เหตุผลที่ผู้หญิงคนนี้วิ่งวันละ 20 กิโลเมตร จะทำให้คุณน้ำตาซึม
โฆษณาซึ้ง ๆ เกี่ยวกับแม่ จากเค้าโครงเรื่องจริง
านหนักของแม่ 6 งานที่ไม่มีวันจบสิ้นของคนเป็นแม่ ตกลงกับสามีก่อนคลอด ใครจะทำอะไรบ้าง
งานหนักของแม่ 6 งานที่ไม่มีวันจบสิ้นของคนเป็นแม่ ตกลงกับสามีก่อนคลอด ใครจะทำอะไรบ้าง หลังคลอดเจอแน่ๆ ถ้าสามีไม่ช่วยจะทำยังไงดีละ
งานของแม่หลังคลอด
เกิดเป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบากค่ะ หลังคลอดที่ว่าจะสบายขึ้นนั้น เป็นเพียงการไม่ต้องแบกน้ำหนักไว้กับตัวเท่านั้น แต่เรื่องอื่น งานอื่นของคนเป็นแม่ ที่จะตามมาก็มีเยอะแยะมากมายเลย ดังนั้น ก่อนที่จะคลอดอาจจะต้องตกลงกับคุณสามีค่ะว่า ใครจะทำอะไรกันบ้าง ถ้างานหลักของคุณแม่คือการดูแลลูก ให้นมแม่ และพักผ่อน งานที่เหลืออื่นๆ คือต้องเป็นความรับผิดชอบของสามีนะคะ
1.ผ้าอ้อมกองโต
หากคุณแม่คนไหนใช้ผ้าอ่อมสำเร็จรูป อาจไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้ค่ะ แต่นั่นก็หมายถึงการเสียเงินค่าผ้าอ้อมสำเร็จรูปอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และเสี่ยงให้ลูกเป็นผื่นผ้าอ้อมง่ายขึ้น เสียเงินค่าครีมทาผื่นผ้าอ้อมอีก แม้ว่าผ้าอ้อมแบบใช้แล้วซักจะมีข้อดีหลายอย่าง อย่างถ้าลูกเลยวัยที่ไม่ต้องใช้แล้วก็เอาไปทำผ้าเช็ดโต๊ะหรือผ้าถูพื้นได้ ที่สำคัญคือช่วยให้ลูกฝึกขับถ่ายได้ง่ายกว่าการใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป แต่ความรับผิดชอบต่อผ้าอ้อมแบบใช้แล้วซัก นั่นก็คือ ใช้แล้วต้องซักยังไงละคะ
2.ขวดนมนับโหล
หากเป็นคุณแม่ฟูลไทม์และเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนอาจไม่เจอกับปัญหานี้ค่ะ แต่สำหรับคุณแม่ที่ให้ลูกกินนมผง หรือมีการปั๊มนมให้ลูกกินจากขวด แน่นอนว่าสิ่งที่จะหนีไม่พ้นคือการล้างขวดนมและการนึ่งขวดนม เชื่อเถอะว่าถ้าการมีลูกจะทำให้คนเราเบื่อได้ ก็เพราะการล้างและนึ่งขวดนมคือหนึ่งในเหตุผลนั้น ยังไม่นับการล้างและนึ่งที่ปั๊มนมทุกวันนะคะ นี่ก็เป็นข้อดีของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตลอด 24 ชั่วโมงแบบไม่ต้องปั๊ม เพราะงานส่วนนี้จะถูกตัดออกไปค่ะ
3.ผ้าเช็ดแหวะเช็ดอ้วก
ก่อนจะเป็นแม่การเช็ดอ้วกชาวบ้านคงไม่มีอยู่ในหัวแน่ๆ แต่ถ้าเป็นลูกเรา แน่นอนว่ามันคือสิ่งที่ต้องทำค่ะ แต่ก็นั่นแหละ มันคงจะดีถ้าแหวะของลูกไม่ได้อยู่ไปทุกที่ ตั้งแต่บนไหล่ของคุณแม่ ไปจนถึงบนพื้นห้องน้ำ หรือบนเตียงนอน สิ่งที่ทำได้คือการปูแผ่นพลาสติกป้องกันไม่ให้เปื้อนผ้า และการก้มหน้าก้มตาเช็ดไปซะ
4.ปัจจัยที่ 6 รถเข็นเด็ก
คุณแม่บางคนใช้รถเข็นเด็กแทบจะเหมือนกันรถยนต์ คือพกติดตัวไปด้วยทุกที่ เข็นได้ทุกสภาพพื้นผิว และแน่นอนยิ่งลูกตัวหนักขึ้น อุ้มไม่ไหวแล้ว การใช้รถเข็นเด็กคือทางเลือกอันดับต้นๆ ค่ะ สิ่งที่คุณแม่ยังไม่รู้ตอนนี้คือ การเลือกรถเข็นเด็กไม่ต่างกับการเลือกรถยนต์สักคันเลย ทั้งฟังก์ชันการใช้งานที่มีเยอะแยะมากมาย และระดับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ต่างๆ ทั้งไทย ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป ก็เป็นเรื่องที่ทำให้คิดหนักเช่นกัน คุณแม่บางคนถึงกับลองแล้วลองอีก เลือกแล้วเลือกอีก หรือซื้อรถเข็นที่มากกว่า 1 คัน เพื่อการใช้งานที่หลากหลายและครอบคลุมนั่นเองค่ะ
5.เก็บกวาดเศษอาหาร
การกินอาหารของลูกคงคาดหวังว่าจะเรียบร้อยอาจเป็นไปไม่ได้ค่ะ และในบางกรณีลูกจะกินอาหารเลอะเทอะหรือแม้แต่การเล่นกับอาหาร เป็นระยะเวลานานหลายปี และแน่นอนคนเก็บเศษอาหารที่ลูกทำหล่น ป้ายตามเก้าอี้นั่งกินอาหาร ป้ายผ้าปูโต๊ะ หรือแม้แต่แอบขว้างอาหารก็ไม่ใช่ใคร คุณแม่หรือคุณพ่อน่ะแหละ ดังนั้นหลีกเลี่ยงอาหารที่เปื้อนแล้วทิ้งรอยไว้จะดีที่สุดค่ะ
6.การซักรีดแบบมหาศาล
ถ้าไม่ใช่คุณแม่สายแฟชั่น การซื้อเสื้อผ้าลูกอาจจะไม่เยอะมาก และเปลี่ยนระหว่างวันน้อยหน่อย แต่นั่นไม่ใช่ปัจจัยที่คุณแม่จะกำหนดได้ค่ะ เนื่องจากเสื้อผ้าเปื้อนระหว่างวันคือสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอในเด็กเล็กๆ และนั่นมันก็ทำให้คุณแม่มีเสื้อผ้าของลูกที่ใช้แล้วในแต่ละวัน เป็นปริมาณที่เยอะอยู่พอควรเลยละค่ะ ใช่ เรากำลังพูดถึงการซักผ้าจำนวนมหาศาลในแต่ละวัน เพราะนั่นหมายถึง เสื้อผ้าของลูกที่เปื้อนแหวะ เปื้อนอาหาร ฉี่ราด อุนจิรด ผ้าเช็ดน้ำลาย ผ้าเช็ดแหวะ และผ้า ฯลฯ ที่จะต้องมีแน่ๆ ค่ะเชื่อเถอะ
อย่าคิดว่าเป็นการขู่ค่ะ นี่ไม่ใช่การขู่เลย แต่เป็นการเตือนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าจริงๆ แต่เรื่องเล็กๆ เหล่านี้ มันจะผ่านเข้ามาและมันจะผ่านไปค่ะ รู้ตัวอีกทีคุณพ่อคุณแม่ก็ลืมช่วงชีวิตที่ต้องเช็ดแหวะลูกไปแล้วน่ะแหละ