กระหล่ำปลีสีม่วง ทดสอบเพศทารกในครรภ์ได้จริงหรือ?

แต่ที่จริงแล้วปฏิกริยาดังกล่าว สามารถแปรผันได้ตาม  การเปลี่ยนแปลงในค่าความเป็นกรดหรือด่าง ขึ้นอยู่กับคุณแม่ด้วย จากการกินอาหารในแต่ละวัน จากยาที่รับประทานในขณะนั้น การดูสีของนำ้กะหล่ำปลีจึงไม่สามารถบ่งบอกเพศของลูกในครรภ์ได้ ดังนั้นการเช็กเพศของลูกในครรภ์ด้วยการดูสีน้ำต้มกะหล่ำปลีม่วงผสมน้ำปัสสาวะ เพียงอย่างเดียว จึงไม่สามารถชี้วัดได้

How to รู้เพศลูกแบบวิทยาศาสตร์

เช็กเพศจากการตรวจอัลตราซาวนด์

สามารถตรวจได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 18 เป็นต้นไปค่ะ ซึ่งมีอัตราถูกต้องสูงถึง 80-90 เปอร์เซนต์เลยทีเดียวอัลตราซาวด์ นอกจากจะสามารถบอกเพศของเด็กในท้องได้แล้ว ยังช่วยในการคำนวณน้ำหนักของทารกได้ แต่ว่าการตรวจอัลตราซาวด์นั้นมักจะคลาดเคลื่อนเมื่อใช้คำนวณน้ำหนักทารกในครรภ์ ซึ่งภาพอัลตราซาวด์นั้นสามารถคาดคะเนน้ำหนักของลูกน้อยได้ แต่ก็ยังคลาดเคลื่อนมากกว่าหรือน้อยกว่าถึงราวๆ 2.5 กิโลกรัม เพราะวิธีการคาดคะเนน้ำหนักผ่านอัลตราซาวด์มีหลายทางและอาจมีความคลาดเคลื่อนแตกต่างกันไป จึงไม่แนะนำให้ใช้การอัลตราซาวด์ สำหรับการวางแผนผ่าคลอดที่คาดคะเนจากน้ำหนักของลูกในครรภ์  ปัจจุบันมีสูตรการคำนวณนำ้หนักทารกมากกว่า 30 สูตรจากการอัลตราซาวด์ ส่วนใหญ่คาดคะเนจากเส้นรอบวงศีรษะ รอบตัว ความยาวขา และอื่นๆ สามารถคาดคะเนอายุของทารก อายุครรภ์ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ซึ่งมีความแม่นยำแตกต่างกันไปนอกจากนี้พยาบาลผดุงครรภ์หรือคุณหมอ สามารถคาดคะเนน้ำหนักทารกได้โดยใช้มือคลำที่ท้องเมื่อตรวจครรภ์ ซึ่งช่วยตรวจตำแหน่งของทารกได้ด้วย แต่การตรวจแบบนี้ก็ยังคำนวณน้ำหนักของทารกได้ไม่แม่นยำนัก

การตรวจเลือด

สามารถรู้ได้ด้วยว่าลูกในท้องเพศอะไรค่ะ ซึ่งต้องทำโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคะ แต่ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง และจะทำการตรวจเลือดเมื่อมีความเสี่ยงต่างๆ เท่านั้นค่ะ

การเจาะน้ำคร่ำ

สามารถตรวจดูเพศของลูกได้ค่ะ แต่การตรวจแบบเจาะน้ำคร่ำนั้นมีความเสี่ยงเช่นกันนะคะ เพราะแม้การตรวจน้ำคร่ำมีความแม่นยำถึง 99.4% แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อหรือคลอดก่อนกำหนดได้เช่นกันค่ะ

การตรวจโครโมโซม

สามารถตรวจได้ตั้งแต่อายุครรภ์ได้ 9 สัปดาห์ค่ะ และถูกต้องแม่นยำถึง 99% เลยทีเดียวนะคะ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจหาความผิดปกติในโครโมโซมได้อีกด้วยค่ะ