สะดือทารก เรื่องเล็กที่ไม่เล็ก! ดูแลอย่างถูกวิธี ป้องกันการติดเชื้อ

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลสะดือทารก พร้อมคำตอบที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสะดือลูกน้อยอย่างถูกวิธี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สะดือทารก ถือเป็นจุดที่บอบบางและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย ปัญหาเกี่ยวกับสะดือทารก เช่น สะดืออักเสบ มีเลือดออก หรือมีกลิ่นเหม็น เป็นปัญหาที่พบบ่อย บทความนี้จึงรวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลสะดือทารก พร้อมคำตอบที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสะดือลูกน้อยอย่างถูกวิธี ปลอดภัย และคลายความกังวลใจค่ะ

 

สะดือทารกแรกเกิด สำคัญอย่างไร

สะดือทารก คือ จุดเชื่อมต่ออันสำคัญระหว่างลูกน้อยกับคุณแม่ในครรภ์ คอยลำเลียงเลือด ออกซิเจน และสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตจากแม่สู่ลูก

หลังคลอด แพทย์จะทำการตัดและหนีบสายสะดือ โดยส่วนที่เหลืออยู่บนตัวทารกจะถูกเรียกว่า “ขั้วสะดือ” ขั้วสะดือนี้จะมีลักษณะเป็นตุ่มเนื้อสีขาวขุ่น ชื้น และอาจมีคราบเลือดติดอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตาม สายสะดือประกอบด้วยเส้นเลือด ซึ่งอาจกลายเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายทารกได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผิวหนังบริเวณรอบสะดือยังบอบบางมาก ในช่วงแรกเกิดที่ภูมิคุ้มกันของทารกยังไม่แข็งแรง หากสะดือไม่สะอาด ลูกน้อยก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ง่าย

 

สะดือทารก สัปดาห์แรก เปลี่ยนแปลงอย่างไร

  • วันที่ 1-3 ขั้วสะดือจะเริ่มแห้งลง สีจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม คล้ายๆ ลูกเกด
  • วันที่ 4-7 ขั้วสะดือจะแห้งสนิท แข็ง และเริ่มหดตัวลง
  • วันที่ 7-14 โดยทั่วไป ขั้วสะดือจะหลุดออกเองภายใน 1-2 สัปดาห์หลังคลอด แต่ในบางรายอาจใช้เวลานานถึง 3 สัปดาห์

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สะดือทารกกี่วันหลุด

  • โดยเฉลี่ย 7-14 วัน
  • บางราย อาจใช้เวลานานถึง 3 สัปดาห์

ลักษณะสะดือทารกปกติ: ก่อนและหลังสะดือหลุด

หลังคลอด คุณพ่อคุณแม่อาจรู้สึกกังวลใจเกี่ยวกับลักษณะของสะดือลูกน้อย มาทำความเข้าใจลักษณะของสะดือทารกปกติกันค่ะ

ลักษณะ สะดือทารกปกติ

  • สะดือทารกปกติ ก่อนสะดือหลุด
  • มีขั้วสะดือติดอยู่ ซึ่งเป็นส่วนของสายสะดือที่เหลือหลังจากถูกตัด
  • ขั้วสะดือมีลักษณะเป็นตุ่มเนื้อสีขาวขุ่น ชื้น และอาจมีคราบเลือดติดอยู่บ้าง
  • ในช่วงสัปดาห์แรก ขั้วสะดือจะค่อยๆ แห้งลง เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม คล้ายลูกเกด และหดตัวลง
  • สะดือทารกปกติ หลังสะดือหลุด
  • สะดือควรแห้งสนิท ไม่มีของเหลวหรือหนอง
  • ไม่มีกลิ่นเหม็น
  • ผิวหนังรอบสะดือมีสีปกติ ไม่แดง ไม่บวม และไม่มีอาการอักเสบ
  • อาจมีน้ำเหลืองหรือเลือดซึมออกมาบ้างเล็กน้อยในช่วงแรก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ

ข้อควรระวัง

  • ติ่งเนื้อที่ขั้วสะดือ ในบางราย หลังจากสะดือหลุด อาจมีติ่งเนื้อขนาดเล็กโผล่ออกมา ไม่ต้องตกใจค่ะ ส่วนใหญ่มักจะหายไปเอง แต่เพื่อความมั่นใจ ควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์เพื่อตรวจดู
  • ห้ามโรยแป้ง ไม่ควรโรยแป้ง ยาผง หรือสมุนไพรใดๆ บริเวณสะดือ เพราะอาจทำให้เกิดการอับชื้น เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สะดือทารก โดนน้ำได้ไหม

คุณพ่อคุณแม่หลายคนกังวลว่าสะดือลูกน้อยจะเน่าหรือติดเชื้อหากโดนน้ำ แต่ความจริงแล้ว สะดือทารกโดนน้ำได้ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถอาบน้ำให้ลูกน้อยได้ตามปกติ

แต่สิ่งสำคัญคือ หลังอาบน้ำเสร็จ ต้องเช็ดทำความสะอาดสะดือลูกน้อยให้แห้งสนิททุกครั้ง โดยใช้แอลกอฮอล์ 70% เช็ดบริเวณขั้วสะดือ รวมถึงสายสะดือด้วย การทำความสะอาดอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันการสะสมของเชื้อโรค ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่สะดือได้

 

สะดือทารกอักเสบ สังเกตยังไง

สะดือทารกอักเสบ สาเหตุหลักมักเกิดจากการทำความสะอาดไม่ถูกวิธี หรือสะดือไม่แห้งสนิท ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตและทำให้เกิดการอักเสบได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สังเกตอาการสะดืออักเสบ

  • บวมแดงรอบๆ สะดือ
  • สะดือมีกลิ่นเหม็น
  • มีหนองหรือของเหลวไหลจากสะดือ

หากพบอาการเหล่านี้ อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบพาลูกน้อยไปพบแพทย์ทันที

 

สะดือทารกมีเลือดออก อันตรายไหม

หากพบว่าลูกน้อยมีเลือดออกจากสะดือ หรือมีอาการบวมแดงรอบสะดือ ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง อย่านิ่งนอนใจ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้

สะดือทารกมีเลือดออก อาจเป็นสัญญาณของปัญหา เช่น

  • การติดเชื้อ
  • การเสียดสี เช่น จากผ้าอ้อม
  • หลอดเลือดผิดปกติ ในบางราย อาจมีหลอดเลือดขนาดเล็กที่สะดือ ซึ่งทำให้มีเลือดออกง่าย

 

สะดือทารกแบบไหนผิดปกติ

หลังจากสายสะดือหลุด คุณพ่อคุณแม่อาจพบว่ามีน้ำเหลืองหรือเลือดซึมจากสะดือลูกน้อยเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากสังเกตเห็นความผิดปกติ ควรรีบพาลูกน้อยไปพบแพทย์ทันที

  • มีไข้สูงร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
  • ลูกร้องไห้งอแงเมื่อถูกแตะที่สะดือ แสดงว่าลูกน้อยรู้สึกเจ็บ ไม่สบายตัว
  • มีอาการบวมแดง หรือมีรอยแดงที่ฐานสะดือ บ่งบอกถึงการอักเสบ
  • สะดือมีกลิ่นเหม็น เกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
  • มีเลือดไหลออกมาเยอะ อาจเกิดจากการติดเชื้อ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือด
  • มีน้ำหนอง เป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่รุนแรง

อย่านิ่งนอนใจ! หากพบความผิดปกติใดๆ ควรรีบพาลูกน้อยไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที การปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้การติดเชื้อลุกลาม เป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิธีดูแลสะดือทารก 

การดูแลสะดือทารกแรกเกิดอย่างถูกวิธี จะช่วยป้องกันการอักเสบและการติดเชื้อ มาดูวิธีทำความสะอาดสะดือลูกน้อยที่ถูกต้องค่ะ

วิธีดูแลสะดือทารก 

  • วิธีดูแลสะดือทารก ก่อนสะดือหลุด
  • ทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ 70% วันละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังอาบน้ำ
  • พับผ้าอ้อมลงต่ำกว่าสะดือ เพื่อป้องกันการเสียดสีและความอับชื้น
  • ไม่ควรแกะ เกา หรือดึงตอสะดือ
  • สังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออกมาก มีหนอง มีกลิ่นเหม็น หรือบวมแดง
  • วิธีดูแลสะดือทารก หลังสะดือหลุด
  • ทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ 70% ทุกครั้งหลังอาบน้ำ จนกว่าสะดือจะแห้งสนิทดี
  • รักษาความสะอาดบริเวณสะดือ
  • สังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออกมาก มีหนอง มีกลิ่นเหม็น หรือบวมแดง

 

ขั้นตอนการทำความสะอาดสะดือทารก

  1. จับสายสะดือขึ้นตั้งตรง หมุนไปด้านซ้าย ด้านขวา ด้านหน้า และด้านหลัง สังเกตซอกเล็กๆ บริเวณโคนสะดือ
  2. ทำความสะอาดโคนสะดือ ใช้ Cotton Buds ชุบแอลกอฮอล์ 70% เช็ดบริเวณซอกโคนสะดือ หมุนไปในทางเดียวกัน ไม่ควรเช็ดย้อนไปมา หาก Cotton Buds สกปรก ให้เปลี่ยนอันใหม่ เช็ดจนกว่าจะสะอาด
  3. ทำความสะอาดสายสะดือ ใช้สำลีก้อนชุบแอลกอฮอล์ 70% เช็ดสายสะดือ เริ่มจากโคนขึ้นไปจนถึงปลาย เช็ดให้รอบทุกด้านจนสะอาด
  4. ทำความสะอาดผิวหนังรอบสะดือ ใช้สำลีก้อนชุบแอลกอฮอล์ 70% บีบให้หมาด เช็ดผิวหนังรอบๆ โคนสะดือ โดยหมุนวนประมาณ 1-2 นิ้ว เพื่อฆ่าเชื้อโรค

การเรียนรู้วิธีดูแลสะดือลูกน้อยอย่างถูกต้อง ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่สะดือ แต่ยังเสริมสร้างความมั่นใจให้คุณพ่อคุณแม่ในการดูแลลูกน้อย ส่งผลให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรง และเติบโตอย่างมีความสุขด้วยค่ะ

ที่มา : โรงพยาบาลศิครินทร์

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

2 พื้นฐานสำคัญในการดูแลทารก คู่มือสำหรับพ่อแม่มือใหม่ ที่คุณอาจไม่เคยรู้

ทารกปากคล้ำ เป็นไรไหม? ภาวะปกติ หรือสัญญาณอันตราย!?

ลูกหายใจครืดคราดเวลานอน อาการธรรมดาหรือสัญญาณอันตราย