คนท้องกับเทียนหอม แม่ท้องต้องระวัง เทียนหอมมีผลต่อร่างกายแม่และลูก!
ใครละจะปฏิเสธความหอม ของเทียนหอมได้ล่ะ เพราะ กลิ่นหอม ๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน และช่วยสร้างบรรยากาศหอมสดชื่นเพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือนได้ แต่รู้ไหมคะว่าสำหรับคนท้องนั้น เทียนหอม หรือ เครื่องหอม นั้นอาจจะเป็นอันตรายได้ คนท้องกับเทียนหอม แม่ท้องต้องระวัง เทียนหอมมีผลต่อร่างกายแม่และลูก!
คนท้องกับ เทียนหอม แม่ท้องต้องระวัง เทียนหอมมีผลต่อร่างกายแม่และลูก!
โดยเรื่องนี้ได้มาจากบทความของ John Naish จาก Daily Mail ลงข่าวว่า ผลิตภัณฑ์กลิ่นหอมหวานทั้งหลายนั้นอาจมีอันตรายซ่อนอยู่ในสารประกอบของหัวน้ำหอมและแวกซ์
โดยความน่ากลัวนั้น อยู่ที่สารเคมีที่พบได้ในน้ำหอม และ เทียน โดยมีการวิจัยเพิ่มเติมว่า น้ำหอมเหล่านั้นสามารถทำให้เกิดโรคหอบหืด และ สามารถสร้างความเสียหายให้ปอดในกรณีที่รุนแรง รวมถึงมะเร็งอีกด้วย
รวมไปถึงการจุดเทียนนั้นอาจจะเกิดมลพิษทางอากาศ โดยการศึกษาจาก EPA ในปี 2544 แสดงให้เห็นว่า เทียนหอมนั้นมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับโรคมะเร็ง
และในปี 2009 South Carolina State University ยังเตือนว่า สารเคมี ที่ปล่อยออกมาในอากาศเมื่อจุดเทียน มีสารพาราฟีน ที่ส่งผลอันตรายต่อแม่ท้องด้วยนะคะ
เทียนหอมบางประเภทสามารถก่อมลพิษภายในบ้านได้ งานศึกษาวิจัยขององค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. EPA) ชี้ชัดว่า เทียนหอมที่มีหัวน้ำหอมเยอะจะยิ่งมีเขม่ามาก
และเป็นไปได้ที่สารประกอบอินทรีย์บางอย่างในเทียนจะไปเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็ง แต่ว่าข้อมูลนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ยืนยันแน่นอน
แล้วเทียนหอมกับน้ำหอมปรับอากาศจะส่งผลต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ขนาดไหน คลิกอ่านต่อหน้าถัดไปเลยค่ะ
ความเสี่ยงระหว่างตั้งครรภ์
นิตยสาร Scientific American รายงานผลการวิจัยที่พิสูจน์ความเชื่อมโยงระหว่างการสัมผัสสาร phthalate (สารที่พบในน้ำหอมปรับอากาศและพลาสติกบางประเภท) ในช่วงตั้งครรภ์กับโอกาสเสี่ยงที่ทารกจะเป็นโรคหืดไว้ดังนี้
“สาร phthalate เป็นตัวรบกวนการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับโรคภัยต่าง ๆ เช่น ความพิการแต่กำเนิด มะเร็ง และเบาหวาน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าสารตัวนี้ส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจของเด็ก”
ในขณะเดียวกัน งานวิจัยปี 2009 ของมหาวิทยาลัยเซาท์แคโรไลนาได้เตือนให้ระวังสารเคมีบางตัว (เช่น alkane, alkene และ toluene) ที่ออกมาจากเทียนระหว่างเผาไหม้ เพราะสารเหล่านี้มีผลเสียต่อร่างกายมนุษย์
“คนที่จุดเทียนทุกวันเป็นเวลานาน หรือชอบจุดเทียนบ่อย ๆ ถ้าสูดสารพิษเข้าไปมาก ๆ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง ภูมิแพ้ และโรคหืดได้” ดร.รูฮูลาห์ มาสโซดิ ศาสตราจารย์ด้านเคมีและเจ้าของงานวิจัยดังกล่าวระบุไว้
สารเคมีที่เป็นพิษในน้ำหอมนั้นอาจพบได้ง่ายในผลิตภัณฑ์ เพราะกฎหมายที่กำกับดูแลอุตสาหกรรมน้ำหอมนั้นแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ครัวเรือนอื่นๆ เพราะกฎหมายที่ดูแลอุตสาหกรรมน้ำหอมนั้นส่วนใหญ่ บริษัทที่ผลิตน้ำหอมจะควบคุมกันเอง จากการศึกษาของสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในปี 1991 พบว่าสารเคมี 95% ในน้ำหอมเป็นสารประกบทีได้จากปิโตเลียม
จากการศึกษาของ Greenpeace เผยว่าพบแบรนด์น้ำหอมที่เรารู้จักกันดี 36 แบรนด์ มีส่วนประกอบของสารเคมีที่ก่อให้เกิดพิษสองชนิดนั้นก็คือ พาทาเลต และมัสค์ สงเคราะห์ โดยสาร เคมี สอง ชนิดนี้มีความสามารถในการปรับชีพจรของเลือดและกระแสเลือดในสมอง รวมถึงทำให้เกิดการปวดหัวไมเกรน และสุดท้ายจากการศึกษาขอสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม พบว่าสารเคมี Linalool ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้กันทั่วไปในน้ำหอมทำให้เกิดอาการง่วงซึมเศร้าและมีผลต่อระบบหายใจได้
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ลองพิจารณาตัวเลือกอื่นที่สร้างกลิ่นหอมให้บ้านได้โดยไม่เป็นอันตรายดูนะคะ ยกตัวอย่างเช่น
เทียนจากไขถั่วเหลือง : เทียนประเภทนี้ไม่ก่อมลพิษขณะเผาไหม้ และก่อเขม่าควันน้อยกว่าเทียนที่ทำจากพาราฟิน
เทียนขี้ผึ้ง : ขี้ผึ้งเป็นแวกซ์ที่บริสุทธิ์ที่สุด มาจากธรรมชาติแท้ ๆ ไม่มีสารเติมแต่งเจือปน นอกจากจะไม่ทิ้งคราบเขม่าเหนียวแล้ว ยังสร้างไอออนประจุลบที่ช่วยฟอกอากาศให้สะอาดขึ้นอีกด้วย
พืชในที่ร่ม : ถ้าอยากได้อากาศบริสุทธิ์ในบ้าน ขอแนะนำให้ปลูกต้นไม้ เช่น ว่านเศรษฐีเรือนใน ต้นลิ้นมังกร หมากเหลือง เฟิร์นบอสตัน ไว้รอบ ๆ บ้านดูนะคะ
Source : Woman’s Day
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
แม่ท้องฉีดน้ำหอมได้ไหม คนท้องห้ามใช้น้ำหอม วิจัยเผยน้ำหอมมีผลต่อสมองลูก
ชี้เป้าชอป น้ำหอมกลิ่นแป้งเด็ก หอมละมุน อินโนเซนส์ ใช้แล้วน่ากอดเหมือนเบบี๋
7 ข้อดีของการกอดลูก ยิ่งกอดลูกลูกยิ่งฉลาด ยิ่งกอดลูกลูกยิ่งเป็นคนเก่ง