นกังวลไปจนคลอด ความเครียดของคุณแม่ท้องก็ส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์เช่นเดียวกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ที่มา: Drama-Addict และ Visitdrasant

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

อันตรายของยาลดความอ้วนกับการตั้งครรภ์

“อ้วนเฉพาะส่วน” ลดอย่างไรถึงเรียกว่าเวิร์ก!

บทความโดย

Muninth