เที่ยวอิตาลีตามรอยหนัง Call Me By Your Name เชื่อว่าใครที่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง Call Me By Your Name จะต้องรู้สึกอินไปกับความรักระหว่าง ‘เอลิโอ’ และ ‘โอลิเวอร์’ อย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากเรื่องราวความรักของทั้งสองแล้ว สิ่งที่ช่วยทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาครบและสมบูรณ์แบบก็คือโลเคชั่นที่ถ่ายทอดความเป็นอิตาลีในปี 1983 ออกมาได้สวยงามสุด ๆ จนใครหลาย ๆ คนที่ได้ดูเรื่องนี้อยากที่จะไปเที่ยวตามรอยซักครั้ง เราจึงได้รวบรวมที่ เที่ยวอิตาลีตามรอยหนัง Call Me By Your Name มาฝากกัน
1. เมือง Crema
เมืองเล็ก ๆ ที่เป็นหัวใจของภาพยนตร์ เมืองแห่งนี้เป็นเมืองขนาดเล็ก ที่รายล้อมไปด้วยหมู่บ้านขนาดย่อยอีกหลายหมู่บ้าน เมืองนี้เป็นเมืองที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีรถยนต์ที่แล่นอยู่ภายในเมืองน้อยมาก แต่กลับเต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมาปั่นจักรยานเหมือนที่เราได้เห็นจากในภาพยนตร์ และเนื่องจากกระแสตอบรับของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ดีมาก ๆ บวกกับความเป็นมิตรและความอัธยาศัยดีของคนภายในเมืองนี้ ทำให้ผู้คนในเมืองให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี และนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวตามรอยภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเวลาเดินให้ทั่วเมือง เพราะฉากที่ใช้ถ่ายทำส่วนใหญ่จะอยู่ที่จัตุรัส Piazza Duomo ที่มีจุดเด่นด้วยโบสถ์ขนาดใหญ่ประจำเมือง อีกทั้งภายในเมืองยังมีพื้นที่เซ็ตไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากถ่ายรูปเลียนแบบเอลิโอและโอลิเวอร์อีกด้วย รับรองว่าจะต้องประทับใจสุด ๆ
บทความที่น่าสนใจ : 7 พิพิธภัณฑ์ ระดับโลก ที่ควรไปซักครั้ง หลังหมดโควิด มีที่ไหนบ้าง
บริเวณจตุรัส Piazza Duomo ของเมือง Crema เมืองที่เป็นหัวใจหลักของเรื่อง ( ภาพจาก pixabay )
2. น้ำตก Cascate del Serio
น้ำตกที่เอลิโอและโอลิเวอร์ ไปเที่ยวด้วยกัน โดยน้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในอิตาลี โดยมีความสูงราว ๆ 1,000 ฟุต น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณทางตอนเหนือของเมืองมิลาน โดยห่างจากตัวเมืองประมาณ 100 กิโลเมตร โดยน้ำตกแห่งนี้ประกอบไปด้วยชั้นน้ำตกถึงสามชั้น โดยตัวน้ำตกนั้นอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่แสนงดงาม ส่วนอากาศก็เรียกได้ว่าอากาศดีสุด ๆ สำหรับน้ำตก Cascate del Serio แห่งนี้นั้นจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมประมาณ 5 ครั้งต่อปีเท่านั้น โดยนักท่องเที่ยวที่สนใจจะต้องเช็คให้ดีก่อน เพื่อจะได้ไปแล้วไม่เสียเที่ยว
น้ำตก Cascate del Serio น้ำตกที่เอลิโอและโอลิเวอร์ไปเที่ยวด้วยกันตอนท้ายเรื่อง ( ภาพจาก unsplash.com )
3. เมือง Pandino
อีกหนึ่งเมืองเล็ก ๆ ที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเมือง Pandino นั้นเป็นเมืองที่ค่อนข้างเงียบสงบ โดยมีปราสาท Castello Visconteo เป็นศูนย์กลางของเมือง โดยปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1350 อีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คในเมืองแห่งนี้ ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Monumento ai caduti หรืออนุสาวรีย์ของผู้เสียชีวิต โดยฉากสำคัญที่ถ่ายทำในบริเวณนี้ก็คือ ฉากที่เหมือนกับเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่อง ซึ่งเป็นฉากที่เอลิโอได้บอกความในใจครั้งแรกของเขาที่มีต่อโอลิเวอร์ โดยอนุสรณ์สถานแห่งนี้เปรียบเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของทหารที่ต่อสู้กับผู้บุกรุก เรียกได้ว่าหากได้มาเยือนที่ Pandino แห่งนี้ นอกจากจะฟินกับภาพยนตร์แล้ว ยังได้อินกับประวัติศาสตร์ของเมืองอีกด้วย
บทความที่น่าสนใจ : 8 ที่เที่ยวตามรอยประวัติศาสตร์โลก มีที่ไหนน่าไปเยือนบ้าง
เมือง Pandino เมืองที่เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่องนี้ ( ภาพจาก pixabay.com )
4. เมือง Moscazzano
เมืองเล็ก ๆ ที่ค่อนข้างเงียบสงบ โดยเมืองนี้ถือได้ว่าเป็นโลเคชั่นหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้เลยก็ว่าได้ โดยเมืองนี้จะเป็นฉากที่ถูกเซ็ตให้เป็นบ้านของเอลิโอ โดยหลัก ๆ จะถูกถ่ายทำที่ Villa Albergoni ซึ่งเป็นคฤหาสน์เก่าแก่ ที่มีความสวยงามมาก ๆ แบบที่เราเห็นจากในภาพยนตร์ ถึงแม้ว่าคฤหาสน์แห่งนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ก็ยังมีบางฉากที่ใช้พื้นที่ส่วนนอกให้นักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมชมได้ แต่ควรที่จะเคารพความเป็นส่วนตัวชองคฤหาสน์แห่งนี้ด้วย
5. บ่อเก็บน้ำ Fontanile Quarantina Farinate
บ่อเก็บน้ำเล็ก ๆ ที่เอลิโอได้พาโอลิเวอร์มา โดยบ่อเก็บน้ำแห่งนี้เป็นบ่อที่เก็บน้ำไว้ใช้สำหรับการทำเกษตรของคนในเมือง ซึ่งบ่อจะถูกรายล้อมไปด้วยไร่ข้าวโพดและลานหญ้าโล่ง บรรยากาศของที่นี่ค่อนข้างเหมาะแก่การมาปิกนิก บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และน้ำก็เย็นพอที่จะช่วยคลายร้อนจากอากาศได้ เปรียบเสมือนกับเป็นโอเอซิสให้คนในชุมชนได้มาพักผ่อน หรือนอนอ่านหนังสือได้เป็นอย่างดี ซึ่งน้ำในบ่อเก็บน้ำแห่งนี้ก็ใสมาก ๆ จนสามารถมองเห็นที่ก้นบ่อ อีกทั้งตัวบ่อยังก็ไม่ได้ลึกมาก โดยมีความลึกประมาณครึ่งแข้ง ซึ่งเหมาะแก่การหย่อนเท้าผ่อนคลายในน้ำเย็น ๆ เรียกว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การไปพักผ่อนมาก ๆ
6. ทะเลสาบ Lake Garda
ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี โดยฉากนี้จะเป็นฉากที่คณะสำรวจของพ่อของเอลิโอได้กอบกู้โบราณวัตถุขึ้นมาจากน้ำ โดยทะเลสาบแห่งนี้เต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์ที่งดงามของธรรมชาติและเทือกเขาแอลป์ โดยที่นี่เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนยอดนิยมที่มีทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองต่างก็มาพักผ่อนที่นี่ อีกทั้งที่นี่ยังมีกิจกรรมและกีฬาต่าง ๆ มากมายไว้ให้ได้พักผ่อน ทั้งยังรวมไปถึงร้านอาหาร ผับ บาร์ ต่างๆ ที่คอยต้อนรับและให้บริการแขกที่มาเยือน เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ทะเลสาบ Lake Garda ที่ทีมนักวิจัยของพ่อเอลิโอ กอบกู้โบราณวัตถุขึ้นมา ( ภาพจาก unsplash.com )
บทความที่เกี่ยวข้อง :
รวมที่เที่ยวตามหนังฮอลลีวู้ด 10 สถานที่จากหนังดัง ที่คนรักหนังควรไป
8 เทศกาลสุดแปลก ในแต่ละประเทศทั่วโลก มีที่ไหนน่าไปบ้าง
8 อุทยานแห่งชาติ รอบโลก ที่ควรไปซักครั้ง มีที่ไหนบ้าง
ที่มา :
adaymagazine , readthecloud, minimore