กลายเป็นอีกหนึ่งคดี ที่สะเทือนใจก็ว่าได้ โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศโคลอมเบีย ที่ล่าสุดเกิดเหตุ แม่ลูกอ่อนทิ้งลูก 7 เดือนในรถ เปิดโรงแรมกับสามีเก่า กลับมาดูลูกดับ!
โดยสื่อได้ระบุว่า แม่ลูกอ่อนทิ้งลูก 7 เดือนในรถ โดยเธอมีอายุเพียง 19 ปี ได้ไปเปิดโรงแรมม่านรูด เพื่อมีเซ็กซ์กับหนุ่มซึ่งเป็นแฟนเก่า โดยแม่เด็กทิ้งลูกอายุแค่ 7 เดือนไว้ในรถ เพื่อขึ้นไปมีเพศสัมพันธ์กับหนุ่มคู่ขา ก่อนจะกลับลงมาหลังเสร็จกิจ แล้วพบว่าลูกเสียชีวิต จากการดมก๊าซพิษ จากไอเสียรถยนต์
หญิงคนดังกล่าว ให้การว่า เธอปล่อยให้ลูกนอนในรถ แล้วติดเครื่องยนต์ เปิดแอร์ไว้ให้ลูก ก่อนจะขึ้นห้องไปทำกิจกรรมกับแฟนเก่า ปรากฏว่าพอเสร็จภารกิจ ก็พบว่าลูกหมดสติ เพราะสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไป เนื่องจากก๊าซไอเสียเข้าไปภายในรถ สุดท้ายเด็กเสียชีวิต
ล่าสุด ตำรวจได้สอบสวน ทั้งแม่เด็กและหนุ่มคู่ขา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเด็ก แม้ในตอนนี้ จะไม่ได้มีการควบคุมตัวทั้งคู่ก็ตาม
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกติดอยู่ในรถ เกือบตาย ถ้าไม่ได้สอนลูกให้หนีออกมาได้
เตือน! ทิ้งเด็กไว้ในรถ เสี่ยงเสียชีวิต
การทิ้งเด็กไว้ในรถ นับเป็นอีกเหตุผลที่พ่อแม่ประมาท จนทำให้เกิดความสูญเสีย โดยอ้างอิงจากคำเตือนของ แพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ระบุไว้ว่า กรณีเด็กติดอยู่ในรถแล้วเสียชีวิต เป็นเพราะความร้อนภายในที่สูงขึ้น ซึ่งใช้เวลาเพียง 5 นาที อุณหภูมิในรถจะเพิ่มสูงขึ้น จนไม่สามารถอยู่ได้ หากอยู่ในรถผ่านไป 10 นาที ร่างกายจะแย่ และอาจถึงขั้นเสียชีวิต ภายใน 30 นาที
เพราะปกติ ร่างกายจะรักษาอุณหภูมิไว้ที่ 37 องศาเซลเซียส แต่เมื่อติดอยู่ในรถที่ความร้อนสูงขึ้น ช่วงแรกร่างกายจะขับเหงื่อออกมา แต่เมื่อถึงจุดที่ร่างกายทนไม่ไหว ร่างกายก็จะหยุดทำงาน เกิดภาวะเลือดเป็นกรด หยุดหายใจ และอวัยวะทุกอย่างหยุดทำงาน หากเจอเด็กที่ติดในรถเร็ว จะพบในสภาพตัวแดง แต่หากนานแล้ว เด็กจะตัวซีด และเสียชีวิต
การที่ทิ้งลูกไว้ในรถที่จอดกลางแจ้ง เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเด็ดขาด และควรนำเด็กลงจากรถไปด้วยทุกครั้ง และไม่ควรเปิดแง้มหน้าต่างไว้ แล้วปล่อยให้เด็กอยู่ภายใน เพราะการหน้าต่างรถ ไม่ได้ช่วยลดอุณหภูมิภายในรถ และสาเหตุแท้จริงของเด็กเสียชีวิต ไม่ได้มาจากขาดอากาศหายใจ ขณะที่การจอดรถในที่ร่ม เด็กก็อาจเสียชีวิตจากความร้อนที่สูงขึ้นได้เช่นกัน
นอกจากนี้ แม้แต่การเปิดแอร์ทิ้งไว้แล้วในรถ ก็อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ อย่างที่ปรากฏข่าวผู้ใหญ่ เปิดแอร์นอนอยู่ในรถ แล้วเสียชีวิตอยู่บ่อยครั้ง นั่นเพราะเมื่อจอดรถติดเครื่องยนต์ไว้ คนในรถจะสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากท่อไอเสียเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ เซื่องซึม สั่น กระตุก หากสูดดมก๊าซเข้าไปมาก ๆ อาจมีอาการหายใจติดขัด หมดสติโดยไม่รู้ตัว เพราะฮีโมโกลบินจะน้อยกว่าปกติ ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ และกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ทันที
บทความที่เกี่ยวข้อง : รถ Tesla ตกเหว เด็กรอดเพราะคาร์ซีท แต่พ่อถูกจับข้อหาพยายามฆ่า !?
วิธีป้องกันการลืมลูกไว้ในรถ
1. ห้ามทิ้งเด็กไว้ในรถโดยลำพังเด็ดขาด
ไม่ว่าจะต้องไปทำธุระนอกรถ เร็วหรือช้า ควรนำเด็กลงจากรถไปด้วยทุกครั้ง แม้เด็กจะหลับอยู่ ก็อย่ากังวลว่ากลัวเป็นการปลุกลูก กลัวลูกงอแง แต่ต้องเอาลูกลงจากรถด้วยทุกครั้ง ไม่ใช่เพียงความปลอดภัยเท่านั้น แต่เป็นการฝึกให้ลูกได้เรียนรู้ว่า ทุกครั้งที่จอดรถ ลูกต้องลงจากรถ
2. แง้มหน้าต่างรถก็ไม่ได้
ความเข้าใจผิด ๆ ที่ว่าการเปิดแง้มหน้าต่างไว้ในรถ แล้วปล่อยให้เด็กอยู่ภายใน จะทำให้เด็กไม่ขาดอากาศหายใจ แล้วจะปลอดภัย แต่ความจริงแล้วเด็กเสียชีวิต เพราะความร้อนสูง ไม่ว่าจะจอดกลางแดดหรือในที่ร่ม แต่เนื่องจากสภาพอากาศร้อนในปัจจุบัน ไม่กี่นาทีเด็กต้องแย่แน่ ๆ ยังไม่นับรวมการปล่อยเด็กทิ้งไว้ในรถลำพัง ก็อาจถูกลักพาตัวได้เช่นกัน
3. กรณีที่ต้องให้ลูกติดรถไปกับผู้อื่น
หมั่นตรวจสอบด้วยการโทรไปสอบถามเป็นระยะว่า ตอนนี้อยู่ที่ไหนอย่างไร เพราะการที่ต้องฝากลูกไว้กับผู้อื่น ต้องเข้าใจว่า เขาไม่ได้ดูแลลูกเราเป็นประจำ อาจทำให้หลงลืมหรือเผอเรอได้ และถ้าเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดกัน ก็ควรจะพูดกันอย่างตรงไปตรงมาว่า อยู่กับเด็กเล็กต้องระมัดระวังด้วย แต่ทางที่ดีไม่ควรปล่อยลูกวัยเด็กเล็กฝากไว้กับผู้อื่น ควรจะต้องมีพ่อแม่ หรือคนในครอบครัวประกบด้วยทุกครั้ง
4. กรณีที่เป็นรถโรงเรียน
พ่อแม่ต้องมั่นใจก่อนว่า จะตัดสินใจใช้บริการรถโรงเรียนหรือไม่ ไม่แนะนำให้ลูกเล็กใช้บริการรถโรงเรียน หากจำเป็นที่จะต้องใช้ พ่อแม่ต้องดูถึง มาตรการความปลอดภัยด้วย ไม่ใช่ดูเฉพาะสภาพรถว่าเป็นอย่างไรเท่านั้น แต่ต้องดูถึงเรื่องผู้ ที่ต้องเป็นคนไปรับส่งลูกว่า มีใครบ้าง คนขับรถเป็นอย่างไร คนที่ติดรถเป็นคุณครูระดับปฐมวัย มีความเข้าใจเรื่องเด็กเล็กไหม เวลารับส่งเด็กมีการเช็กชื่อเด็กหรือไม่ แล้วมาตรการของโรงเรียนเป็นอย่างไร เมื่อเด็กถึงโรงเรียนแล้ว มีการเช็กอีกครั้งหรือไม่
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องตระหนักอย่างยิ่งก็คือ ผู้ที่ใกล้ชิดเด็กเล็กทั้งหลาย ต้องมีความระมัดระวังมากกว่าปกติหลายเท่า เพราะต้องคิดเสมอว่า เด็กเล็กยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง เรื่องความปลอดภัยได้ เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องไม่ประมาท แม้เพียงเสี้ยววินาที เพราะเมื่อใดที่เกิดความประสาท อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสูญเสียได้ ดังนั้นการที่จะต้องลงไปทำธุระนอกรถ ไม่น่าจะใช้เวลามากหรือน้อยเพียงใด ให้พาลูกลงไปด้วยทุกครั้ง แต่ทางที่ดี ยังไงก็ไม่ควรทิ้งเด็กไว้ในรถคนเดียว
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ลูกหลับในรถ อันตราย! พ่อแม่ลงไปกินก๋วยเตี๋ยว กลับมาเปิดประตูไม่ได้ รถล็อคอัตโนมัติ
ไว้ใจคนผิด!! คนขับรถตู้รับ-ส่งนักเรียน ข่มขืนเด็ก ป.6 นานหลายเดือน
พ่อลืมลูกไว้ที่ปั๊ม จอดรถแวะเข้าห้องน้ำ ไม่รู้ลูกลงรถตามไปด้วย เด็กตอบพ่อรีบไปนอน !
ที่มารูปและบทความ : matichon, sanook