ไม่มีเวลาให้ลูก ต้องเลือกระหว่าง เงิน กับ เวลา คนเป็นพ่อเป็นแม่จะเลือกอะไร

ไม่มีเวลาให้ลูก ต้องเลือกระหว่าง เงิน กับ เวลา  คนเป็นพ่อเป็นแม่จะเลือกอะไร

ไม่มีเวลาให้ลูก ต้องเลือกระหว่าง เงิน กับ เวลา คนเป็นพ่อเป็นแม่จะเลือกอะไร เพราะไม่ว่าอะไรก็สำคัญกับครอบครัวทั้งนั้น เวลาก็สำคัญมากพอๆ กับเงินที่ต้องเอามาใช้จ่ายต่างๆ

ต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน

เราทุกคนมีเวลาเท่ากันหมด นั่นคือ 24 ชั่วโมงต่อวัน แต่สิ่งที่ไม่มีใครมีเท่ากันเลย คือ เงิน ดังนั้นตัวแปรที่สำคัญคือเวลาสำหรับการหาเงิน คนมีเงินน้อยก็จะทุ่มเวลากับการหาเงินเยอะ สำหรับคนที่มีเงินเยอะ ก็อาจจะทุ่มเวลากับการหาเงินน้อยลงหน่อย หรือไม่ก็เวลาหาเงินเท่ากัน เพียงแต่การมีเงินเป็นทุนตั้งต้นนั้นทำให้การหาเงินมันสบายขึ้นกว่ามากนั่นเองค่ะ

สำหรับคนเป็นพ่อแม่

หากคุณทั้งคู่แบ่งสรรปันส่วน กำหนดหน้าที่กันชัดเจนแล้วว่า ใครเป็นคนหาเงิน ใครเป็นคนให้เวลากับลูก สบายค่ะ เพราะหน้าที่คุณชัดเจน แต่เมื่อหมดหน้าที่ที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก ก็ควรจะกลับหน้าที่กันด้วยเช่นกัน เนื่องจากลูกควรจะต้องได้รับเวลาจากพ่อและแม่ และทุกวันนี้ครอบครัวส่วนใหญ่ทำงานกันทั้งคู่อยู่แล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น คือการไม่มีเวลากับลูก ส่วนใหญ่พ่อกับแม่จะทำหน้าที่หาเงินในเวลาเดียวกัน จึงอาจจะทำให้เกิดปัญหา หาคนมาเลี้้ยงลูกในเวลาที่พ่อแม่ต้องไปทำงาน และแม้ทางทฤษฎี ที่แบ่งเวลาออกเป็น 3 ส่วน ทำงาน นอน เวลาว่าง อย่างละ 8 ชั่วโมง แต่เอาเข้าจริง ไปทำงานไม่ใช่ 8 ชั่วโมงค่ะ บวกเพิ่มอีกชั่วโมงคือกินข้าว และบวกเพิ่มอีก 30 นาที - 4 ชั่วโมง ในการเดินทางไปทำงาน แน่นอนว่า 3 ส่วนนี้ไม่มีทางเท่ากันค่ะ

การเรียงลำดับความสำคัญ

เพราะการมีลูก ไม่ได้หมายความว่า คุณต้องหาเงินเพิ่มขึ้นเสมอไปค่ะ เด็กที่อยู่ในช่วงปฐมวัยนั้น ต้องการเวลาให้ความรักความผูกพันธ์มากที่สุด การสร้างความมั่นคงต่อจิตใจของเด็กๆ ในช่วงนี้จึงสำคัญที่สุดในชีวิตเขา นอกจากนี้สมองของเด็กๆ ก็ยังต้องได้รับการพัฒนาในช่วง 0-6 ปีแรกมากที่สุดเช่นกันค่ะ

ค่านิยมทำงานเยอะ

การทำงานเยอะๆ นั้นดีจริงรึเปล่า มีการสำรวจข้อมูลของพ่อแม่ที่สหราชอาณาจักร โดยพบว่า 3 ใน 4ของพ่อแม่หอบงานกลับมาทำที่บ้านในตอนเย็นต่อและในวัยหยุดเสาร์อาทิตย์เช่นกัน มีพ่อแม่เกือบครึ่งบอกว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยหรือตลอดเวลา พ่อแม่เพียง 1 ใน 3 ที่เลิกงานตรงเวลาและไม่เอางานกลับมาทำที่บ้าน

ข้อเสียของการทำงานเพิ่มขึ้นนี้ ส่งผลให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายเครียด และไม่ใช้เวลาอยู่กับลูก ไม่ช่วยลูกทำการบ้าน ทะเลาะกับสามีหรือภรรยา และทะเลาะกับลูก นี่คือสิ่งที่ต้องกับการทำงานเยอะมากเกินไปค่ะ

รักษาสมดุลเรื่องเงินและเวลา

ดังนั้นแม้การทำงานหาเงินจะจำเป็นต่อการสร้างครอบครัวและรักษาความมั่นคงไว้ แต่การมีเวลาให้ลูก และการมีเวลาให้กันและกันสำหรับคุณพ่อคุณแม่เอง ก็ยังจำเป็นอยู่ดีนะคะ ในปัจจุบันแนวโน้มการทำงานแบบยืดหยุ่นจึงมีมากขึ้น และการสร้างงานใหม่ๆ ก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน เป็นอีกทางเลือกสำหรับคุณพ่อคุณแม่นั่นเองค่ะ

ที่มา anitacleare

บทความที่น่าสนใจ

ปัญหาไม่มีเวลาให้ลูกจะหมดไป เพียงคุณให้ลูกได้มีส่วนร่วม

4 พฤติกรรมเเย่ๆ ที่พ่อแม่มักทำโดยไม่รู้ตัว เเต่ถึงเวลาต้องหยุดเสียที