แค่ก้าวเดิน "ตามรอยพ่อหลวง" ก็จะพบกับความสุขที่เฝ้ารอมาตลอดชีวิต

ชายคนหนึ่งที่ก้าวออกจากบ้านเพื่อหวังที่จะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีเงินทอง มีรถไว้คอยรับส่งลูก ให้ลูกได้มีโอกาสเรียนหนังสือสูงๆ แต่พวกเราทุกคนย่อมรู้ดีว่า ความฝันกับความเป็นจริงนั้นแตกต่างกันมากแค่ไหน เนื่องในวันพ่อแห่งชาติปีนี้เราขอนำเสนอตัวอย่างผู้ที่ก้าวเท้าเดินตามคำสั่งสอนของพ่อหลวง และพบว่านี่คือชีวิตที่ทุกท่านต่างตามหามาตลอดชีวิต มาพบกับเส้นทางชีวิตของ "คุณธีรพล คงทน" กันเลยค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณธีรพล คงทน เล่าให้ฟังว่าประสบการณ์จากชีวิต ตัวอย่างหลายๆ อย่างในสังคมที่วนเวียน สำคัญคือคิดได้แล้วเปิดโอกาสให้ตัวเอง เช่น การจากบ้านเพื่อหางานและเงิน เพื่อมาซื้อเลี้ยงครอบครัวนั้น ผมเคยไปทำงานเมืองนอก(อิสราเอล) เจอะเจอความรู้สึกของผู้นำครอบครัวหลายๆ สถานะ เช่น การลาจากลูกตัวน้อยมาทำงาน บางคนพึ่งคลอดลูกใหม่ๆ มาถึงเมืองนอกทำงานเกษตรทั้งผัวและเมีย ต้องพรากลูกตัวแดงๆ มา น้ำนมเปื้อนเสื้อไปทำงานไป….น่าเวทนา บางคนมาก็เสียนา กลับไปก็เสียเมีย (หมายถึงต้องขายนาเพื่อแลกมาทำงาน และสุดท้ายกลับบ้านไปหาครอบครัว แต่แฟนไปมีคนใหม่) หลายๆ ตัวอย่างที่เห็นแล้วมันช่างน่าเวทนายิ่งนัก หลังจากกลับจากเมืองนอก ผมก็กลับมาแต่งงาน แล้วหยุดคิด ศึกษา ถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หาวิธีป้องกันเพื่อตอบโจทย์หลายๆ ตัวอย่างที่พบเจอ หาแบบอย่างที่ชัดเจน แนวทางของพ่อนั้นตอบโจทย์ทุกๆ อย่างในสังคมได้ชัดเจน และสามารถก้าวตามโดยไม่แคลงใจแม้แต่น้อย ทำไม? เพราะความต้องการของพ่อนั้นแค่ต้องการให้ลูกๆ พึ่งพาตนเองได้ รู้จัก “พอ” เพื่อที่จะ “ให้” กับสังคม คือความเป็นพ่อหลวง ครอบครัว บ้านและงาน ที่เดียวกันคือคำตอบแก่นแท้ที่ไตร่ตรองแล้วครับ “ไม่ต้องมีมากมายแค่ยืนอยู่ได้ให้ยั่งยืน”

ต่อมาผมทำเกษตรผสมผสาน เป็นกิจการและกิจกรรมในครอบครัว มีหน้าร้านเป็นบ่อตกปลาเพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองในการนำเสนอสินค้าเกษตรในสวน แม่บ้านขายกับข้าว อาหาร เครื่องดื่มแก่ลูกค้า เค้าจัดการเรื่องการค้าขาย ผมประมาณว่าเป็นคนสวนคอยดูแลสภาพรวมๆ เปิดทุกวันเวลา 09-17 น. ช่วงก่อนและหลังเปิดร้านก็เป็นกิจกรรมงานสวนของเรา มีครบวงจรพืช สัตว์ และประมง ผมเพาะพันธุ์และเลี้ยงปลาขายด้วย ผมไม่เลี้ยงแต่หมูครับเพราะผมต่อยอดเรื่องท่องเที่ยวเชิงเกษตรเรื่องกลิ่นผม เลยกังวนนิดนึงครับ กลัวว่าลูกค้าจะไม่ประทับใจครับ นอกจากนั้นก็มีเกือบหมดทุกอย่าง เช่น ทำนา เลี้ยงเป็ด ไก่ วัว เพาะ เลี้ยงปลา กบ และปลูกกล้วยซึ่งมีเยอะ เพราะผมขยายไปเรื่อยครับ นอกจากนั้นผมยังปลูกหน่อไม้ ทำนาเสร็จก็ปลูกข้าวโพด ปลูกไม้ยืนต้นไว้ใช้งานเรียกว่าเป็น “ธนาคารต้นไม้” มีสวนยางนิดหน่อย รวมๆ แล้วก็ผสมผสานโดยผมใช้หลักในการปลูกคือ “อยากได้แต่ไม่ให้เสีย” คือแต่ละอย่างต้องพึ่งและเกื้อกูลกันครับ

ผมทำงาน ประจำใกล้บ้านครับ ห่างจากบ้านแค่ 4 กิโลเมตร ผมมากินข้าวที่บ้านเกือบทุกวัน ผมเป็นผู้ช่วยนักวิชาการเกษตรอยู่เทศบาลใกล้บ้านครับ การศึกษาจบด้านการประมงมา ซึ่งผมเองก็จะมากินข้าวเที่ยงในช่วงเวลาพักเกือบทุกวันครับ ทุกกิจกรรมเน้น อินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมีไม่ใช้ยาฆ่าหญ้าครับ หากหญ้ารกผมก็จะตัดให้วัวกิน จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าหญ้า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา


เป้าหมายของผมคือ “ครอบครัว บ้านและงาน อยู่ในที่เดียวกัน” อีกไม่นานโอกาสที่ผมสร้างไว้ผมจะคว้ามัน(ลาออกจากงานประจำ) ความสุขเรื่องการทำงานนั้นต่างกันคือเราเป็นคนออกแบบ บ่อยครั้งที่ยิ้มลอยๆ เมื่อนึกคิดถึงฝันถึงของวันข้างหน้าในอีก 20 ปีที่กำลังจะเกิดขึ้น เราเดินแบบมีแบบแผน ซึ่งเป็นแผนที่เราตั้งเป้าและวางเอาไว้เอง ตรงจุดนี้ผมสามารถแสดงออกถึงความหมายของคำว่า”รัก”มากกว่ากล่าวคำว่า” รัก”แก่คนในครอบครัว ทุกๆ กิจกรรมงานสวนของผมจะช่วยคล้องใจเราไว้ครับ “ครอบครัว”

หลักคำสอนของพ่อหลวงเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง 2 เงื่อนไข

สำหรับ ผมเข้าใจว่า การพึ่งพาตนเองได้คือเป้าหมาย โดยอาศัยความรู้ เหตุผล และตัวเราขับเคลื่อนให้รู้จักตน เมื่อเราสามารถพึ่งพาตนเองได้แล้วและรู้จัก“พอ” เมื่อแต่ละคน“พอ”เมื่อนั้นก็จะรู้จัก“การให้”แก่สังคม สิ่งเหล่านี้คือแนวทางของพ่อในการดูแลบ้านเมืองในภาวะสังคมปัจจุบัน ตีโจทย์ให้แตกแล้วก้าวตาม คือคำตอบครับ (คำตอบของแต่ละคนเฉพาะคน พลิกแพลง ประยุกต์ สร้างโอกาสให้เหมาะกับเราครับ เช่น ปลาบ่อคุณตัวใหญ่จัง ฉันไปทำที่บ้านทำไมไม่โตทั้งๆ ที่ทำแบบเดียวกันเลย ซึ่งมันมีอะไรๆๆ ที่จะต้องศึกษาให้ลึกซึ้ง อยู่ใน 3 ห่วง 2 เงื่อนไขครับ)

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

3 ห่วง คือทางสายกลาง ประกอบไปด้วย ดังนี้

  • ห่วงที่ 1 คือ พอประมาณ หมายถึง พอประมาณในทุกอย่าง ความพอดีไม่มากหรือว่าน้อยจนเกินไปโดยต้องไม่เบียดเบียนตนเอง หรือผู้อื่นให้เดือดร้อน
  • ห่วงที่ 2 คือ มีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ อย่างรอบคอบ
  • ห่วงที่ 3 คือ มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง หมาย ถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล

2 เงื่อนไข ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่

เงื่อนไขที่ 1 เงื่อนไขความรู้ คือ มีความรอบรู้เกี่ยวกับ วิชาการต่างๆที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการ วางแผน และความระมัดระวังในขั้นตอนปฏิบัติ คุณธรรมประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เงื่อนไขที่ 2 เงื่อนไขคุณธรรม คือ มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต

มนุษย์เงินเดือนหลายท่านที่ได้เข้ามาอ่านมาชมบทความนี้ เชื่อว่าหลายๆ ท่านในที่นี้ อาจถึงกับหยุดคิดทบทวนตัวเองทันที่ ว่าตลอดเวลาเราทำอะไรอยู่ เราต้องการอะไร ความสุขที่แท้จริงของเราอยู่ตรงไหน เกิดคำถามากมายอย่างแน่นอน ซึ่งผู้เขียนเองก็ตั้งคำถามกับตัวเองเช่นกัน หากวันนี้ไม่เป็นดังฝันขอให้ท่านจงมองหาความสุขที่แท้จริงและอยู่อย่างพอ เพียง ดังคำที่พ่อสอน

คุณธีรพล คงทน ฝากถึงทุกท่านที่ตามหาความฝัน “ถ้าไม่มีวันนั้นก็คงไม่มีวันนี้ แค่วันนี้เราคิดได้แล้วลงมือทำครับ สู้ๆครับ”

ขอบคุณที่มา: https://www.siamarcheep.com

บทความอื่นที่สัมพันธ์กัน:

พ่อสอนให้เราจับปลา เพื่อให้เรามีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต

สัมภาษณ์ ตั๊ก บริบูรณ์ คุณพ่อสุดฮาแต่มีสไตล์การเลี้ยงลูกได้สุดซึ้ง ชมคลิป

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Muninth