ไขข้อข้องใจ! ประโยชน์ของ จุลินทรีย์แล็กโตบาซิลลัส แรมโนซัส จีจี

หากพูดถึงจุลินทรีย์ คำว่า จุลินทรีย์แล็กโตบาซิลลัส หลายคนคงจะเข้าใจว่าจุลินทรีย์ชนิดนี้มีอยู่ในนมเปรี้ยวหรือในโยเกิร์ตเท่านั้น แต่จะให้รู้จริงแล้วหลายสายพันธุ์มีอยู่ในน้ำนมแม่ ถามว่าแลกโตบาซิลลัสที่ว่านี้มีประโยชน์อย่างไรบ้างต่อร่างกาย ที่ว่าช่วยป้องกันโรคท้องร่วงและช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยได้จริงหรือ? จุลินทรีย์ตัวจิ๋วที่เรามองไม่เห็นนั้นมหัศจรรย์ขนาดไหนกัน มาทำความรู้จักกับ จุลินทรีย์แล็กโตบาซิลลัส ให้กระจ่างกันดีกว่านะคะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

Lactobacillus rhamnosus GG หรือ “จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ LGG “เป็นจุลินทรีย์อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่พบว่า มีคุณสมบัติดีต่อสุขภาพ โดย Sherwood Gorbach และ Barry Goldin ผู้ที่ค้นพบจุลินทรีย์สายพันธุ์นี้ได้ทำการวิจัยและพบว่า จุลินทรีย์แล็กโตบาซิลลัสสายพันธุ์แรมโนซัสGG หรือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ LGG มีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือ

  • เป็นจุลินทรีย์ที่แยกจากลำไส้ของมนุษย์
  • ทนต่อการถูกทำลายด้วยกรดที่กระเพาะและด่างที่ลำไส้เล็ก
  • สามารถปล่อยสารออกมาฆ่าเชื้อดื้อยา ลดจำนวนจุลินทรีย์ก่อโรคและ/หรือจุลินทรีย์ฉวยโอกาสก่อโรคในโพรงลำไส้
  • สามารถเกาะติดกับผิวเยื่อบุลำไส้เหนือกว่าจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์สายพันธุ์อื่น
  • สามารถแบ่งตัวเพิ่มจำนวนปูพรมเป็นกำแพงป้องกันผิวเยื่อบุลำไส้

 

กระบวนการทำงานของจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส

การทำงานของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ LGG อยู่ตรงตำแหน่งที่ผิวของลำไส้เล็ก ซึ่งใต้ผิวเยื่อบุลำไส้มี Gut Associated Lymphoid Tissue, GALT ที่มีเซลล์ภูมิคุ้มกันอยู่ที่นี่ถึงร้อยละ 80 จึงเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นศูนย์บัญชาการของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ร่างกายได้จัด GALT ของระบบป้องกันไว้ที่ใต้เยื่อบุลำไส้ ทั้งนี้เพราะเชื้อโรคส่วนใหญ่จะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวเยื่อบุลำไส้ ซึ่งเป็นด่านหน้า(barrier)จึ่งมีความจำเป็นที่ต้องมีจุลินทรีย์ปกป้องที่ผิวเยื่อบุปกป้องการรุกล้ำของเชื้อหรือสิ่งแปลกปลอม นอกจากนี้มีเซลล์เนื้อเยื่อน้ำเหลืองทำหน้าที่รับรู้ว่ามีเชื้อหรือสิ่งแปลกปลอม ที่เป็นอันตรายที่ร่างกายต้องกำจัดด้วยการสร้างสารเข้ากำจัด(innate immunity)หรือเกิดกระบวนการภูมิคุ้มกันตอบสนองขึ้นมาทำลาย(adaptive immunity)

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ประโยชน์ของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ LGG

  • ช่วยย่อยอาหารโดนเฉพาะน้ำตาลแล็กโทสในนม สร้างวิตามิน และช่วยให้ภาวะในโพรงลำไส้เป็นกรด แร่ธาตุดูดซึมได้ดี เช่น แคลเซียมและเหล็ก เป็นต้น
  • ช่วยปกป้องผิวเยื่อบุ จุลินทรีย์แล็กโตบาซิลลัส ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันตื่นตัว ทำการระแวดระวังโดย กระตุ้นภูมิคุ้มกันและสร้างชั้นเคมีเป็นเกราะป้องกันร่างกายจากเชื้อที่เป็นอันตรายไม่ให้รุกล้ำเข้าเยื่อบุลำไส้
  • หากเชื้อมีสารพิษเข้ามาในโพรงลำไส้เกิดเซลล์บาดเจ็บ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ LGG  จะปล่อยสารเคมีสื่อสารกับเซลล์ที่บาดเจ็บให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น เช่น กรณีเกิดการติดเชื้อไวรัสโรต้า เกิดอาการท้องร่วง จึงหายได้เร็วขึ้น
  • กรณีที่ผู้ป่วยได้รับยาปฏิชีวนะที่มีประสิทธิภาพสูงหลายๆวัน ยาจะทำลายเชื้อดีๆ (normal flora) เชื้อฉวยโอกาสก่อโรค เช่น Clostridium difficille เป็นต้นซึ่งปล่อยสารพิษทำให้ลำไส้อักเสบเกิดอาการท้องร่วงที่ร่วมกับการได้รับยาปฏิชีวนะ (antibiotic associated diarrhea) จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ LGG สามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อฉวยโอกาสก่อโรค Clostridiun difficile  ลงได้

เนื่องจากโรคท้องร่วงเป็นโรคที่พบบ่อยในทารกและเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปีเป็นโรคท้องร่วงเฉียบพลัน 2 ครั้งต่อคนต่อปี ร้อยละ 40-50`สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสโรต้า ดังนั้น ในด้านการรักษาและป้องกันโรคท้องร่วงเฉียบพลันจากไวรัสโรต้า นอกจากจะให้เด็กทารกที่อายุน้อยกว่า 8 เดือนได้รับการฉีดวัคซีนโรต้าแล้ว การได้รับนมเสริมที่มีส่วนผสมของ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ LGG ก็เป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและช่วยให้ลูกน้อยไม่เกิดอาการท้องร่วงเมื่อได้รับเชื้อได้อีกทางหนึ่ง 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เรียบเรียงโดย ศ. เกียรติคุณ พญ. วันดี วราวิทย์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team