ตั้งครรภ์แฝด ไม่ง่าย อันตรายกว่าที่คิด!
โดยทั่วไปการตั้งครรภ์ในมนุษย์จะมีเด็กทารกเพียงคนเดียวในครรภ์ ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติกำหนดให้มีไข่ตกเพียงฟองเดียวในแต่ละรอบเดือน เมื่อสตรีตั้งครรภ์จึงมีโอกาสเป็นการตั้งครรภ์เดี่ยวมากที่สุด อย่างไรก็ตาม พบว่าส่วนน้อยประมาณร้อยละ 5-10 ของสตรีตั้งครรภ์ที่จะมีโอกาส ตั้งครรภ์แฝด
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกลุ่มประชากรนั้น ๆ โดยเฉพาะกลุ่มสตรีที่มีบุตรยาก ซึ่งรักษาด้วยการกระตุ้นไข่ทำเด็กหลอดแก้วหรือฉีดน้ำเชื้อผสมเทียม จะมีโอกาสตั้งครรภ์แฝดสูงขึ้นชัดเจนกว่าคนทั่วไป
- โดยภาพรวมการตั้งครรภ์เดี่ยวถือว่ามีความปลอดภัยมากกว่า
- ภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่า
- เด็กทารกมีน้ำหนักแรกคลอดมากกว่า
- มารดามีน้ำนมพอเพียงในการเลี้ยงบุตร
- ทารกที่เกิดจากการตั้งครรภ์แฝดมักจะมีน้ำหนักแรกเกิดน้อย ตัวเล็ก ขึ้นกับอายุครรภ์ที่คลอด และการเจริญเติบโตในครรภ์ของทารกด้วย
ฝาแฝดยิ่งมีมาก น้ำหนักทารกในครรภ์ (แต่ละคน) ยิ่งน้อย
ในกรณีตั้งครรภ์เดี่ยวน้ำหนักแรกคลอดของทารกอยู่ราวประมาณ 2800-3200 กรัม หากเป็นแฝดสอง ทารกแต่ละคนอาจมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 2000-2500 กรัม ยิ่งเป็นแฝดสาม แฝดสี่ หรือ แฝดห้า ยิ่งมีน้ำหนักตัวที่น้อย (น้ำหนักทารก 1500, 1000-1200, 600-1000 กรัม ตามลำดับ) และมีโอกาสปอดทำงานผิดปกติสูงขึ้นซึ่งเป็นเหตุให้มีโอกาสเกิดทุพพลภาพหรือเสียชีวิตได้
การตั้งครรภ์แฝดจัดว่าเป็นการตั้งครรภ์เสี่ยงสูงชนิดหนึ่ง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงทั้งต่อมารดาและทารกในครรภ์ สูติแพทย์ทั่วไปจึงต้องให้ความใส่ใจครรภ์แฝดเป็นพิเศษ และติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้ผมลัพธ์การตั้งครรภ์ที่ดีที่สุดนั้นเอง
การตั้งครรภ์แฝดสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
- แฝดเหมือน (จากไข่ใบเดียวกัน) เมื่อมีการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนแล้วยังคงมีการแบ่งต่อเป็น 2 ตัวอ่อน ซึ่งจะมีหน้าตาเหมือนกัน เพศเดียวกัน แต่หากการแบ่งไม่สมบูรณ์จะเกิดเป็นแฝดติดกันได้
- แฝดไม่เหมือน (จากไข่คนละใบ) เกิดจากมีไข่ 2 ใบ ผสมกับอสุจิ 2 ตัว เสมือนพี่น้องท้องพร้อมกัน จึงมักเป็นแฝดที่มีหน้าตาคล้ายกัน อาจเป็นเพศเดียวกันหรือคนละเพศก็ได้ ทางการแพทย์มีความจำเป็นต้องแยกชนิดแฝดให้ได้เพื่อการวางแผนดูแลที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป
คุณแม่ท้องแฝดควรระวังสิ่งต่างๆ ดังนี้
การดูแลครรภ์แฝด ไตรมาสแรก
- มีโอกาสแท้งบุตรสูงกว่าปกติ ควรฝากครรภ์ให้เร็ว หมั่นดูแลสุขภาพตนเอง คอยสังเกตหากมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหรือหน่วงท้องน้อยให้รีบมาพบแพทย์
- มักจะมีอาการแพ้ท้องมากกว่าทั่วไป เนื่องจากฮอร์โมนตั้งครรภ์จะสูงขึ้นมากและรวดเร็ว ให้รับประทานอาหารอ่อน มื้อละน้อยแต่บ่อยๆ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดหรือมีกลิ่นฉุน เลี่ยงเครื่องดื่มน้ำอัดลม พักผ่อนให้เพียงพอ
- มีความเสี่ยงของเบาหวานในขณะตั้งครรภ์ได้มากขึ้น ควรเน้นควบคุมอาหารให้ลดสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรท เพิ่มโปรตีนที่ย่อยง่าย และผัก ควรจำกัดปริมาณอาหารให้พอดี ไม่มากจนเกินไป
การดูแลครรภ์แฝด ไตรมาสที่สอง
- จะมีน้ำหนักตัวขึ้นเร็วและมากกว่าตั้งครรภ์เดี่ยว กล้ามเนื้อหลังและน่องจะแบกรับน้ำหนักที่มากขึ้น มีโอกาสเป็นตะคริวได้ง่าย จึงต้องหลีกเลี่ยงการยืนหรือการเดินนานๆ ควรนั่งพัก เปลี่ยนท่าหรืออริยะบทบ่อยๆ สามารถนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อหรือประคบอุ่นได้ เพื่อลดอาการเมื่อยล้า
- สังเกตลูกดิ้น เนื่องจากมีทารกหลายคน การนับจำนวนครั้งโดยรวมเหมือนทั่วไปจึงไม่สามารถบอกสุขภาพของเด็กทารกแต่ละคนได้ แต่ให้คุณแม่สังเกตให้ดี จะสามารถแยกแยะได้ว่าลูกคนไหนดิ้นโดยแบ่งเป็นส่วนของหน้าท้อง เช่น ด้านขวา ด้านซ้าย ด้านบน ด้านล่าง เป็นต้น
การดูแลครรภ์แฝด ไตรมาสที่สาม
- ครรภ์แฝดมักจะพบเรื่องรกเกาะต่ำเพิ่มขึ้น อาจมีอาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้
- ครรภ์แฝดจะพบครรภ์เป็นพิษได้มากกว่าทั่วไป จึงต้องสังเกตเรื่องความดันโลหิตว่าสูงหรือไม่ ขาบวมมากขึ้นเยอะหรือไม่ ปวดศีรษะ จุกแน่นลิ้นปี่ ชายโครงบ่อยๆ หรือไม่
โดยรวมการตั้งครรภ์แฝดเป็นภาวะเสี่ยงทางสูติศาสตร์ที่สำคัญ แต่พบได้บ่อยมากขึ้นในปัจจุบัน การดูแลเอาใจใส่จากมารดา และพบสูติแพทย์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผ่านพ้นการตั้งครรภ์แฝดนี้ไปได้ และพร้อมที่จะต้อนรับสมาชิกใหม่ต่อไป
ภาพจาก : www.facebook.com/OpalPanisaraOfficial/
และ https://www.facebook.com/Thunder-and-Storm-official-122879205031697/
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
“นมชมพู่” น้ำนมเหลืองหลังคลอด ของแม่ชมที่ป้อนให้สายฟ้า-พายุ อยากรู้มั้ย มีดียังไง
ถึงจะสีผิวต่างกัน แต่หนูก็เป็นฝาแฝดกันนะคะ
หมอโอ๊คให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตา เป็นห่วงโอปอล์ ครรภ์เป็นพิษ เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด