เมื่อวันที่ 15 พ.ค. เพจโหนกระแส ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครอง โดยระบุว่า ทางโรงเรียนได้มีนโยบายใหม่ บังคับให้เด็กนักเรียนแอปฯของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อใช้จ่ายแทนเงินสดจ่ายค่าอาหารในโรงเรียน อ้างว่าตอนนี้เป็น สังคมไร้เงินสด ต้องสามารถโอนได้ทุกช่องทาง เมื่อนักเรียนถามทางโรงเรียนว่า ถ้าคนที่ไม่มีมือถือ ไม่มีอินเทอร์เน็ตจะทำอย่างไร โรงเรียนตอบว่า ให้เพื่อนจ่ายไปก่อนแล้วค่อยไปจ่ายเงินสดให้เพื่อน
สังคมไร้เงินสด คืออะไร
สังคมไร้เงินสดถือเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพสังคมที่จากเดิมเราต้องพกเงินสด ก็ได้เปลี่ยนมาเป็น “สังคมไร้เงินสด” โดยที่เราไม่ต้องพกเงินสดออกจากบ้าน แต่ก็ยังสามารถใช้จ่ายซื้อของ หรือชำระค่าบริการต่าง ๆ ได้ตามปกติ ด้วยช่องทางการชำระเงินในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเติมเงิน e-wallet (กระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์) พร้อมเพย์ (PromtPay) และชำระเงินด้วย QR Code นั่นเอง
ข้อดี – ข้อเสีย เมื่อโรงเรียนเข้าสู่ สังคมไร้เงินสด แบบเต็มรูปแบบ
สังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society เป็นคำที่คุ้นหูมาบ้างแล้วสำหรับคนไทย แต่หากย้อนกลับไปอดีตหลายคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจในการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทำธุรกรรมทางการเงินเท่าไร ด้วยความที่เงินนั้นไม่จับต้องไม่ได้เหมือนกับการใช้เงินสด แต่ปัจจุบันทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว ด้วยวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ การเข้าสู่สังคมไร้เงินสดจึงตอบโจทย์วิถีชีวิตอยู่หลายอย่างเหมือนกัน
ข้อดีของสังคมไร้เงินสด
1. ช่วยให้ประเทศพัฒนาและลดต้นทุนทางเศรษฐกิจภายในประเทศ
สังคมไร้เงินสดไม่ได้มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานรายย่อยเท่านั้น แต่ถ้ามองในภาพรวมถือว่าส่งผลดี เพราะพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคส่งผลให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านเทคโนโลยี การตรากฎหมายและมาตรการใหม่ ๆ ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ไปจนถึงการพัฒนาและปรับปรุงระบบของธนาคารและของสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ยังช่วยลดต้นทุนทางเศรษฐกิจภายในประเทศอีกด้วย เพราะต้นทุนการพิมพ์ธนบัตรนั้นมหาศาลมากเลยค่ะ
2. ทำให้การชำระสินค้าสะดวกมากขึ้น
เมื่อก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมไร้เงินสด ร้านค้าและผู้ให้บริการต่าง ๆ ต้องปรับตัวรับการชำระเงินผ่าน e-Payment ซึ่งการใช้จ่ายรูปแบบนี้มีความสะดวก รวดเร็ว อยู่พอสมควร เพียงแค่เติมเงินเข้าไปเก็บในกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือไม่ก็ผูกกระเป๋าเงินกับบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัญชีธนาคารก็สามารถใช้จ่ายได้แล้ว ทั้งยังสามารถตั้งค่าชำระบิลต่าง ๆ ล่วงหน้าได้อีกด้วย
3. ช่วยลดความเสี่ยงในการถือเงินสด
การใช้ Cashless Society นอกจากจะสะดวกในการใช้งานแล้วยังมีความปลอดภัยสูง เพราะไม่ต้องเสี่ยงกับการถือเงินสด ไม่ต้องกังวลเรื่องทอนเงินผิดแล้ว ที่สำคัญยังสามารถติดตามการใช้จ่ายได้ทุกรายการ เพราะมีบันทึกการรับเงินหรือโอนเงินให้ทุกครั้ง
ข้อเสียของสังคมไร้เงินสด
1. ความปลอดภัยของบัญชี
การที่เรานำข้อมูลการเงินทุกอย่างเข้าไว้ในรูปแบบออนไลน์ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่อาจจะทำให้ถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้น ควรหามาตรการรักษาความปลอดภัยของระบบการเงินออนไลน์ให้ได้มากที่สุด เช่น Log out จากระบบแอปฯ ธนาคารทุกครั้งที่เลิกใช้บริการแล้ว
2. เกิดการใช้จ่ายที่เกินตัว
การใช้จ่ายที่สะดวกสบายมากขึ้นเพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส อาจกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าและบริการที่ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น จนทำให้บางครั้งคุณเพลิดเพลินจนลืมดูตัวเลขค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
3. ต้องใช้งานอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา
การที่เราจะสามารถใช้จ่ายเงินในบัญชีผ่านระบบออนไลน์ จำเป็นต้องพึ่งพาเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีความเสถียรและรวดเร็ว หากอินเทอร์เน็ตของหมดหรือไปอยู่ในจุดอับสัญญาณ ก็ไม่สามารถใช้จ่ายบริการอะไรได้
ธุรกรรมการเงินออนไลน์อย่างไรให้ปลอดภัย ?
- ไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์ผู้อื่น หรือคอมพิวเตอร์ตามร้านอินเทอร์เน็ตเด็ดขาด เพื่อป้องกันการถูกขโมยข้อมูล และที่สำคัญไม่ควรใช้สมาร์ตโฟนที่ผ่านการดัดแปลงระบบปฏิบัติการมาด้วย เพราะระบบป้องกันข้อมูลอาจมีปัญหาขึ้นได้
- ถ้าในคอมพิวเตอร์มีโปรแกรมเถื่อนหรือบนสมาร์ตโฟนมีแอปพลิเคชันที่ไม่ได้อยู่ใน Store ซอฟต์แวร์และแอปฯ อาจเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือดักจับข้อมูลได้ หรือเป็นช่องทางให้ไวรัสเข้ามาแฮกระบบได้
- การใช้ Wifi สาธารณะก็เสี่ยงที่จะถูกขโมยข้อมูลและรหัสไปได้เหมือนกัน ทางที่ดีควรใช้อินเทอร์เน็ตส่วนตัว หรือไม่ก็ผ่านเครือข่าย 3G 4G แทนจะปลอดภัยมากกว่า
- ลิงก์เว็บไซต์ของธนาคาร ซึ่งข้อนี้หลายคนอาจจะพลาด ทำให้ต้องไปเจอเว็บปลอม ดังนั้น หากต้องการเข้าใช้บริการ ก็ควรเข้าด้วยการพิมพ์ URL เอง
- Log in – Log out เป็นอีกเรื่องที่ต้องย้ำ เนื่องจากหลาย ๆ คนเมื่อเข้าระบบใช้งาน พอเสร็จธุระก็มักจะลืมออกจากระบบ ดังนั้น ต้องจำไว้ว่า เมื่อทำธุรกรรมใด ๆ ก็ตามเสร็จแล้ว ต้องออกจากระบบและเช็กดูว่าออกจากระบบแล้วจริง ๆ ทันที เพื่อไม่ให้เข้าสู่ระบบค้างเอาไว้
จากข้อความข้างต้นจะเห็นได้ว่าสังคมไร้เงินสดไม่ได้นำมาเพียงการเปลี่ยนแปลงด้านที่ดีเท่านั้น หากเราไม่จัดแจงการใช้เงินให้ดีมันก็มาพร้อมกับโทษได้เหมือนกัน จึงจำเป็นต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ยิ่งโลกกำลังเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตมนุษย์มากขึ้นแบบนี้ สิ่งที่เราสามารถทำได้ก็คือ การปรับตัวและเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เช่นเหล่าพ่อค้า-แม่ค้ารุ่นใหม่ก็ต้องหันมาใช้บริการชำระเงินผ่าน QR Code หรือพร้อมเพย์มากขึ้น