การเลือกโรงเรียนให้ลูก เรื่องสำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

การที่เด็กจะเติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพในสังคม จำเป็นต้องได้รับการปลูกฝังจากครอบครัว นอกจากนั้นโรงเรียนก็มีส่วนสำคัญอย่างมากในการหล่อหลอมลูกน้อยของเรา ให้กลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคต

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา


วิสัยทัศน์โรงเรียนนานาชาติ Denla British School (DBS)  มุ่งมั่นสร้างเด็กไทยสู่ความเป็นผู้นำในอนาคต
ดร. ต่อยศ:
เด่นหล้าเกิดจากด้วยความตั้งใจจริงที่อยากจะสร้างโรงเรียนดีๆ สักโรงเรียนหนึ่งไว้ให้ลูกหลานของเรา ครอบครัวของเรา  รวมไปถึงพ่อแม่เด็กไทยทุกๆ คน ด้วยประสบการณ์กว่า 38 ปี เราเชื่อมั่นว่า เด่นหล้าเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่เหมาะสมกับความต้องการของสังคมไทย พ่อแม่ไทย ไม่แพ้โรงเรียนอื่น และ DBS คือการต่อยอดจากความศรัทธาของเราในการสร้างสุดยอดโรงเรียนที่สามารถผลักดันนักเรียนทั้งด้านวิชาการและกิจกรรมต่างๆ โดยใช้โรงเรียนชั้นนำของประเทศอังกฤษเป็นต้นแบบ

ทุกวันนี้สังคมไทยมีความเป็นประชากรโลกมากขึ้น ในเมืองไทยมีชาวต่างชาติมากขึ้น หลายบริษัทเริ่มใช้ภาษาต่างประทศในการทำงาน มีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศมากขึ้นดังนั้นบริบทที่สำคัญต่อเด็กไทยในอนาคต คงไม่พ้นเรื่องความสามารถด้านภาษา ซึ่งเด็กไทยมีความจำเป็นต้องพัฒนาทักษะด้านนี้อย่างเร่งด่วน รวมไปถึงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา  ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเร็วมาก เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จะเห็นได้ว่ามีอาชีพเกิดใหม่มากมาย  และต้องใช้ทักษะใหม่ๆ ในการประกอบอาชีพ  ดังนั้นเราจึงมองว่า DBS ต้องให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อม ทั้งด้านภาษา ทั้งภาษาอังกฤษและจีน รวมไปถึงทักษะที่สำคัญอื่นๆ เช่น ทักษะความเป็นผู้นำ การทำงานเป็นทีม ในขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งความเป็นไทย ถึงจะเป็นเด็กที่มีความก้าวหน้า และเป็นที่ต้องการในอนาคต

 

เตรียมความพร้อมจากเด็กไทยไปสู่นานาชาติ
ดร. ต่อยศ: เด็กๆ มีความสามารถในการปรับตัวเร็วมากเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ เราพบว่าระยะเวลาเพียง 4 เดือน ก็เพียงพอที่เด็กจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคม เพื่อน และระบบการศึกษาแบบนานาชาติได้เป็นอย่างดี ดังนั้นสำหรับเด็กๆที่มาจากโรงเรียนไทย ยังไม่เคยศึกษาแบบนานาชาติ DBS ก็จะมีการเตรียมความพร้อมให้ก่อน

โดยปกติ ปีการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติจะเปิดช่วงปลายสิงหาคม แต่ที่ DBS จะเปิดเรียนตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งรวมแล้วก็เป็นระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งเพียงพอที่จะปรับพื้นฐานให้แก่นักเรียน ทั้งด้านภาษา วิชาการและ วิธีการเรียนแบบนานาชาติ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา


ส่งเสริมนักเรียนที่มีพรสวรรค์ เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อน

ดร. ต่อยศ: เราเชื่อว่า โรงเรียนที่ดีประกอบไปด้วย 3 ส่วนสำคัญ หนึ่งคือความพร้อมทางด้านบุคคลากร  คุณครูผู้เชี่ยวชาญด้านการสอน สองคือความพร้อมด้านอุปกรณ์การเรียน อาคารสถานที่ และสามคือบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ในห้องเรียนเต็มไปด้วยนักเรียนที่สนใจตั้งใจเรียน เวลาเราเห็นเพื่อนเล่นดนตรีเก่ง หรือเพื่อนได้เป็นนักกีฬาของโรงเรียน เราก็จะรู้สึกมีแรงกระตุ้น อยากพัฒนาตัวเองให้เก่งเหมือนเพื่อน ด้วยความเชื่อนี้ เราจึงมีโครงการมอบทุนการศึกษาให้นักเรียนที่มีผลการเรียนดี หรือมีความสามารถพิเศษในด้านต่างๆ เรามองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เด็กเก่งๆ จะได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่มีความพร้อมในการผลักดันเขาให้ก้าวขึ้นไปในอันดับที่สูงขึ้น ส่วนโรงเรียนเองก็จะได้มีเด็กเก่งๆ ไว้เป็นแบบอย่าง เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ให้มุ่งมั่นและตั้งใจทำในสิ่งที่ตัวเองรักจนประสบความสำเร็จ

 

ความแตกต่างที่โดนเด่นของ DBS
ดร. เต็มยศ: เรามีความตั้งใจให้ DBS  เป็นโรงเรียนนานาชาติที่ดีที่สุดโรงเรียนหนึ่งในประเทศไทย  และสิ่งที่ DBS จะแตกต่างจากที่อื่นมี 4 เรื่องหลักๆ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เรื่องแรกคือเรื่องหลักสูตรการเรียนการสอน  เราได้นำรูปแบบจากโรงเรียนเอกชนชั้นนำในประเทศอังกฤษที่เรียกว่า Extended day ที่ DBS เด็กๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่โรงเรียนถึงห้าโมงเย็น ซึ่งมีเวลาเรียนรู้มากกว่าโรงเรียนอื่นประมาณวันละ 2 ชั่วโมงครึ่ง และในช่วงเวลานี้เด็กๆ จะได้ลองทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งดนตรี กีฬา หรือวิชาการที่เด็กชอบ เราอยากให้เขาได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อให้เขาหาความชอบของตัวเองให้เจอ และอีกอย่างคือ  ครูผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Specialist teachers) ในแต่ละวิชา คอยให้คำปรึกษา และส่งเสริมทักษะด้านที่เขาถนัดให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด

เรื่องที่สองคือความเข็มแข็งด้านวิชาการ ที่ DBS เด็กๆ จะได้ทำกิจกรรมมากมาย เพื่อเสริมเรื่องความมั่นใจในตัวเอง ความคิดสร้างสรรค์ และได้ทักษะภาษาอังกฤษที่ดีเช่นเดียวกับโรงเรียนนานาชาติอื่นๆ แต่นอกเหนือจากนั้น เราจะให้ความสำคัญกับด้านวิชาการด้วย เพื่อให้เด็กๆ พร้อมไปสอบเข้าโรงเรียนมัธยม และมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก

เรื่องที่สามคือทักษะการเป็นผู้ประกอบการ ผู้ปกครองส่วนใหญ่อยากให้ลูกมีทักษะทางธุรกิจ ซึ่งมี 3 ปัจจัยสำคัญในการผู้ประกอบการที่ดี เรื่องแรก คือ Passion หรือความรักในเนื้องาน ที่จะเป็นแรงผลักดันให้งานที่ทำประสบความสำเร็จ  เรื่องที่สองคือ Creativity ความคิดสร้างสรรค์ในการต่อยอดธุรกิจ เพราะการทำธุรกิจ หากเราย่ำอยู่กับที่ เราจะไม่สามารถแข่งขันกับใครได้ เรื่องที่สามคือ Courage หรือความกล้าหาญ กล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ และถึงแม้ว่า ต่อไปข้างหน้าเด็กๆ อาจจะไม่ได้เป็นนักธุรกิจ เขาอาจจะชอบที่จะเป็นนักกีฬา นักดนตรี นักองค์กรการกุศล เราก็เชื่อมั่นว่า การสร้างให้เด็กๆ ของเรามี 3 คุณลักษณะนี้จะเป็นประโยชน์กับพวกเขาในอนาคตอย่างแน่นอน

และเรื่องสุดท้ายคือเรื่องภาษาและวัฒนธรรมไทย นอกเหนือจากทักษะต่างๆ แล้ว เราเชื่อว่าความภาคภูมิในชาติและวัฒนธรรมเป็นรากฐานที่สำคัญของตัวตน ซึ่งผมได้แนวคิดนี้มาจากหนังสือของคุณ ลี กวน ยู อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศสิงคโปร์ ท่านได้กล่าวถึงสมัยที่ท่านเป็นเด็ก เพื่อนกลุ่มที่บ้านร่ำรวยจะส่งให้ลูกเรียนโรงเรียนอังกฤษ ได้รับอิทธิพลตะวันตก ส่วนเพื่อนที่ฐานะไม่ดีจะเข้าเรียนที่โรงเรียนจีน ได้รับวัฒนธรรมจีน เมื่อทั้งสองกลุ่มเรียนจบและเริ่มทำงาน เพื่อนกลุ่มที่เรียนโรงเรียนอังกฤษจะได้งานที่ดีกว่า ได้ค่าตอบแทนดีกว่ากลุ่มโรงเรียนจีน แต่เมื่อวัดกันที่ระยะยาว กลุ่มที่เรียนโรงเรียนจีนกลับเติบโตและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากกว่า ลี กวน ยู อธิบายไว้ว่า สาเหตุที่ผลออกมาเป็นแบบนี้เพราะ ความภูมิใจในเชื้อชาติซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความเคารพในตัวเองที่ต่างกัน ส่งผลให้กลุ่มที่เรียนโรงเรียนจีนที่มีความเข้าใจและภูมิใจในวัฒนธรรมชาติตัวเองไปได้ไกลกว่าง นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราจะเน้นปลูกฝังเรื่องวัฒนธรรมไทยให้เด็กๆ ของเรา และจะไม่ใช่แค่ฉาบฉวย แค่ลายไทย หรือดนตรีไทย แต่ลงลึกไปถึงคุณสมบัติของคนไทยที่คนทั้งโลกชื่นชม อย่างแรกเลยที่ผมนึกถึงคือ ความมีน้ำใจ อันนี้คือคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้คนไทยทำงานบริการได้ดีกว่าคนทั่วโลก เรื่องที่สองคือความอ่อนน้อมถ่อมตน รวมไปถึงการมีสัมมาคารวะ และการปฏิบัติตนต่อผู้ใหญ่ที่เหมาะสมในสังคมไทย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 


ความเข้มงวดของการคัดเลือกบุคลากร เฟ้นหาครูที่มีอุดมการณ์ พร้อมผลักดันนักเรียนไปสู่จุดสูงสุด
ดร. เต็มยศ: เด่นหล้าสั่งสมประสบการณ์และชื่อเสียงมายาวนาน เกือบสี่สิบปีที่ผ่านมาก็ยืนยันถึงปณิธานและความตั้งใจจริงของเราได้เป็นอย่างดี เรามีความตั้งใจจริงในการสร้างโรงเรียนที่ดีที่สุดโรงเรียนหนึ่งให้สังคมไทย เรามีความซื่อสัตย์กับผู้ปกครองตลอดมา เรื่องหนึ่งที่เราใส่ใจมากๆ คือการคัดเลือกบุคลากร เริ่มต้นจากคุณ Alison Turner  ครูใหญ่ของ DBS เป็นอดีตครูใหญ่ของโรงเรียนนานาชาติอันดับหนึ่งจากที่ดูไบ นอกจากนั้นแล้ว คุณครูทุกคนในโรงเรียนจะต้องจบวุฒิครูโดยตรง และมีประสบการณ์ในการสอนไม่ต่ำกว่า 2 ปี ซึ่งเรากำลังคัดเลือกคุณครูทั้งหมด 30 ท่าน จากผู้สมัครทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน

 


ปณิธานอันกล้าแกร่ง พร้อมก้าวสู่การเป็นโรงเรียนนานาชาติชั้นนำในอนาคต
ดร. เต็มยศ: เราได้นำรูปแบบและหลักสูตรจากโรงเรียนชั้นนำของประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่า นี่คือหนึ่งในระบบการเรียนการศึกษาที่ดีทีสุดในโลกให้เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย  เด็กเด่นหล้าจะต้องมีความสามารถด้านภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีน เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารในอนาคต  และต้องมีความสามารถด้านวิชาการที่เข้มแข็ง รวมไปถึงต้องมีความรู้และเข้าใจวัฒนธรรมไทย มีมารยาท และเคารพระเบียบวินัยแบบสังคมไทยได้เป็นอย่างดี

ครบองค์ประกอบสำคัญ ของโรงเรียนนานาชาติที่ดีที่สุดในประเทศไทย
คุณครูใหญ่ Alison Turner:
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของฝ่ายบริหาร และการสนับสนุนของคุณครูทุกคน ดิฉันมั่นใจว่าเราจะก้าวขึ้นเป็นโรงเรียนนานาชาติที่ดีที่สุดในประเทศไทยอย่างแน่นอน และยิ่งได้รับความร่วมมือจากท่านผู้ปกครองด้วยแล้ว โอกาสที่นักเรียนของเราจะประสบความสำเร็จด้านการศึกษา และการใช้ชีวิตในอนาคตนั้นไม่ใช่เรื่องยาก

 


การออกแบบระบบการเรียนการสอน กระตุ้นให้เด็กอยากเรียนรู้ในทุกๆ วัน
คุณครูใหญ่ Alison Turner: เด็ก DBS ทุกคนจะเป็นเด็กที่ตื่นนอนตอนเช้าแล้วอยากมาโรงเรียน  เพราะเราจะเน้นการสร้างประสบการณ์การเรียนที่ดีให้กับเขา โรงเรียนของเรามีความปลอดภัย และคุณครูมีประสบการณ์ในการสอนเด็ก ให้นักเรียนได้ลองแก้ปัญหา และทำงามร่วมกันเป็นทีม ห้องเรียนมีบรรยากาศการเรียนที่สนุกสนาน นักเรียนมีความสุข มีส่วนร่วมในห้องเรียน และได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณค่าน่าจดจำ

 


เลือกใช้หลักสูตรระดับโลกจากอังกฤษ ความแตกต่างที่ลงตัวกับวัฒนธรรมไทย
คุณครูใหญ่ Alison Turner: เด่นหล้าเลือกใช้หลักสูตรการเรียนการสอนจากประเทศอังกฤษ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องของโครงสร้างที่เป็นระบบระเบียบ และมีมาตรฐานการเรียนสูง เหมาะกับพ่อแม่ชาวไทยที่ต้องการให้ลูกได้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยเริ่มแรก คุณครูจะให้นักเรียนเรียนรู้แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากการค้นหาตัวเอง จากนั้นคุณครูจะช่วยส่งเสริมและพัฒนาทักษะต่อไปตามความถนัดของเด็กแต่ละคน  และคุณพ่อคุณแม่จะรับทราบพัฒนาการของลูกได้ โดยการมาเยี่ยมชมห้องเรียนของลูก หรือติดตามผลได้จากสมุดเรียน และผลงานที่โชว์ในห้องเรียน นอกจากนี้ หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลใจในเรื่องใดเป็นพิเศษ ก็สามารถพูดคุยปรึกษากับคุณครูประจำชั้นของนักเรียนได้เสมอ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team