แต่แน่นอนว่าในประโยชน์นั้นก็แฝงโทษไว้ด้วย เพราะเด็กที่อยู่ติดหน้าจอมากเกินไป ก็เสี่ยงกับโรคทางสายตามากขึ้นจากการได้รับแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน ดังนั้นการแก้ปัญหาพ่อแม่จึงควรแบ่งเวลาให้ลูกอยู่กับอุปกรณ์เหล่านี้อย่างเหมาะสม สมาคมกุมารเวชศาสตร์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาแนะนำว่าเด็กที่อายุมากกว่า 2 ขวบ ต้องจำกัดเวลาการใช้ในแต่ละวันไม่ให้เกินวันละ 2 ชั่วโมง คุณพ่อคุณแม่อาจจำกัดเวลาที่ 20 นาทีแล้วให้หยุดพักสายตา หรือช่วยบำรุงสายตาลูกด้วยอาหารในกลุ่มที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ลูทีนและซีแซนทีน อย่างโกจิเบอร์รี่ ตำลึง แครอท และฟักทอง
และที่สำคัญหากิจกรรมอื่นๆ ให้ลูกได้ทำเพิ่มขึ้น เปลี่ยนจากการยื่นมือถือหรือแท็บเล็ตให้ลูก เป็นพากันออกไปทำกิจกรรมสนุกๆเพราะไม่มีของเล่นชิ้นไหน ที่จะทำให้ลูกมีความสุขหรือสนุกได้เท่ากับพ่อแม่อีกแล้ว
เรามีตัวอย่างกิจกรรมสนุกๆ แสนง่ายที่พ่อแม่ลูกจะได้ใช้เวลาร่วมกันมาฝากค่ะ
1. ชวนกันทำอาหารง่าย แม่ๆ ส่วนใหญ่ไม่ชอบให้ลูกเข้ามาในครัวเพราะนอกจากกลัวอันตรายจากมีด จากน้ำร้อนแล้ว ยังห่วงความเลอะเทอะอีกต่างหาก แต่ที่จริงห้องครัวเป็นเหมือนห้องเรียนอีกหนึ่งห้องของเด็กๆ ได้เลย เพราะเขาจะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย เช่น อุณหภูมิ น้ำร้อน น้ำเย็น การเปลี่ยนสภาพจากของเหลวเป็นของแข็ง เรียนคณิตจากการนับเลขเวลาตอกไข่ฟองที่ 1 ฟองที่ 2 เรียนรู้เรื่องสีจากผักและผลไม้ เรียนรู้เรื่องความปลอดภัยจากของมีคม หรือของร้อนจากกาน้ำร้อน และหม้อที่ต้มอยู่บนเตา นอกจากนี้หากเมนูที่ได้ทำร่วมกันระหว่างคุณพ่อคุณแม่เป็นเมนูที่บำรุงสายตาที่ใช้ส่วนผสมจากโกจิเบอร์รี่ ตำลึง แครอท และฟักทอง ก็ยิ่งเกิดประโยชน์ใหญ่เลยค่ะ และเด็กๆส่วนใหญ่จะเจริญอาหารเป็นพิเศษถ้าเขาได้กินอาหารที่ตัวเองทำ!
2. ชวนกันไปออกกำลังกาย นอกจากจะสนุกแล้วยังได้สุขภาพที่ดีด้วยนะคะ ทุกที่เป็นที่เล่นของเด็กได้ ไม่ว่าจะบริเวณหน้าบ้าน สวนสาธารณะ หรือสนามเด็กเล่นในหมู่บ้าน พากันไปเดินเล่น วิ่งเล่น หรือจะใช้อุปกรณ์ง่ายๆ เช่น เชือกกระโดด หรือชวนกันไปปั่นจักรยานสำรวจรอบหมู่บ้าน แบบนี้ก็สนุกได้เหมือนกัน แต่อย่าปล่อยให้ลูกไปไกลตา ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยด้วยค่ะ ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ไปกับลูกด้วยจะได้สุขภาพดีทั้งครอบครัว
3. ชวนกันไปสำรวจธรรมชาติ บ้านไหนมีสวนหลังบ้านหรือต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ บ้านนี่เหมาะเลย ชวนเด็กๆ ออกไปจับใบไม้ใบหญ้าหรือเล่นดินทราย จะเป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสของเด็กๆได้เป็นอย่างดี หรือจะชวนให้ลูกดูแมลงตัวน้อยที่ทำรังหรือมดตัวเล็กๆที่กำลังเดินอยู่บนพื้นดิน สิ่งเหล่านี้จะปลูกฝังให้ลูกเป็นคนช่างสังเกต และพ่อแม่ยังสอนเรื่องความปลอดภัยให้ลูกได้อีก เช่น ถ้าหนูเจอสัตว์หน้าแบบนี้หรือแมลงรูปร่างแบบนี้ห้ามเข้าใกล้นะ มันจะทำให้หนูเจ็บได้ สิ่งเหล่านี้เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่พ่อแม่สามารถสอนลูกได้
4. ชวนกันไปทำงานบ้าน เล่นแบบนี้ได้ประโยชน์แน่นอน เพราะได้ฝึกวินัยและความรับผิดชอบให้ลูกไปด้วย สำหรับเด็กเล็กเริ่มด้วยงานง่ายๆ อย่างเช่น ช่วยแยกประเภทผ้า เสื้อ กางเกง ถุงเท้า หรือผ้าขาวผ้าสีออกจากกันก่อนซัก เด็กโตขึ้นมาหน่อยควรมอบหมายให้เป็นหน้าที่ เช่น ช่วยแม่เตรียมจานชามแก้วน้ำจัดโต๊ะอาหาร กวาดบ้านถูบ้าน หรือให้อาหารสัตว์เลี้ยง และควรมีรางวัลตอบแทน เมื่อลูกทำตามหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเองได้ เช่น ให้ดาวความดีเพื่อสะสมแลกของที่ต้องการ เป็นต้น