โบราณว่า ห้ามคนท้องไปงานศพ เดี๋ยวผีเข้า วิญญาณจะมาเอาลูกในท้อง จริงๆ แล้วไปได้หรือเปล่า?

lead image

คนเฒ่าคนแก่ทักมา ห้ามคนท้องไปงานศพ โบราณว่าจะทำให้วิญญาณเร่ร่อนที่อยู่ในวัดตามกลับบ้านมาด้วย แม้แต่เจ้าภาพเองก็บอกว่าอย่ามาเลย เชื่อไว้บ้างก็ดี แต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ ไปได้มั้ย?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ความเชื่อหรือข้อห้ามสำหรับคนท้องในสมัยโบราณ ส่วนใหญ่จะเป็นการพูดเพื่อเป็นกุศโลบายป้องกันสิ่งไม่ดีและอันตรายที่จะเกิดกับแม่ในระหว่างตั้งครรภ์ แม้แต่ความเชื่อที่ว่า ห้ามคนท้องไปงานศพ ไม่ควรไปตอนท้อง อยากรู้มั้ยค่ะ เพราะอะไร?

โบราณว่า ห้ามคนท้องไปงานศพ !

ความเชื่อโบราณที่ว่าคนท้องไม่ควรไปงานศพ เพราะคนสมัยก่อนมองว่างานศพเป็นงานที่มีแต่ความโศกเศร้า ซึ่งจะทำให้คนท้องที่ไปงานเกิดความหดหู่ อีกทั้งมีความเชื่อว่าจะเกิดสิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้าย ขึ้นกับทารกในครรภ์ได้ อาจมีวิญญานมาอาศัยเกิด หรือวิญญาณเร่ร่อนที่อยู่ในวัดตามกลับบ้านมา หรือบางความเชื่อก็ว่า เด็กที่อยู่ในท้องจะถูกวิญญาณของผู้ตายหลอกล่อเอาไปอยู่ด้วย เพราะเด็กที่อยู่ในท้องนั้นยังไม่รู้อะไร ง่ายต่อการถูกผีชักชวนไปอย่างไรก็ได้ หรืออีกประการหนึ่งคือเด็กในท้องอาจจะถูกวิญญาณของผู้ตายนั้นทำร้ายเอา เมื่อเกิดมาจะทำให้เด็กพิการหรือไม่สมประกอบ

ความจริงแล้วในเรื่องนี้น่าจะเป็นกุศโลบายของคนเฒ่าคนแก่ที่ไม่ต้องการให้คนท้องไปงานที่มีบรรยากาศหดหู่ เศร้าหมอง ที่อาจทำให้รู้สึกไม่ดีส่งผลต่ออารมณ์ของลูกในท้อง อีกทั้งในสมัยก่อนการจัดงานศพต้องเดินทางตอนกลางคืน ซึ่งอาจไม่ได้เป็นที่วัด บางหมู่บ้านอาจจะไปเผากลางป่า หรือในป่าช้าที่ต้องเดินไปไกล มีการเดินทางลำบาก หากคนท้องเดินหกล้มก็จะเป็นอันตราย โดยเฉพาะคนท้องแก่ใกล้คลอด หากเกิดเจ็บท้องคลอดกลางทางก็จะยิ่งลำบาก เพราะการสาธารณสุขในสมัยก่อนยังไม่เจริญเท่าในปัจจุบันที่สามารถมาถึงตัวผู้ป่วยได้รวดเร็วกว่า อีกประการเป็นเพราะว่าร่างกายในขณะตั้งครรภ์มีภูมิต้านทานต่ำ อาจทำให้รับเชื้อโรคที่เกิดจากฝุ่นเถ้าตะกอนที่สูดดมเข้าไป เป็นอันตรายต่อแม่และทารกในครรภ์ได้

 

แต่ข้อห้ามในสมัยโบราณก็ยังมีทางออกไว้ให้แก้ หากแม่ท้องมีความจำเป็นต้องไปงานศพ ตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่คือ ให้คนท้องติดเข็มกลัด โดยนำเข็มกลัดซ่อนปลายมากลัดไว้ที่เสื้อบริเวณท้องเวลาที่ต้องไปงานศพ หรือเดินผ่านวัด หรือไปโรงพยาบาล เพื่อป้องกันวิญญาณที่อยากจะมาเกิดเข้ามาอยู่ในท้องแทนลูกของเรา ป้องกันสิ่งชั่วร้าย และเมื่อไปงานศพควรรีบไปรีบกลับ ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่ญาติสนิทก็จะไปฟังในวันพระสวด และจะไม่ไปในวันเผา เมื่อกลับมาแล้วให้ปล่อยวาง ทำใจให้สบาย เพื่อไม่ให้เกิดความหดหู่

อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้ว การให้คนท้องติดเข็มกลัดก็เป็นกุศโลบายที่แฝงไปด้วยความห่วงใยคุณแม่ตั้งครรภ์ โดยมีวัตถุเพื่อ

  • สร้างการรับรู้และเตือนผู้อื่น เข็มกลัดทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจน ทำให้ผู้อื่นสังเกตเห็นได้ง่ายว่าคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะมีรูปร่างเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ซึ่งช่วยให้ผู้อื่นระมัดระวังในการปฏิสัมพันธ์ เช่น หลีกเลี่ยงการชนหรือกระแทก และเอื้อเฟื้อที่นั่งบนรถโดยสารสาธารณะ
  • เตือนสติคนท้อง เข็มกลัดยังเป็นเครื่องเตือนใจให้คนท้องตระหนักถึงสถานะของตนเองอยู่เสมอ ช่วยให้ระมัดระวังในการเคลื่อนไหว ทำกิจกรรม หรือยกของหนัก เพื่อความปลอดภัยของทั้งตนเองและทารกในครรภ์

ส่วนการที่คุณแม่ตั้งครรภ์จะติดเข็มกลัดหรือไม่ติดก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าเราทำแล้วสบายใจนั้นคือสิ่งที่ดีนะคะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คนท้องไปงานศพได้ไหม? คนท้องไปงานขาว ดำได้ไหม? จะทำให้แท้งจริงไหม?

ในอดีตมีความเชื่อว่าการที่คนท้องไปร่วมงานศพอาจทำให้เกิดการแท้งลูกได้ เนื่องจากวิญญาณที่อยู่ในสถานที่จัดงานศพอาจติดตามและเข้าสิงในครรภ์ หรือนำทารกในครรภ์ไปด้วย

ข้อเท็จจริงทางการแพทย์ระบุว่าการแท้งลูกหรือภาวะแท้งคุกคามมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น

    • ภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์
    • ความผิดปกติของทารกในครรภ์
    • ความผิดปกติของแม่
    • ความผิดปกติของตัวอ่อน

ความเสี่ยงในการแท้งลูกมักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ (สัปดาห์ที่ 1-12) ซึ่งเป็นช่วงที่ทารกกำลังพัฒนา หากตัวอ่อนไม่แข็งแรงหรือไม่สมบูรณ์ก็อาจนำไปสู่การแท้งได้ ดังนั้นการไปร่วมงานศพไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดการแท้งลูก ดังนั้น ความเชื่อเรื่องคนท้องไปงานศพแล้วทำให้แท้งลูก ไม่ได้มีข้อมูลทางการแพทย์สนับสนุนค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

คนท้องห้ามไปงานศพ จริงหรือ?

ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ปัจจุบัน การไปงานศพในช่วงตั้งครรภ์ กลิ่นธูป เทียน และน้ำอบ หรือการไปในสถานที่ที่คนเยอะ ๆ อาจจะทำให้แม่ท้องสูดดม ทำให้เกิดอาการแพ้ หรือมีโอกาสติดเชื้อโรคมาได้ง่าย ดังนั้นในขณะตั้งครรภ์คุณแม่ควรดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อลูกน้อยในครรภ์มากที่สุด

ส่วนความเชื่อหรือข้อห้ามนั้นถ้าเข้าใจเหตุผลของกุศโลบายก็จะทำให้คุณแม่ตระหนักถึงความไม่ประมาทในการใช้ชีวิตช่วงที่อุ้มลูกน้อยในครรภ์ได้ดีทีเดียวค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สรุปแล้ว หากจำเป็นจริงๆ คนท้องสามารถไปงานศพได้ โดยควรดูแลสุขภาพตัวเองทั้งกายและใจให้ดี ดังนี้

  • ดูแลร่างกาย รักษาระยะห่าง พยายามอยู่ในบริเวณที่โล่ง ไม่แออัด และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้คนจำนวนมาก หรือผู้ที่มีอาการป่วย
  • ดูแลจิตใจ จัดการอารมณ์ตัวเอง พยายามทำความเข้าใจและยอมรับสัจธรรมของชีวิต เพื่อให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย
  • มีผู้ดูแล ควรมีผู้ติดตามที่สามารถดูแลและช่วยเหลือได้ โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีภาวะแทรกซ้อน หากต้องเดินทางไกล ควรปรึกษาแพทย์ก่อน และหลีกเลี่ยงการเดินทางคนเดียว

 

 

ข้อห้าม! ของคนท้องตามความเชื่อโบราณ

1. ห้ามไปงานศพ เพราะจะทำให้วิญญาณเร่ร่อนที่อยู่ในวัดตามกลับบ้านมาด้วย แต่น่าจะเป็นกุศโลบายที่ไม่ต้องการให้คนท้องไปงานที่มีบรรยากาศหดหู่ เศร้าหมอง

ข้อเท็จจริง: อาจเป็นกุศโลบายให้คนท้องหลีกเลี่ยงบรรยากาศเศร้าหมอง, การสัมผัสเชื้อโรค, และการยืนนาน ๆ ที่อาจทำให้ไม่สบายตัว

2. ควรกินข้าวกับปลาแห้ง เพราะหากว่าบำรุงดีเกินไปเด็ก เด็กจะตัวใหญ่และคลอดยาก ซึ่งคล้องจองกับเทคโนโลยีในอดีตที่ไม่ทันสมัยเหมือนในปัจจุบันนี้ และอีกนัยหนึ่งเมื่อตั้งครรภ์ คุณแม่จะต้องสูญเสียแคลเซียมเป็นจำนวนมาก จึงบังคับให้กินปลาแห้งจำนวนเยอะ

ข้อเท็จจริง:ในอดีตเทคโนโลยีทางการแพทย์ไม่ทันสมัย การคลอดเด็กตัวใหญ่อาจมีความเสี่ยงจริง อีกนัยหนึ่ง ปลาแห้งเป็นแหล่งแคลเซียม ซึ่งสำคัญต่อแม่ท้อง

3. ห้ามกินหัวปลี เพราะยางจากหัวปลีจะทำให้คลอดลูกยาก

ข้อเท็จจริง: ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์สนับสนุนว่ายางหัวปลีมีผลต่อการคลอด อย่างไรก็ตาม คุณแม่บางคนอาจมีอาการแพ้หัวปลีได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

4. ห้ามแหงนหน้ามองพระจันทร์ เพราะจะทำให้ลูกตาเหล่ ความเชื่อโบราณ เรื่องนี้จริงๆแล้วเป็นกุศโลบายค่ะ เพราะหากแหงนหน้าแล้วจะทำให้หน้ามืด เป็นอันตรายได้ค่ะ

ข้อเท็จจริง: การแหงนหน้านาน ๆ อาจทำให้หน้ามืดหรือเสียการทรงตัว ซึ่งเป็นอันตรายต่อแม่ท้อง

5. ห้ามอาบน้ำตอนดึก โบราณเชื่อว่าจะทำให้มีน้ำคร่ำเยอะ แต่น่าจะมาจากการกลัวเป็นอันตรายลื่นล้ม หรือจากสัตว์ร้ายที่มีพิษ เพราะในสมัยก่อนไม่มีไฟฟ้า

ข้อเท็จจริง:ในอดีตไม่มีไฟฟ้า อาจเสี่ยงต่อการลื่นล้มหรืออันตรายจากสัตว์ และการอาบน้ำดึกอาจทำให้ไม่สบายได้หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน

6. ห้ามซื้อของใช้เด็กอ่อน มาตั้งไว้ที่บ้านก่อนที่เด็กจะคลอด โดยเชื่อว่าถ้าซื้อมาแล้ว เด็กอาจจะไม่ได้เกิด เพราะมีวิญญาณที่อิจฉา จะมาพรากเด็กไปไม่ให้เด็กเกิด

ข้อเท็จจริง: ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว การซื้อของมาไว้นานเกิน ถ้าหากฝุ่นจับ หรือ เกิดเชื้อรา อาจจะมีผลต่อสุขภาพเด็กได้ค่ะ

7. ติดเข็มกลัดที่เสื้อเมื่อต้องออกจากบ้านตอนเย็น เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายที่จะเข้ามาทำร้าย

ข้อเท็จจริง: อาจต้องการให้เข็มกลัดสะท้อนตาผู้พบเห็นจะได้สังเกตได้ง่ายในที่มืด ไม่เดินชน

8. อย่าด่าหรือสาปแช่งคนอื่น เพราะจะทำให้ลูกตัวเองได้รับผลกรรมนั้นแทน ความเชื่อนี้คงอยากให้คุณแม่มีสุขภาพจิตที่ดี ไม่อาฆาตแค้นใครมากกว่านะคะ

ข้อเท็จจริง: การรักษาจิตใจให้สงบและคิดดีเป็นผลดีต่อสุขภาพของแม่และเด็ก

9. ห้ามไม่ให้เจาะ ทุบ ขุด ตัด เฟอร์นิเจอร์ในบ้าน โดยเชื่อว่าวิญญาณหรือขวัญของเด็กที่มาเกิดอาจจะสถิตอยู่ในบ้าน

ข้อเท็จจริง: อาจเป็นกุศโลบายให้แม่ท้องหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก หรือเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บ

10. ห้ามกินกล้วย ห้ามกินทุเรียน เด็กจะตัวสกปรก มีแป้งเกาะเต็มตัวตอนคลอด

ข้อเท็จจริง: ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ว่าการกินกล้วยหรือทุเรียนมีผลต่อความสะอาดของตัวเด็กแรกเกิด

 

ที่มาจาก : https://www.sanook.com/horoscope/85673/

บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ :

ของใช้เด็กแรกเกิด โบราณว่าห้ามซื้อเตรียมไว้ก่อนเพราะเป็นลางไม่ดี จริงเหรอ!!

โบราณว่าห้ามคนท้องกินกล้วยน้ำว้าจะทำให้คลอดยาก!!

บทความโดย

Napatsakorn .R