กิจกรรมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน สิ่งที่ลูกควรทำก่อนเข้าเรียนอนุบาลมีอะไรบ้าง

กิจกรรมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กิจกรรมก่อนเรียน

กิจกรรมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน มีอะไรบ้าง กิจกรรมที่พ่อแม่ควรฝึกลูกน้อยก่อนเข้าเรียนอนุบาล กิจกรรมเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนอนุบาลที่เด็กๆ ควรทำได้ ถ้่าพ่อแม่อยากให้ลูกมีทักษะด้านต่างๆ ที่ดี ควรทำตามกิจกรรมเหล่านี้

1.การระบายสี

การให้ลูกได้วาดภาพระบายสีจะช่วยให้เด็กได้ฝึกกล้ามเนื้อนิ้วมือ เส้นเอ็น และเส้นประสาทซึ่งดีต่อการกระตุ้นการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเซลล์สมองเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเสริมสร้างจินตนาการได้ดี เหมาะกับการเตรียมพร้อมก่อนเข้าเรียนในวัยอนุบาลมากค่ะ

2.การวาดเชื่อมต่อจุด

การเขียนตัวอักษรอาจจะยากเกินไปสำหรับเด็กเล็กซึ่งต้องใช้ระยะเวลาระดับหนึ่ง แต่คุณพ่อคุณแม่อาจฝึกให้ลูกเริ่ทขีดเขียนด้วยการให้ลูกวาดเส้นจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง เริ่มแรกแาจเลือกเป็นการต่อจุดเป็นภาพก่อน เพื่อทำให้เด็กเกิดความตื่นเต้นและสนใจว่าภาพที่ออกมาจะเป็นอะไรค่ะ

3.การเขียนตัวอักษร

หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกเขียนตัวอักษารำด้ สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนนั้นแนะนำให้เขียนตัวอักษรที่เป็นเส้นตรงก่อน เช่น ง บ ป ส่วนตัวอักษรที่เป็รเส้นโค้งต่างๆ เช่น จ ล ส อาจจะยากเกินไปสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนค่ะ

4.ฝึกเขียนชื่อ

เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายคนคงจะสอนให้ลูกเขียนชื่อตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก สำหรับวิธีการฝึกให้ลูกเขียนชื่อนั้นไม่จำกัดเฉพาะอยู่ที่กระดาษและดินสอเท่านั้น คุณอาจให้ลูกลองเขียนชื่อตัวเองบนพื้นทราย หรือตัวต่อด้วยก็ได้ค่ะ

5.การฝึกจับดินสอ

การจับดินสอของเด็กถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกันค่ะ เพราะการจับดินสอที่ถูกต้องจะช่วยในเรื่องของลายมือและรูปแบบการเขียนได้ค่ะ สำหรับวิธีการจับดินสอที่ถูกต้องสามารถดูได้ที่นี่

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ: ชวนดูร้านของเล่น Toys R Us Thailand ร้านขายของเล่นที่เหมาะกับเด็กทุกวัย

6.สามารถถอด-ใส่รองเท้าได้

การใส่และถอดรองเท้าถือว่าเป็นเรื่องที่เด็กควรทำได้ เพราะว่าเวลาที่ลูกน้อยไปโรงเรียนแน่นอนว่าไม่ใครคอยช่วยน้องตลอดเวลาแน่ เพราะเฉพาะนั้นให้เด็กฝึกทำจนเคยชินจะดีกว่าค่ะ

7.ใช้กรรไกร

พ่อแม่คงคิดว่ากรรไกรมันดูอันตรายเกินไปสำหรับเด็ก แต่รู้หรือไม่ว่าการที่ให้ลูกได้ลองใช้กรรไกรตัดกระดาษบ้าง ตัดดินน้ำมันบ้าง เป็นการฝึกกล้ามเนื้อทั้งนิ้วมือและข้อมือของเด็กได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยพัฒนาการประสานงานกันของกล้ามเนื้อและสมองได้ดี อีกทั้งสมัยนี้มีกรรไกรสำหรับเด็กที่มีความปลอดภัยมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลค่ะ

8.รู้จักการให้ยืม

เด็กเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งจะเกิดการหวงของและจะคิดว่าของทุกอย่างเป็นของตัวเอง ใครห้ามแย่ง! ซึ่งแบบนี้ไม่ดีแน่ถ้าลูกต้องไปเรียนกับเด็กคนอื่น พ่อแม่จึงต้องสอนให้ลูกรู้จักแบ่งปันเวลาที่ลูกไม่ใช่ของแล้ว และต้องรู้จักรอคอยเพื่อรอให้ผู้อื่นใช้งานเสร็จก่อนจึงนำมาใช้ได้ โดยที่ไม่ต้องเข้าไปแย่งของจากเพื่อน

9.ทำความสะอาด

เด็กหลายคนติดเล่นของเล่นแล้วก็ทิ้งไม่ยอมเก็บของ พฤติกรรมเช่นนี้อาจจะมีปัญหาในอนาคตได้ ทางที่ดีพ่อแม่ควรพยายามให้ลูกเก็บของด้วยตนเองทุกครั้งหลังจา่กเล่นหรือทำกิจกรรมอื่นๆ เสร็จแล้ว

10.ทำกิจกรรมนิ่งๆ

การจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนานๆ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับเด็กด้วยเช่นกัน พ่อแม่จึงควรฝึกให้ลูกเล่นหรือทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งให้นานที่สุด แต่เด็กสมัยนี้มักอยู่ไม่นิ่งเพราะว่าการที่เด็กมีของเล่นเยอะเกินไปทำให้เด็กเล่นของเล่นแต่ละชนิดแปปเดียว ทางที่ดีพ่อแม่ควรให้ลูกเล่นของเล่นทีละอย่างจะดีกว่าค่ะ โดยทั่วแล้วเด็กจะหยุดนิ่งทำกิจกรรมบางอย่างประมาณ 15-20 นาทีค่ะ

11.ล้างมือ

การล้างมือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะระบบภูมิต้านทานในตัวเด็กยังมีน้อยเกินไป ดังนั้น ควรฝึกให้ลูกน้อยล้างมือก่อนทานอาหาร ทานของว่างเป็นประจำ หรือทำความสะอาดมือหลังจากเล่นของเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของเด็กค่ะ

12.รู้จักแสดงความเคารพ

ไม่ว่าใครก็ชอบคนที่มีความเคารพต่อผู้อื่นอยู่เสมอ และถ้าน้องเป็นคนยิ้มง่าย ชอบทักทายพูดคุยกับผู้อื่น เด็กก็จะได้รับความสนใจจากเพื่อน และได้รับความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ด้วยค่ะ

13.งานปั้น

การปั้นไม่ว่าจะเป็นปั้นดินน้ำมัน ปั้นแป้งโดว์ ปั้นทราย ไรืออะไรก็แล้วแต่ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยให้ลูกน้อยได้ใช้กล้ามเนื้อนิ้วมือ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ การวางแผน และการควบคุมนิ้วมือให้ตามแบบที่ต้องการค่ะ

14.รู้จักการใช้ช้อนส้อม

การใช้ช้อนส้อม การจับช้อนส้อมให้ถูกวิธีก็จะทำให้ลูกกินอาหารได้ง่ายขึ้น จริงๆ แล้วการเริ่มใช้อุปกรณ์เหล่านี้น้องๆ สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุ 13 เดือนเลยค่ะ แต่เด็กส่วนใหญ่จะหยิบจับอะไรถนัดมือเมื่อมีอายุ 17-18 เดือน

15.รู้จักขอความช่วยเหลือ

การขอความช่วยเหลือเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกทำจนเคยชิน แต่ไม่ใช่ว่าบอกให้ลูกร้องขอทุกอย่างจนทำอะไรไม่เป็นนะคะ ต้องบอกให้ลูกน้อยพยายามทำด้วยตัวเองก่อนถ้าไม่ไหวจึงค่อยบอกให้ผู้อื่นช่วยค่ะ เพราะถ้าพ่อแม่ไม่ฝึกเวลาที่ไปเข้าโรงเรียนอาจทำให้ไม่ทันเพื่อนได้

ที่มา: smartparenting

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

การช่วยเหลืองานบ้าน สอนลูกทำงานบ้าน กิจกรรมฝึกความรับผิดชอบ ให้ลูกรู้จักหน้าที่ มีวินัย

วิธีฝึกลูกวัยอนุบาลให้ฉลาด เรียนเก่ง สมองไว พ่อแม่ต้องทำยังไง?

5 สัญญาณบ่งบอกว่าลูกยังไม่พร้อมเข้าเรียนอนุบาล