เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ชื่นชอบเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงาม สกินแคร์ ครีมบำรุงผิว น่าจะรู้จักกับสารสกัด BHA เป็นอย่างดี เพราะว่าเป็นสารสกัดที่ได้รับความนิยมนำมาเป็นส่วนผสมในสกินแคร์มากมายไม่ว่าจะเป็นเซรั่ม น้ำตบ ครีมบำรุง โฟมล้างหน้า ที่จะเน้นฟื้นบำรุงผิวหน้าที่มีปัญหาสิวอุดตันรูขุมขนกว้าง เพราะฉะนั้นวันนี้ TAP จึงอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักว่า BHA คืออะไร ทำไมถึงเป็นสารสกัดที่ได้รับความนิยมในวงการสกินแคร์ !?
BHA คืออะไร ?
BHA หรือ Beta Hydroxy Acid เป็นสารสกัดที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ที่มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบของผิวทำหน้าที่ช่วยขจัด และ ผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ เซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน เพื่อเผยผิวใหม่ที่สดใสดูสุขภาพดี ซึ่ง BHA จะเน้นผลัดเซลล์ผิวทั้งเซลล์ผิวด้านนอกชั้นบนสุดของผิว และยังสามารถแทรกซึมเข้าไปทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างล้ำลึกด้วยการละลายน้ำมันส่วนเกินที่อยู่ในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหารูขุมขน สิวอุดตัน สิวหัวดำต่าง ๆ เพราะฉะนั้น BHA จึงเป็นสารสกัดในสกินแคร์ที่จะช่วยกู้สภาพผิวที่มีปัญหาสิวอุดตัน รูขุมขนกว้าง ผิวหน้าไม่เรียบเนียนนั่นเองค่ะ
คุณสมบัติของ BHA คืออะไร ?
ต้องบอกว่า BHA เป็นส่วนผสมในสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติ และ สรรพคุณที่ดีมาก ๆ อีกชนิดหนึ่ง เพราะว่าเป็นสารสกัดที่ดีต่อผิวโดยเฉพาะคนที่มีสภาพผิวมัน ผิวเป็นสิวง่าย เป็นสิวเรื้อรัง การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ BHA จะช่วยบำรุงผิวได้เป็นอย่างดี โดยคุณสมบัติเด่นของ BHA มีดังต่อไปนี้..
- สลายสิ่งสกปรกที่เข้าไปอุดตันในรูขุมขน
- กำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และ เซลล์ผิวที่ตายแล้ว
- ลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า
- แก้ปัญหาสิวอุดตัน สิวเสี้ยน สิวหัวดำ
- ลดการเกิดสิวอักเสบ
- ฟื้นฟูผิวให้มีความกระจ่างใสเรียบเนียน
- บำรุงสีผิวให้มีความสม่ำเสมอ ลดจุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง รอยสิว
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 เซรั่มลดรอยสิว เผยผิวกระจ่างใส จุดด่างดำจางไว ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้
BHA ทำงานอย่างไร
หลาย ๆ คนอาจจะเกิดความสงสัยว่าสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ BHA จะทำงาน และ ออกฤทธิ์อย่างไรต่อผิว ? เนื่องจาก BHA เป็นกรดที่ที่ละลายในไขมันจึงทำงานโดยการซึมผ่านน้ำมันบนชั้นผิว เพื่อลงไปผลัดเซลล์ผิว และ กำจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูขุมขน รวมถึงยังช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกให้หลุดออกอย่างอ่อนโยนนั่นเองค่ะ
และหลาย ๆ คนที่ใช้ BHA เป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะเห็นผลลัพธ์ของผิวที่มีความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนจะสามารถสัมผัสได้เลยว่าผิวหน้ามีสุขภาพที่ดีขึ้น ผิวมีความละเอียด เรียบเนียน สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผดขึ้นน้อยลง รวมถึงช่วยกระชับรูขุมขน จึงส่งผลให้ปัญหาสิวอักเสบ หรือ การอุดตันในรูขุมขนเกิดขึ้นน้อยลงตามไปด้วย และที่สำคัญ คือผิวหน้าที่ใช้สกินแคร์ที่มี BHA จะมีความขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจาก BHA จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกพร้อมเผยผิวใหม่ที่สดใสสุขภาพดี
BHA เหมาะกับใคร
เนื่องจาก BHA เป็นสารสกัดที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ จึงสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวตั้งแต่ผิวธรรมดา ผิวมัน ผิวผสม ผิวแห้ง ไปจนถึงผิวที่มีความบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ แต่ก็มีข้อควรระวังเล็กน้อย คือสำหรับคนที่ไม่เคยใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ BHA มาก่อนควรเริ่มใช้ BHA ที่มีค่า % จากน้อย ๆ มาก่อน เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว ซึ่งสามารถเกิดได้กับทุกคน เพราะถึงแม้ว่า BHA จะมีฤทธิ์อ่อน ๆ แต่สำหรับคนที่แพ้ง่าย หรือ ผิวที่ไม่เคยใช้สารสกัดที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวมาก่อนก็อาจจะแพ้ได้เช่นเดียวกัน
TIPS by TAP : เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้ BHA หรือ เป็นคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายการทดสอบว่าตนเองแพ้สารสกัดในสกินแคร์หรือไม่ !? คือให้นำผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มาแต้มไปบริเวณท้องแขน ข้อพับแขน หรือ หลังใบหู โดยหลีกเลี่ยงการทา หรือ ทดลองโดยตรงกับผิวหน้า เพราะถ้าหากแพ้อาจจะทำให้ผิวหน้าเห่อได้นั่นเองค่ะ การทดสอบกับท้องแขน ข้อพับ หรือ หลังหู ถ้าหากเกิดอาการแพ้จะดูแลได้ง่ายกว่า
คำถามที่หลายคนสงสัย AHA VS BHA ต่างกันอย่างไร ?
อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนมักจะสงสัยเวลาไปจะเลือกซื้อสกินแคร์ต่าง ๆ แล้วเจอส่วนผสมที่มี AHA และ BHA ว่าส่วนผสมทั้งสองชนิดนี้ต่างกัน หรือ เหมือนกันอย่างไร ทำไมถึงมีชื่อที่คล้ายกัน ? มาหาคำตอบได้เลย !
- AHA เป็นสารที่ละลายในน้ำได้ ซึ่งจุดเด่น หรือ คุณสมบัติเด่นของ AHA คือจะเน้นทำความสะอาด ผลัดเซลล์ผิว และทำความสะอาดสิ่งสกปรกในส่วนของผิวชั้นบนจะไม่สามารถแทรกซึมลงไปทำความสะอาดผิวหนังชั้นล่างอย่างล้ำลึกได้นั่นเองค่ะ
- BHA เป็นสารที่ละลายในน้ำมัน ซึ่งหมายถึงว่า BHA จะสามารถแทรกซึมผ่านชั้นผิวหนัง แทรกซึมเข้าสู่รูขุมขนที่มีน้ำมันที่หล่อเลี้ยงผิว เพื่อเข้าไปทำความสะอาดรูขุมขนกำจัดสิ่งสกปรกตกค้าง รวมถึงเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เพื่อให้รูขุมขนสะอาดได้อย่างล้ำลึกช่วยลดปัญหาการอุดตันในรูขุมขน และ สิวอุดตัน
เพราะฉะนั้น AHA และ BHA ส่วนผสมในสกินแคร์ทั้งสองชนิดนี้มีหน้าที่ และ สรรพคุณที่เหมือนกันก็คือจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ เซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน แต่สิ่งที่แตกต่างกัน คือ AHA จะเน้นผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกส่วน BHA จะสามารถแทรกซึมเข้าไปทำความสะอาด และ ผลัดเซลล์ได้ล้ำลึกกว่านั่นเองค่ะ
บทความส่งท้าย
สำหรับใครที่อยากดูแล ฟื้นฟู บำรุง หรือกู้สภาพผิวหน้าที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง มีปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบเรื้อรัง รวมถึงมีสภาพผิวหน้าที่มันจนเกินไป การเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ BHA จึงเป็นทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ และจะช่วยฟื้นบำรุงดูแลผิวหน้าให้กลับมามีผิวที่สดใส มีผิวหน้าที่เรียบเนียน รูขุมขนกระชับ สิวอุดตันหลุดง่ายขึ้น สิวอักเสบขึ้นน้อยลง และทั้งหมดนี้ก็เป็นเหตุผล และเป็นคำตอบที่ว่าทำไม BHA ถึงเป็นสารสกัดที่ได้รับความนิยมในการนำมาเป็นส่วนผสมในสกินแคร์นั่นเองค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แนะนำ 10 เซรั่ม AHA สกินแคร์หน้าใส ลดรอยสิว ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
บอกต่อ ! 10 เซรั่มเรตินอล รักษาสิว กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ ห่างไกลริ้วรอยเหี่ยวย่น
10 เซรั่มรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ รับประกันใช้แล้วผิวสวย หน้าใส ไร้ฝ้ากวนใจ
ที่มา : cosmenet