ทุกครั้งของการทำความสะอาดบ้าน นอกจากการทำความสะอาดสิ่งต่าง ๆ แล้ว ผ้าม่านก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่เราควรต้องใส่ใจและหมั่นดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ หากคุณแม่คนไหนที่กำลังอยากรู้ว่า เราควรมี ซักผ้าม่าน และดูแลผ้าม่าน อย่างไรบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ
ประเภทของผ้าม่าน
สำหรับใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าเราควรซื้อผ้าม่านยังไง หรือควรเลือกผ้าม่านแบบไหน เพื่อจะได้ตอบโจทย์และเข้ากับลักษณะบ้านเรามากที่สุด เรามาดูลักษณะผ้าม่านกันเลยดีกว่าค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไอเดียตกแต่งบ้าน กับ 15 วิธีแต่งบ้านสไตล์ท่องเที่ยว สายเที่ยวไม่ควรพลาด
1. ผ้าม่านตาไก่
ผ้าม่านตาไก่ถือเป็นผ้าม่านที่คนส่วนใหญ่ค่อนข้างใช้เยอะอยู่เหมือนกัน ด้วยการดีไซน์ที่ดูคลาสสิก เปิด-ปิดม่านค่อนข้างง่าย อีกทั้งยังเป็นรูปทรงที่ดูสวยและเข้ากับทุก ๆ สไตล์ เพราะฉะนั้นใครที่กำลังมองหาผ้าม่านอยู่ในตอนนี้ ผ้าม่านตาไก่ก็ค่อนข้างจะลงตัวอยู่เหมือนกัน
2. ม่านลอน
เป็นม่านที่มีลักษณะเรียบ ๆ แต่ดูมีอะไร ซึ่งม่านลักษณะนี้จะเป็นม่านที่ผสมผสานระหว่างม่านจีบกับม่านตาไก่ ลักษณะของเนื้อผ้าจะเป็นลอนพับไปมา ดูแล้วค่อนข้างจะเหมาะสมและตอบโจทย์ให้กับคนที่ชอบตกแต่งบ้านมาก ๆ สำหรับใครที่มีความชอบในการตกแต่งบ้าน ชอบความเรียบง่ายแต่ดูมีอะไรเราก็อาจจะเลือกใช้ผ้าม่านเป็นม่านแบบลอนได้เลย รับรองว่าใครที่ออกแบบบ้านจะต้องชอบการดีไซน์นี้
3. ม่านพับ
ม่านประเภทนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยม ด้วยการดีไซน์ที่เก๋ไม่ซ้ำใคร สามารถพับเก็บบริเวณด้านบนได้ เรียกได้ว่ามีความสะดวกสบายมาก ๆ นอกจากนี้ยังเป็นม่านที่สามารถติดตั้งในบริเวณแคบ ๆ ได้ เพราะฉะนั้นหากบริเวณไหนภายในบ้านมีลักษณะแคบ เราก็อาจจะเลือกเป็นม่านแบบพับแทนได้ บอกเลยว่าเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครเลยล่ะ
4. มู่ลี่
ม่านลักษณะนี้จะมีให้เราเลือก 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ แบบที่เป็นไม้และอะลูมิเนียม การดีไซน์ม่านในลักษณะดูเรียบง่าย แต่มีสไตล์เฉพาะตัว สำหรับใครที่ชอบการตกแต่งบ้านแบบสไตล์มินิมอล อยากให้บ้านของเราดูอบอุ่นก็อาจจะเลือกมู่ลี่เป็นแบบไม้ได้ หรือใครที่อยากจะให้บ้านของเราดูทันสมัยและมีความเป็นโมเดิร์นขึ้นมาหน่อย เราก็อาจจะเลือกมู่ลี่แบบอะลูมิเนียมได้ อีกอย่างม่านลักษณะนี้ยังทำความสะอาดง่าย มองดูแล้วไม่น่าเบื่อ เพราะฉะนั้นใครที่กำลังมองหาผ้าม่านมาตกแต่งบ้านสวย ๆ ม่านแบบมู่ลี่ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน
5. ม่านจีบ
ม่านที่มีความคลาสสิก โดดเด่น ออกแนวร่วมสมัย ซึ่งม่านลักษณะนี้สามารถที่จะทำรางม่านซ่อนบนเพดานได้ ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีหน้าต่างและประตูบานใหญ่และสูง หากใครที่ยังเลือกไม่ได้ว่าควรติดบ้านที่บ้านแบบไหนดี อาจจะเลือกติดม่านแบบจีบ เพื่อที่บ้านของเราจะได้ดูสวย เรียบหรู และเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นค่ะ
6. ม่านม้วน
เป็นอีกหนึ่งรูปแบบม่านที่ดูทันสมัยและค่อนข้างตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ลักษณะม่านแบบม้วนเป็นม่านที่มีลักษณะพิเศษและสามารถเก็บได้อย่างมิดชิดไม่เกะกะ สามารถม้วนเก็บบริเวณด้านบนได้ อีกทั้งยังค่อนข้างที่จะทำความสะอาดง่าย เมื่อพูดถึงเรื่องการตกแต่งหากใครที่ชอบความเป็นโมเดิร์น อยากให้การดีไซน์บ้านของเราดูเท่ และมีความทันสมัยขึ้นมาหน่อย ม่านม้วนก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อย
7. ม่านหูกระเช้า
ใครที่อยากจะให้บ้านของเราดูเก๋ มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร เราก็อาจจะเลือกเป็นม่านหูกระเช้าได้ ซึ่งม่านลักษณะนี้จะใช้ผ้าเป็นตัวคล้องรางแทนห่วงม่าน อาจทำให้บางครั้งการเปิด – ปิดค่อนข้างลำบากขึ้นมาในบางครั้ง แต่ม่านลักษณะนี้ทำความสะอาดง่าย ไม่ว่าจะนำไปตกแต่งกับบ้านสไตล์ไหนก็ค่อนข้างโดดเด่นมาก ๆ
เทคนิคการเลือกผ้าม่าน
องค์ประกอบที่สำคัญที่จะทำให้บ้านของเราดูสวย และตอบโจทย์คุณแม่หลายคนหนึ่งในนั้นคือการเลือกผ้าม่าน เพราะเมื่อไหร่ที่เราเลือกผ้าม่านได้ตรงตามความต้องการ และเลือกผ้าม่านได้อย่างเหมาะสม สิ่งนี้ก็จะทำให้บ้านของเราน่าอยู่และสวยงามขึ้นมาได้เลย ก่อนที่เราจะซื้อผ้าม่านเราควรต้องดูอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ส่อง 12 ร้านขายของตกแต่งบ้าน ในไอจี ดีไซน์เก๋ โดดเด่นไม่เหมือนใคร
1. ดูลักษณะหน้าต่างและประตู
สิ่งแรกที่เราต้องดูก่อนทำการเลือกซื้อผ้าม่าน เราก็อาจจะต้องดูลักษณะประตูและหน้าต่างด้วยว่ามีเป็นอย่างไร นอกจากดูลักษณะต่าง ๆ แล้วเราก็อาจจะต้องทำการวัดขนาดหน้าต่างและประตูตามไปด้วย เพื่อที่เราจะได้ขนาดผ้าม่านที่เหมาะสมและตรงตามความต้องการมากที่สุด
2. พิจารณาทิศทางของแสงแดด
จากนั้นเราก็อาจจะต้องดูว่าแต่ละห้องของการติดผ้าม่านนั้น เป็นบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงมากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นห้องที่แดดไม่ได้ส่องถึงมาก คุณแม่ก็อาจจะเลือกผ้าม่านที่มีขนาดบางไม่หนาจนเกินไปได้ ในทางกลับกันหากเป็นบริเวณที่แดดส่องค่อนข้างมาก เราก็อาจจะต้องเลือกผ้าม่านที่ดูหนาและเป็นเนื้อผ้าสำหรับกรองแสง เพื่อที่จะได้บังแดด และป้องกันความร้อนภายในบ้านของได้
3. การเลือกโทนสี
นอกเหนือจากสิ่งต่าง ๆ แล้ว การเลือกโทนสีก็เป็นอะไรที่เราควรให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน ซึ่งการเลือกโทนสีของผ้าม่านนั้น เราอาจจะดูก่อนว่าเราชอบการตกแต่งบ้านสไตล์ไหน หรือถ้าเราเลือกโทนสีเหล่านี้ไปแล้วจะดูเหมาะสมหรือเปล่า เพราะฉะนั้นหากใครที่ชอบตกแต่งบ้านแบบสไตล์โมเดิร์น อยากให้บ้านของตัวเองดูเท่ขึ้นมา เราก็อาจจะเลือกเป็นผ้าม่านโทนสีทึบได้ หรือหากใครที่อยากจะให้บ้านของเราดูกว้างขวาง สบายตา และรู้สึกปลอดโปร่งเราก็อาจจะเลือกเป็นผ้าม่านโทนสีสว่างได้เหมือนกัน
4. ดูลวดลายของผ้า
สิ่งที่เราต้องดูอีกอย่างหนึ่งก่อนที่จะทำการซื้อผ้าม่านนั่นคือลวดลายของเนื้อผ้า ซึ่งสิ่งนี้อาจจะต้องเลือกตามความชอบของเราได้เลย สำหรับใครที่อยากจะให้บ้านของตัวเองดูสวยมีเอกลักษณ์ ไม่อยากให้บ้านดูน่าเบื่อ เราก็อาจจะเลือกผ้าม่านแบบลวดลายต่าง ๆ ได้ หรือใครที่ชอบความเรียบง่าย เราก็อาจจะเลือกเป็นลวดลายน่ารัก ๆ เพียงเท่านี้ก็สร้างบรรยากาศภายในบ้านให้น่าอยู่ไม่น้อยเลย
5. ดูลักษณะของเนื้อผ้า
ทุกครั้งของการตัดสินใจในการเลือกซื้อผ้าม่าน คุณแม่อาจจะต้องดูลักษณะเนื้อผ้าของผ้าม่านตามไปด้วย ซึ่งเนื้อผ้าที่เราเลือกนั้นอาจจะเลือกเป็นเนื้อผ้าที่สามารถกรองแสงได้ และทำความสะอาดได้ง่าย เพราะเมื่อไหร่ที่เราเลือกซื้อตามความชอบ แต่ไม่ได้ดูลักษณะของเนื้อผ้า สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้เราลำบากเวลาทำความสะอาดได้
วิธีการดูแลผ้าม่านที่เราควรรู้
1. แยกซักเป็นชุด ๆ
การที่เราจะซักผ้าม่านในแต่ละครั้ง คุณแม่อาจจะต้องแยกซักผ้าม่านเป็นชุด ๆ ซึ่งเราอาจจะเลือกก่อนว่าเราจะซักห้องไหนก่อน ไม่ควรที่จะซักครั้งเดียวรวมกัน เพราะวัสดุอุปกรณ์ที่ติดกับตัวผ้าม่าน หรือผ้าม่านบางประเภทอาจไม่เหมือนกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : 9 วิธีซักผ้าขาว ขาวจั๊วะเหมือนใหม่ เปลี่ยนผ้าหมองเป็นผ้าใหม่ แม่บ้านต้องอ่าน
2. เลือกซักอย่างเหมาะสม
สิ่งที่เราควรคำนึงถึงต่อมาคือการเลือกซักที่พอประมาณ หากคุณแม่อย่างที่จะทำความสะอาดบ้าน แน่นอนว่าหากเราจะซักผ้าม่านให้เสร็จภายในวันเดียว สิ่งนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องยากขึ้นมาหน่อย เพราะฉะนั้นเราก็อาจจะแบ่งซัก หรือเลือกซักให้เหมาะสม โดยอาจจะเลือกซักผ้าม่านโซนที่สกปรกก่อนนั่นเอง
3. ถอดอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
มาต่อกันที่ข้อนี้ก็เป็นอะไรที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ก่อนที่คุณแม่จะนำผ้าม่านไปซัก เราอาจจะต้องดูด้วยผ้ามีอุปกรณ์หรือห่วงอะไรติดมากับผ้าม่านหรือเปล่า เพราะถ้าหากเราไม่ทำการถอดอุปกรณ์ให้เรียบร้อยก่อนซัก สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายระหว่างซักได้
4. สามารถซักในเครื่องได้
วิธีซักผ้าม่านและดูแลผ้าม่าน ขั้นตอนนี้เราอาจจะต้องดูก่อนว่าผ้าม่านที่เราจะนำมาซักนั้น สกปรกหรือมีฝุ่นละอองเยอะหรือเปล่า หากผ้าม่านเราไม่ได้สกปรกมากเท่าไหร่ หรือเป็นผ้าม่านขนาดเล็กที่ไม่ได้หนามาก คุณแม่สามารถนำมาซักในเครื่องซักผ้าได้เลย ที่สำคัญไม่ควรซักพร้อมกันในปริมาณที่มาก เพราะอาจจะทำให้ผ้าม่านเราไม่สะอาดได้เช่นกัน
5. ปรับโหมดการซักให้เหมาะสม
ต่อมาให้เราปรับโหมดการซักใหม่ โดยอาจจะต้องเลือกโหมดสำหรับผ้าหนา เพราะเนื้อผ้าประเภทนี้ค่อนข้างต่างจากเสื้อผ้าที่เราใส่ หากใครที่อยากจะให้ผ้าม่านของเราสะอาดได้เร็วขึ้น ลองปรับโหมดการซักเป็นผ้าหนากันนะคะ
6. กรณีผ้าม่านมีฝุ่นมาก
หากผ้าม่านมีฝุ่นละอองเกาะเป็นจำนวนมาก หรือค่อนข้างที่จะสกปรกขึ้นมาหน่อย เราอาจจะต้องทำการซักด้วยน้ำสะอาดก่อน ซึ่งขั้นตอนนี้อาจจะปั่นโดยเครื่องซักผ้าก่อน แต่เมื่อไหร่ที่ปั่นแล้วยังมีฝุ่นละอองเกาะอยู่เหมือนเดิม คุณแม่ก็อาจจะต้องใช้โหมดการปั่นสำหรับผ้าหนา พร้อมกับทำการปั่นด้วยน้ำสะอาดใหม่อีกรอบ
7. มีคราบสกปรกฝังแน่น
กรณีที่มีคราบสกปรกฝังแน่น หรือล้างไม่ออก คุณแม่อาจจะต้องมีตัวช่วยเพิ่มขึ้นมาโดยอาจจะต้องเทน้ำส้มสายชูลงในบริเวณที่เป็นคราบ จากนั้นทิ้งไว้สักพักก็สามารถนำไปซักได้ตามปกติเลยค่ะ
8. ทำความสะอาดรางผ้าม่าน
นอกจากตัวผ้าม่านที่คุณแม่ต้องดูแลเอาใจใส่แล้ว เราอาจจะต้องทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ รางม่านให้สะอาดตามไปด้วย เพราะหากเราทำความสะอาดเฉพาะตัวผ้าม่านเพียงอย่างเดียว ฝุ่นละอองที่เกาะอยู่รอบ ๆ รางผ้าม่านก็อาจจะส่งผลทำให้ผ้าม่านเราสกปรกอีกตามเคย
9. จัดให้อยู่ในรูปทรงตามเดิม
เมื่อเราทำการซักเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อมาถึงขั้นตอนของการตากผ้าม่าน เราอาจจะต้องดูลักษณะผ้าม่านของเราว่าเป็นผ้าม่านรูปทรงแบบไหน จากนั้นก็ทำการตากให้เป็นไปตามรูปทรงของผ้าม่าน พร้อมกับจัดผ้าให้เรียบมากที่สุด
10. นำไปใส่อุปกรณ์ตามปกติ
เมื่อผ้าม่านแห้งแล้ว จากนั้นเราก็นำผ้าม่านไปติดอุปกรณ์ใส่ห่วงตามปกติ หากเนื้อผ้ามีรอยยับ เราอาจจะต้องใช้เตารีดไอน้ำรีดแทน ไม่ควรรีดอุณหภูมิที่ร้อนจนเกินไป เพราะสิ่งนี้อาจจะทำให้เนื้อผ้าของเราเกิดความเสียหายขึ้นมาได้
ซักผ้าม่าน และดูแลผ้าม่าน ที่เราได้นำมาฝากคุณแม่ในวันนี้ อาจทำให้คุณแม่หลายคนคลายความกังวลขึ้นมาได้ไม่มากก็น้อย สำหรับใครที่กำลังพบเจอกับปัญหาการทำความสะอาดผ้าม่าน หรือสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้าน สามารถเข้ามาดูวิธีการทำความสะอาดและเคล็ดลับต่าง ๆ ตามแอดได้เลยนะคะ เชื่อว่าปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปอย่างแน่นอนค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
12 เทคนิคทำความสะอาดบ้าน เคล็ดลับง่าย ๆ ในบ้าน ที่แม่ ๆ ต้องรู้!
หยุดปัญหา ไรฝุ่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ด้วยเคล็ดลับทำความสะอาดบ้านอย่างทรงพลัง
เทคนิค ทำความสะอาดบ้าน และ กำจัดของที่กองระเกะระกะ