ลูกดิ้นตอนกี่เดือน รู้สึกอย่างไร? สัมผัสแรกแห่งรักจากลูกน้อยในครรภ์

undefined

คุณแม่ที่นับเวลารอวันลูกดิ้น อยากรู้ว่าลูกดิ้นตอนกี่เดือน คนท้องจะรู้สึกยังไงตอนลูกดิ้น บทความนี้มีคำตอบ

หนึ่งในสัญญาณที่น่าตื่นเต้นที่สุดของคุณแม่ตั้งครรภ์ คือ ได้สัมผัสถึงการเคลื่อนไหวของลูกน้อย หรือที่เรียกว่า “ลูกดิ้น” นั่นเอง ซึ่งการดิ้นของทารกในครรภ์ ไม่เพียงเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการมีชีวิตอยู่เท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งสำคัญที่บ่งบอกถึงสุขภาพของทารกด้วย แม่ท้องทุกคนจึงมักตื่นเต้นและรอคอยการดิ้นครั้งแรก ลูกดิ้นตอนกี่เดือน แม่จะรู้สึกอย่างไรถ้าลูกดิ้น มาเฝ้าติดตามและสังเกตการดิ้นของลูก นับหรือจดบันทึกจำนวนครั้งที่ลูกดิ้นในแต่ละวันจนกระทั่งถึงวันกำหนดคลอดไปพร้อมกันค่ะ

ลูกดิ้นตอนกี่เดือน

ทำไมลูกน้อยถึงดิ้น? ลูกดิ้นตอนกี่เดือน

ทารกน้อยในครรภ์ของคุณแม่นั้นมีพัฒนาการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องค่ะ การดิ้น การยืดแขนขา การเตะ การต่อย กลิ้งตัว เคลื่อนไหวร่างกายอยู่ภายในท้อง ก็เป็นพฤติกรรมตอบสนองของลูกน้อยอย่างหนึ่ง โดยลูกอาจเริ่มดิ้นเมื่อได้ยินเสียง หรือสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของแม่ ไปจนถึงเมื่อรู้สึกว่ากิริยาท่าทางการนั่ง เดิน นอน ของแม่อยู่ในอิริยาบถที่ไม่สบาย นอกจากนี้ การกินของคุณแม่ก็ส่งผลต่อการดิ้นของลูกได้ เช่น กินอาหารบางชนิดที่ทำให้ลูกรู้สึกกระฉับกระเฉง หรือการดิ้นอาจเป็นการตอบสนองเพื่อให้คุณแม่รู้ว่าลูกกำลังนอนหลับหรือตื่นอยู่ด้วย

 

รู้ไหม? ลูกดิ้นตอนกี่เดือน

คุณแม่ที่อยากรู้ว่า ลูกดิ้นตอนกี่เดือน นั่งนับวันรอได้เลยค่ะ เพราะคุณแม่ตั้งครรภ์จะเริ่มรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของลูกน้อยในช่วงสัปดาห์ที่ 16-20 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งจริงๆ แล้วทารกในครรภ์จะเริ่มขยับตัวเล็กน้อยแต่ไม่บ่อยนักตั้งแต่ทายุครรภ์ 1-3 เดือน กระทั่งขยับตัวมากขึ้นจนคุณแม่รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวได้อย่างชัดเจนและบ่อยมากขึ้นในช่วงเดือนที่ 4-6 หรือสัปดาห์ที่ 16-20 นั่นเอง และในช่วงไตรมาสสุดท้าย อายุครรภ์ 7-9 เดือน ลูกน้อยในครรภ์อาจมีการขยับตัวถึง 30 ครั้งต่อชั่วโมงค่ะ อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่แน่นอนว่า ลูกดิ้นตอนกี่เดือน อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้

  • ครรภ์แรกหรือครรภ์หลัง คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ท้องแรกมักจะรู้สึกถึงลูกดิ้น ช้ากว่า คุณแม่ที่เคยตั้งครรภ์มาแล้ว เนื่องจากอาจยังไม่คุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวของลูกน้อยนั่นเอง
  • รูปร่างและน้ำหนัก คุณแม่ที่มีรูปร่างผอมบางอาจรู้สึกถึงลูกดิ้นได้เร็วกว่าคุณแม่ที่มีน้ำหนักตัวมาก
  • ตำแหน่งของรก หากรกเกาะอยู่ด้านหน้าของมดลูก (รกเกาะด้านหน้า) อาจทำให้คุณแม่รู้สึกถึงลูกดิ้นได้ช้าลง เนื่องจากรกทำหน้าที่เป็นเหมือนเบาะรองรับการเคลื่อนไหวของลูกน้อย
  • ความใส่ใจ ความไวต่อสัมผัส คุณแม่ที่ใส่ใจและสังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองอย่างใกล้ชิดอาจรู้สึกถึงลูกดิ้นได้เร็วกว่า

 ทั้งนี้ ในช่วงแรกการดิ้นของลูกอาจรู้สึกเหมือนกับการเคลื่อนไหวเล็กๆ หรือคล้ายกับการเคลื่อนไหวของฟองน้ำในท้อง แต่เมื่อทารกโตขึ้น การดิ้นจะชัดเจนมากขึ้น และคุณแม่สามารถรู้สึกได้ว่าเป็นการขยับตัวของลูกได้อย่างชัดเจนค่ะ

ลูกดิ้นช่วงไหนบ้าง

ลูกดิ้นตอนกี่เดือน ความรู้สึกของแม่ตอนลูกดิ้น

16-19 สัปดาห์
  • คุณแม่อาจรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวในครรภ์เล็กน้อย
  • คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เป็นครั้งแรกอาจต้องนั่งในที่เงียบๆ หรือนอนราบ เพื่อสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวของลูก
  • คุณแม่อาจรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อกระพือปีก หรือปลาตอดเบาๆ ในท้อง
20-23 สัปดาห์
  • รู้สึกถึงการเตะและต่อยของลูกชัดเจนขึ้นและบ่อยขึ้น
  • รู้สึกว่าลูกดิ้นมากขึ้นในช่วงเย็นของวัน หรือหลังจากกินอาหาร
24-28 สัปดาห์
  • เป็นช่วงที่ถุงน้ำคร่ำอาจมีของเหลวมากถึง 26 ออนซ์ (ประมาณ 768 มิลลิลิตร) ช่วยให้ลูกสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากขึ้น เช่น ตีลังกา เตะ ต่อย กระโดด
29-31 สัปดาห์
  • ลูกอาจเคลื่อนไหวน้อยลง แต่รุนแรงและชัดเจนขึ้น เช่น การเตะอย่างแรง
32-35 สัปดาห์
  • ลูกตัวใหญ่ขึ้นจึงอาจมีพื้นที่ในการเคลื่อนไหวน้อยลง ส่งผลให้ลูกเคลื่อนที่ช้าลง แต่ยังคงสามารถสัมผัสได้ถึงอาการขยับตัวอยู่เสมอ
36-40 สัปดาห์
  • เมื่อใกล้ครบกำหนดคลอด ลูกจะเคลื่อนไหวช้าลง แต่ยังสามารถนับจำนวนครั้งที่ดิ้นได้
  • ลูกจะคว่ำหน้าเพื่อย้ายไปตำแหน่งคลอด อาจทำให้คุณแม่รู้สึกถึงการเตะหรือต่อยของลูกที่ตำแหน่งใต้ซี่โครง อาจทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บปวดได้

 

แม่จะรู้สึกว่าลูกดิ้นช่วงไหนบ้าง?

ไม่ใช่แค่อายุครรภ์เท่านั้นค่ะที่สัมพันธ์กับการดิ้นของลูก แต่ช่วงเวลาต่างๆ ในแต่ละวันก็เกี่ยวพันกับการดิ้นของลูกน้อยเช่นกัน ซึ่งช่วงที่คุณแม่มักสัมผัสได้ว่าลูกดิ้น ได้แก่

  • ช่วงที่คุณแม่นอน หลายครั้งที่แม่ท้องจะรู้สึกว่าลูกดิ้นมากขึ้นตอนที่กำลังนอน เนื่องจาก ช่วงที่แม่เดิน หรือทำกิจกรรม มักทำให้น้ำคร่ำเคลื่อนไหวคล้ายการไกวเปล ส่งผลให้ลูกน้อยในครรภ์มักจะนอนหลับ หรือเป็นไปได้เช่นกันว่าแม่อาจยุ่งจนไม่ได้สังเกตว่าลูกดิ้น จนกระทั่งถึงช่วงเวลาที่จะนอน บรรยากาศที่เงียบ สงบ จะทำให้ลูกตื่นและดิ้นมากขึ้น ซึ่งคุณแม่เองก็จะสัมผัสการดิ้นของลูกได้มากขึ้นเช่นกัน
  • หลังกินอาหาร หลังจากกินอาหารอิ่มแล้ว ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณแม่ตั้งครรภ์จะสูงขึ้น ส่งผลให้ลูกน้อยมีความกระตือรือร้นและเคลื่อนไหวมากขึ้นจากน้ำตาลที่ได้รับเช่นกัน
  • ตอนที่คุณแม่ตื่นเต้น ในกรณีที่คุณแม่มีสถานการณ์ที่สร้างความตื่นเต้น มีการหลั่งของอะดรีนาลีน (Adrenaline) ก็จะมีผลให้ลูกน้อยเคลื่อนไหวมากขึ้นเช่นกันค่ะ

ลูกดิ้นมาก หรือ ลูกดิ้นน้อยลง

ลูกดิ้นมาก vs ลูกดิ้นน้อย เป็นยังไง? แบบไหนต้องกังวล

โดยทั่วไปหากลูกดิ้นมากจะไม่ถือว่าผิดปกติค่ะ เพราะลูกจะมีช่วงตื่น ช่วงหลับ เมื่อลูกตื่นคุณแม่อาจจะรู้สึกว่าลูกดิ้นมาก ซึ่งไม่เป็นอันตราย ยกเว้นบางกรณีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ถือว่าผิดปกติ ซึ่งการดิ้นที่ผิดปกตินี้จะมีลักษณะต่างไปจากการดิ้นธรรมดา คือ ลูกดิ้นแรงมากอยู่ระยะหนึ่ง แล้วหยุดดิ้นไปเลย และไม่มีอาการดิ้นอีกต่อไป แบบนี้ควรรีบพบแพทย์ทันทีค่ะ ส่วนในกรณีที่ลูกดิ้นน้อยลง ให้คุณแม่ลองนับจำนวนการดิ้นของทารกที่รู้สึกได้ คือ ไม่ควรต่ำกว่า 10 ครั้งต่อ 2 ชั่วโมง หากน้อยกว่านี้ควรลองนับใหม่อีกครั้งหนึ่งในวันเดียวกัน ถ้ายังไม่ถึง 10 ครั้ง ควรปรึกษาแพทย์ค่ะ

 

วิธีนับลูกดิ้น

การนับลูกดิ้น เป็นอีกหนึ่งวิธีการติดตามการเคลื่อนไหวของลูกในครรภ์ ทั้งการเตะ การถีบ หรือการกลิ้งตัว เพื่อสังเกตว่าลูกดิ้นน้อยลงหรือไม่ ซึ่งการนับลูกดิ้นที่มีหลายวิธีขึ้นอยู่กับความสะดวกในการนำไปใช้ โดยขอแนะนำวิธีต่อไปนี้ค่ะ

  1. Count to ten คือ การนับการดิ้นของลูกในครรภ์ให้ครบ 10 ครั้ง ในช่วงเวลา 2 ชั่วโมงต่อกัน ในท่านอนตะแคง โดยอาจเลือกเวลาที่ลูกดิ้นเยอะ เช่น ช่วงเย็น ถ้านับลูกดิ้นไม่ถึง 10 ครั้ง ถือว่าผิดปกติค่ะ
  2. Modified Cardiff count to ten คือ นับการดิ้นของลูกในครรภ์จนครบ 10 ครั้ง ในเวลา 4 ชั่วโมง มักให้นับในช่วงเช้าประมาณ 08.00-12.00 น. หากพบความผิดปกติ คุณแม่ควรไปพบคุณหมอทันทีในช่วงบ่าย เพื่อการรักษาอย่างทันท่วงทีหากมีภาวะผิดปกติ
  3. นับลูกดิ้น 3 เวลาหลังอาหาร โดยนับครั้งละ 1 ชั่วโมง ถ้าลูกดิ้นน้อยกว่า 3 ครั้งต่อชั่วโมง ถือว่าผิดปกติ
  4. Daily fetal movement record (DFMR) เป็นการนับรวมจำนวนครั้งที่ลูกดิ้นใน 12 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าน้อยกว่า 10 ครั้ง ถือว่าผิดปกติ

ลูกดิ้นแบบไหนต้องไปพบแพทย์ 

แม้การดิ้นของลูกจะเป็นสัญญาณที่ดีเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของลูก แต่คุณแม่ก็ห้ามละเลยการดูแลตัวเองให้ดีในช่วงนี้นะคะ โดยต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ จิตใจให้ผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงความเครียด และการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม พบแพทย์ตามกำหนด จะช่วยให้ทั้งคุณแม่และลูกมีสุขภาพที่ดีค่ะ

 

 

ที่มา : www.bpksamutprakan.com , hellokhunmor.com , www.drnoithefamily.com

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แพ้ท้องกี่เดือนหาย อาการจะดีขึ้นเมื่อไหร่? รับมือยังไง แพ้ท้องแบบไหนต้องระวัง?

7 โรคหน้าร้อนที่แม่ท้องต้องระวัง ! ดูแลยังไง? ให้ครรภ์ปลอดภัยในฤดูร้อน

คนท้องไอกินอะไรถึงหาย คนท้องไอบ่อย อันตรายมั้ย แก้ไขยังไงดี?

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!