ลูกจะเรียนรู้ผ่านการเลียนแบบ มองเห็น และจดจำ เวลาที่แม่ทำอะไรลูกจะคอยมองว่าวันนี้แม่ตื่นมาทำอะไรบ้าง กวาดบ้าน ซักผ้า ตากผ้า ทำกับข้าว ฯลฯ และการยื่นงานบ้านง่าย ๆ ให้ลูกได้ช่วยทำตั้งแต่เล็กนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมพัฒนาทักษะสมองเพื่อชีวิตที่ประสบความสำเร็จในอนาคตได้ด้วย
แพทย์แนะ ฝึกให้ลูกตากผ้า ดีต่อลูกอย่างไร?
นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ได้แนะว่ากิจกรรมตากผ้า ที่ชวนให้ลูกมาฝึกทำนั้นเป็นกิจกรรมง่าย ๆ แต่สามารถช่วยกระตุ้นการพัฒนาระบบประสาทในหลายส่วนของสมองพร้อม ๆ กันและพัฒนา EF* ในวัยเด็กได้
1.เริ่มตั้งแต่ท่ายืน เท้าวางบนพื้นอย่างมั่นคง
การยืนตากผ้าจะทำให้เจ้าตัวเล็กได้ใช้กล้ามเนื้อน่องพยุงกระดูกหน้าแข้ง กล้ามเนื้อต้นขาพยุงขาทั้งหมด ทั้งหมดนี้จะมีส่วนช่วยในการทรงตัวของลูก ให้รับรู้ว่าเท้า ขา ต้นขา ข้อเข่า ข้อเท้ากำลังวางตัวในท่าไหน และมั่นคงดีหรือยัง โดยที่เจ้าตัวไม่ต้องก้มลงดู
2.มือหนึ่งหยิบผ้า มือหนึ่งหยิบไม้หนีบ ช่วยบริหารความจำ
แค่ความคิดในการหยิบผ้าแต่ละชิ้นขึ้นมาตาก หยิบไม้มาหนีบ จะหนีบลงไปตรงไหนเพื่อให้ผ้าติดอยู่กับราวไม่หล่นร่วงมากับพื้น หาตำแหน่งที่ถูกต้องและได้สมดุล ทั้งหมดนี้คือการกระทำที่จะช่วยพัฒนาสมองของลูกให้บริหารความจำอยู่เรื่อย ๆ และในที่สุดก็จะหยิบผ้าหนีบผ้าได้แคล่วคล่อง นอกจากนี้การหนีบผ้ายังช่วยฝึกการประสานมือและสายตาให้สัมพันธ์กันได้อย่างดีด้วย
3.ซักผ้าตากผ้า กลายเป็นวิชาได้แบบที่ไม่เคยคิด
นอกจากการหยิบตากผ้าให้ได้สมดุลแล้ว การหยิบเสื้อแต่ละชิ้นขึ้นมาทำให้เด็ก ๆ ได้รู้จักการแยกหมวดหมู่ ไหนเสื้อสี เสื้อขาว ชุดชั้นใน ถุงเท้า ฯลฯ แยกเป็นกลุ่ม ๆ เผลอ ๆ ก็ชวนให้ลูกนับชิ้นสอดแทรกวิชาคณิตศาสตร์แบบสนุก ๆ เข้าไปด้วย ทำให้ลูกได้ใช้ความคิดวิเคราะห์ในการแยกแยะอย่างยืดหยุ่น
4.ฝึกตากผ้า = ฝึกการควบคุมตนเอง (self-control)
ชวนลูกตากผ้าครั้งแรก ๆ ก็สนุก ทุกครั้งนานไปก็เบื่อ นี่จึงเป็นเวลาที่เด็กจะได้ฝึกการควบคุมตนเองให้มีความตั้งใจจดจ่อ รู้จักอดทนต่อการทำงานให้สำเร็จ ทำงานน่าเบื่อหรือยากเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่วอกแวก เมื่อไหร่ที่ลูกทำสำเร็จอย่าลืมที่จะให้คำชมเชยบ้าง ลูกจะได้ความภูมิใจเป็นรางวัล
ไม่เพียงงานบ้านแค่การตากผ้าเท่านั้น การค่อย ๆ ฝึกลูกจากงานง่าย ๆ ไปตามวัย เช่น ถูพื้นห้องนอนตัวเอง เก็บของเล่นให้เข้าที่ ทิ้งขยะ ล้างจาน ล้างห้องน้ำ ฯลฯ ทำให้พวกเขาได้เห็นว่าการทำงานบ้านเป็นเรื่องสนุกและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันที่จะต้องทำ นอกจากการพัฒนาทักษะในส่วนต่าง ๆ แล้วจากการศึกษาพบว่า เด็ก ๆ ที่ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านตั้งแต่เล็ก ๆ เมื่อเติบโตขึ้นจะเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ง่าย รู้จักเข้ากับสังคม เข้าใจผู้อื่นได้ดี เป็นคนมีน้ำใจและจิตใจดี เป็นพื้นฐานอันดีที่นำไปสู่ความสำเร็จได้ในอนาคตเพราะได้เรียนรู้ความลำบากผ่านประสบการณ์จากการทำงานบ้านมาแล้วในวัยเด็กนั่นเอง.
* EF ย่อมาจาก Executive Functions คือ กระบวนการทางความคิดในส่วน “สมองส่วนหน้า” ที่เกี่ยวข้องกับความคิด ความรู้สึก การกระทำ เป็นความสามารถของสมองที่ใช้บริหารจัดการชีวิตในเรื่องต่าง ๆ และสมองของเด็กในช่วง 3-6 ปีจะมีการพัฒนาทักษะ EF ได้ดีที่สุด
ที่มา : เพจนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
ภาพประกอบ ดช.นาวิน และ ดช.ภคิน
บทความใกล้เคียงที่น่าสนใจ :
วิจัยชี้ เด็กคนไหน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ประสบความสำเร็จ ลูกเจริญแน่ในชีวิต
งานบ้านง่าย ๆ สำหรับลูกอายุ 2-8 ขวบ