12 เรื่องที่ถ้าไม่ได้เป็นแม่ก็คงไม่มีวันรู้
12 เรื่องที่ถ้าไม่ได้เป็นแม่ก็คงไม่มีวันรู้ เพราะเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ว่าจะมีกันได้ทุกคน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสุขเสมอไปเช่นกัน
เพราะเป็นแม่จึงเข้าใจ
ถ้าจะมีใครในโลกนี้รู้จักตัวเราเองดีมากกว่าตัวเรา ก็คงเป็นแม่นี่แหละค่ะ เพราะแม่รู้ความต้องการของลูกแม้วันที่ลูกยังพูดไม่เป็นภาษาคน ยิ่งลูกโตขึ้น คนเป็นแม่จึงเป็นคนที่รู้จักลูกทุกซอกมุมดีเสมอ
เพราะเป็นแม่ อย่าคาดหวังให้ลูกเข้าใจ
บอกล่วงหน้าไว้กับคุณแม่ทุกคนที่ยังมีลูกเล็กอยู่ เมื่อลูกตัวเล็กๆ เริ่มโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว อย่าคาดหวังให้ลูกวัยนี้จะเข้าใจความหวังดี หรือการกระทำของคุณแม่ค่ะ คุณแม่เคยเป็นลูก เคยผ่านช่วงเวลาในวัยรุ่น ติดเพื่อน ติดแฟน ติดเกมส์ เจอปัญหาต่างๆ แก้ปัญหาต่างๆ มาก่อน กลับกันลูกนั้นยังไม่เคยเป็นแม่คน ยังไม่เคยผ่านร้อนหนาว ผ่านสิ่งที่คุณแม่ผ่านมาก่อน เขาจะไม่เข้าคุณแม่เลย ก็คงไม่แปลกอะไร แต่หน้าที่คุณแม่คือทำให้ลูกรู้อยู่เสมอว่ายังไงคุณแม่ก็ยังรักและอภัยให้ลูกเสมอนั่นเอง
แต่จะมีอะไรบ้างที่ถ้าไม่ได้เป็นแม่ก็คงไม่มีวันรู้
1.เพราะเป็นแม่จึงรู้ว่าเราจะกล้าดมอึ ดมฉี่ ดมอ้วกได้ง่ายดายเพียงนี้
แต่กับลูกนั้นหนา ทั้งดมพิสูจน์กลิ่น ทั้งพิจารณาสี ทั้งเขี่ยด้วยเอ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่อุนจิของลูกผิดปกติไป เราสามารถรับรู้ได้ทั้งกลิ่น สี และสิ่งที่ปนเปื้อนออกมา หนำซ้ำช่วงเวลาที่ลูกกำลังฝึกเข้าห้องน้ำ แล้วตั้งท่าเบ่งโดยที่ไม่ใส่กางเกง ก่อนหน้ามีลูกก็ไม่เคยนึกเลยว่า เราจะเต็มใจเอามือไปรองสิ่งนั้นไว้ เพื่อไม่ให้เปื้อนพื้น แล้วโล่งใจเมื่อมันกองอยู่บนมืออย่างสวยงาม อย่างน้อยก็ไม่ต้องทำความสะอาดพื้นละนะ
2.เพราะเป็นแม่จึงรู้ว่าการมีลูกคือการฝึกความอดทนได้เป็นอย่างดี
เพราะตั้งแต่คลอดลูกมายังไม่มีวันไหนที่คุณหญิงคุณชายจะนอนหลับได้นานตลอดคืนเลยสักวัน พอเข้าเตรียมฯ หรืออนุบาลค่อยหลับได้เต็มอิ่มขึ้นบ้าง เพราะก่อนหน้านั้นนี่ไม่รู้ว่าการอดหลับอดนอนติดต่อกันนานเป็นเดือนนี่ทนได้ยังไง และไม่ว่าลูกจะแหกปากร้องไห้แค่ไหน ก็ต้องอดทนไม่วีนไม่ปรี๊ดแตกอยู่ร่ำไป เพราะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้ลูกเห็น
3.เพราะเป็นแม่จึงรู้ว่าการมีลูกจะทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปได้เยอะขนาดนี้
จากสาวปาร์ตี้หนักติดกันทุกคืนก็กลายเป็นคนที่ต้องนอนตามลูกตั้งแต่สองทุ่ม จากสาวที่กินเหล้าแทนน้ำก็ต้องมากินน้ำขิงอุ่นๆ เรียกน้ำนม จากสาวที่สูบบุหรี่ก็ไม่เคยแตะอีกเลย จากสาวที่มีแต่คำหยาบพ่นออกมาก็ไม่ได้พูดอีกเลยเพราะกลัวลูกจะจำไปใช้ เป็นเพราะมีลูกเข้ามาในชีวิต ชีวิตของแม่จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ชีวิตของแม่คนเดียวอีกต่อไป แต่เพราะมีลูกที่ยังต้องพึ่งพาแม่อยู่ แม่จึงต้องเป็นทั้งแม่และคนที่ดีขึ้นกว่าเดิมให้ได้
4.เพราะเป็นแม่จึงรู้ว่าการคลาดสายตาแค่สิบนาทีดูเหมือนนานหลายชั่วโมง
ลูกคลาดสายตาไปเพียงแค่สิบนาที ก็กังวลไปต่างๆ นาๆ ใจมันร้อนรน แขนขาก็อ่อนแรง ใจก็เต้นเหมือนจะหลุดออกมาให้ได้ สมองประมวลผลเร็วยิ่งกว่า Core i7 และน่าทึ่งที่เราสามารถจินตนาการถึงสิ่งที่เลวร้ายได้เป็นร้อยๆ อย่าง ภายในเวลาแค่นี้ แต่ก็โชคดีมาตลอดที่ไม่เกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นเลย
5.เพราะเป็นแม่จึงรู้ว่าเด็กแต่ละคนนั้นต่างกัน แม้จะเกิดมาเป็นฝาแฝดกันก็ตาม
อย่าว่าแต่พี่น้องที่นิสัยไม่เหมือนกันเลย ขนาดฝาแฝดบางคู่ยังมีนิสัยที่แตกต่างกัน ความชอบที่ต่างกัน และแน่นอนว่าการเลี้ยงก็ต้องต่างกันออกไปด้วย อะไรที่ได้ผลกับคนนึง อาจจะไม่ได้ผลจากคนนึงเสมอไป แต่นั่นมันก็ไม่ได้หมายความว่าลูกจะดื้อหรือน่ารักไม่เท่ากับอีกคน บางทีแม่ก็คิดน่ะแหละ เพียงแต่แม่ระวังเกินกว่าที่จะแสดงออกมา
6.เพราะเป็นแม่จึงรู้ว่าการเป็นแม่ของลูกที่มากกว่า 1 คน มีความลำเอียงแน่ๆ
หากไม่เคยเป็นแม่ อาจจะคลางแคลงใจกับการเลี้ยงลูกด้วยความลำเอียง หรือมโนไปว่าคนเป็นพ่อแม่ควรจะรักลูกกว่าสิ แต่ความจริงแล้ว เมื่อมาเป็นแม่เองและมีลูกมากกว่า 1 คน ความจริงที่น่าเกลียดที่ไม่มีใครกล้าจะพูดออกมา อย่างลูกรักของแม่คือใครนั้นมีแน่นอน แต่ก็นั่นแหละลูกๆ จะไม่มีวันรู้แน่ๆ
7.เพราะเป็นแม่จึงรู้สึกเบื่อหน้าสามีตอนที่ไม่เคยคิดจะช่วยกันเลี้ยงลูกเลย
ถ้าไม่มีลูกคงไม่รู้ว่าสามีตัวเองน่ะมีมุมที่ไม่รับผิดชอบเอาเสียเลยอยู่ด้วย จะว่าไปลูกก็ดึงมุมขี้เกียจและโบ่ยหน้าที่ มุมมืดของพ่อของลูกมาให้แม่เห็นได้เหมือนกันนะ แต่หน้าที่ของแม่ก็คือบังคับให้พ่อของลูก ช่วยกันเลี้ยงลูกด้วยความเต็มใจ เพราะถ้าไม่อย่างนั้น หน้าที่พ่อบ้านคงต้องตกเป็นของพ่อแน่ๆ เลย จริงไหมละคะสาวๆ
8.เพราะเป็นแม่จึงต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก แม้ว่าลูกจะไม่คิดอย่างนั้นก็ตาม
ทั้งของเล่นส่งเสริมพัฒนาการราคาไม่ได้ถูกเลย พอซื้อมาลูกจิ้มแค่ครั้งสองครั้งก็หันไปตีหม้อไหแบบสนุกสุดๆ อีกด้วย ซึ่งบางทีแม่ก็รู้สึกผิดหวังและเสียดายแทนลูกจริงๆ นี่ยังไม่นับว่าแม่ต้องขีดฆ่าเลขศูนย์ข้างหลังป้ายราคา เพื่อบอกพ่อของลูกว่า ของเล่นของลูกมันไม่ได้แพงอะไรเลยจริงๆ นะ ทั้งที่แม่แอบน้ำตาไหลพราก เวลาที่ลูกเอาสีไปขีดๆ เขียนๆ หรือถอดชิ้นส่วนมันออกมาแบบไม่ใยดี ไม่สนใจเลยใช่ไหมว่าของเล่นมันราคาเท่าไหร่
9.เพราะเป็นแม่จึงรู้ว่าร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของลูกนั้นทำให้มีความสุข
มากมายกว่าชุดล่าสุดบนรันเวย์ หรือกระเป๋าที่จองคิวกันหลายปี แต่สิ่งที่ทำให้แม่รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจที่สุด เหมือนได้ชาร์จพลังอย่างเต็มเปี่ยม ทำให้แม่มีวันดีๆ ต่อไปได้อีก และไม่ว่าใครจะมองว่าแม่เห่อลูกมากเกินไปไหม อ้าว ก็แน่สิ ถ้าไม่เห่อลูกตัวเอง จะให้ไปเห่อลูกใครละจริงไหม รอยยิ้มที่ใสซื่อ และแววตาที่แม่คือโลกทั้งใบของลูก แค่รูปกับวิดิโอของลูก ก็เต็มฮาร์ดดิสก์ไป 2 TB ตั้งแต่ยังไม่ถึงขวบเลยนะนั่น
10.เพราะเป็นแม่จึงทำให้คนที่ไม่มีเรื่องเครียด กลายเป็นคนจิตตกได้ง่ายมาก
ทั้งที่เมื่อก่อนจะเป็นแนว Let it go ไปเสียทุกเรื่อง ไม่ทุกข์ไม่ร้อน ไม่หือไม่อือ ไม่สนใจกับเรื่องใดๆ อย่าว่าแต่ความเป็นไปของโลกเลย กลายเป็นคนที่วิตกจริตไปเสียทุกเรื่อง ตั้งเเต่เรื่องโลกร้อน เรื่องภัยพิบัติ เรื่องสารเคมีตกค้างจากผักผลไม้เนื้อสัตว์ต่างๆ ตลอดไปจนเรื่องของสารเคมีที่ปนเปื้อนดินและน้ำ รวมไปถึงมลภาวะทางอากาศที่ไม่มีทางยับยั้งได้เลย ถึงขนาดมีแผนเป็นชิ้นเป็นอันในเรื่องของการรับมือกับภัยพิบัติธรรมชาติ หรือหากโลกแตกวันนี้พรุ่งนี้แล้วแม่จะทำยังไงกับลูกต่อไปดี
11.เพราะเป็นแม่จึงทำให้ตัดสินใจเด็ดขาดเพื่อความสุขของลูก
จะว่าไป ก็ไม่มีเหตุผลไหน ที่ทำให้แม่ตัดสินใจเลิกกับพ่อที่ไม่เอาไหนของลูกได้ง่ายเพียงนี้อีกแล้ว หากพ่อของลูกยังไม่ปรับปรุงตัวก็ไม่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกได้ ไม่นับว่าหน้าที่สามียังห่วยแตกด้วยนะนั่น เพราะแม่รู้เสมอว่าครอบครัวพ่อแม่ลูกนั้นดีกว่า แต่สุขภาพจิตและกับลูกนั้นอาจจะสำคัญกว่านั้นแน่นอน และถ้าทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่ไม่มีพ่อมันดีกว่าการมีพ่อห่วยๆ มีพ่อเลวๆ แม่ก็ตัดสินใจได้ง่ายมากเลย จริงไหมละลูก
12.เพราะเป็นแม่จึงรู้ว่าเราสามารถรักใครคนนึงแบบตายแทนได้
เพราะเด็กๆ นั้นเกิดมาเพื่อเปลี่ยนชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งให้กลายเป็นแม่ และแม่แทบจะทุกคนที่สามารถตายแทนลูก อย่าว่าแต่ต้องแบ่งไต หรือดวงตาให้เลย แม่ให้ได้ทั้งร่างกาย เพียงเพื่อต่อลมหายใจให้ลูกเท่านั้นเอง โชคดีแค่ไหนที่เรามีลูก เราจึงได้รู้ว่าการเกิดมาในครั้งนี้ และได้รักใครบางคนแบบสุดหัวใจ มันก็ดีตั้งเท่าไหร่แล้ว
บทความที่น่าสนใจ
10 ความเสียสละที่คุณจะรู้ซึ้งเมื่อได้เป็นแม่